การเอาชนะสภาพอากาศที่ไร้แสงอาทิตย์และหนาวเย็นบนดวงจันทร์มีความซับซ้อนมากเกินไป “ยานบลูโกสต์” (Blue Ghost) ของ Firefly Aerospace บริษัทเอกชนด้านเทคโนโลยีอวกาศในสหรัฐฯ ที่ลงจอดบนดวงจันทร์ จบภารกิจลงแล้ว หลังเข้าสู่ช่วงกลางคืนบนดวงจันทร์ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 2025 เวลา 06:15 น. (ตามเวลาประเทศไทย) พลังงานแบตเตอรีของยานได้หมดลง และไม่สามารถชาร์จพลังงานจากแสงอาทิตย์ได้ จึงต้องยุติภารกิจของยานลงเพียงเท่านี้ ซึ่งอยู่ได้เพียง 2 สัปดาห์เวลาบนโลก (เท่ากับระยะเวลาของช่วงกลางวันบนดวงจันทร์) เท่านั้น
ภารกิจของยานบลูโกสต์ (Blue Ghost) เป็นภารกิจยานลงจอดบนดวงจันทร์ครั้งแรกของทาง Firefly Aerospace โดยได้รับการสนับสนุนจากโครงการ CLPS (Commercial Lunar Payload Services) โครงการอวกาศที่ นาซาสนับสนุนและคัดเลือกภาคเอกชนในสหรัฐฯ เข้ามามีส่วนร่วมในการส่งยานสำรวจดวงจันทร์ (ทั้งการสร้างยานสำรวจ และจรวดที่ใช้ส่งยานขึ้นสู่อวกาศ) และยังส่งเสริมการพัฒนาภาคธุรกิจ-อุตสาหกรรมจากการสำรวจดวงจันทร์ รวมถึงทำให้นาซา (NASA) สามารถเก็บข้อมูลทางวิทยาศาสตร์จากอุปกรณ์ของนาซาที่ติดไปกับยานลงจอดภาคเอกชน เพื่อใช้สนับสนุนภารกิจในโครงการอาร์ทีมิส (Artemis) ที่จะพานักบินอวกาศลงสำรวจดวงจันทร์ในอนาคตอันใกล้
ยานบลูโกสต์ (Blue Ghost) บรรทุกสัมภาระที่เป็นอุปกรณ์ต่าง ๆ ของนาซา (NASA) 10 อย่าง และลงจอดบนดวงจันทร์สำเร็จในวันที่ 2 มีนาคม ค.ศ. 2025 ณ “ทะเลแห่งวิกฤต” (Mare Crisium) ที่ราบหินบะซอลต์แห่งหนึ่งบนดวงจันทร์ ถือเป็นยานสำรวจภาคเอกชนลำที่ 2 ที่ลงจอดบนดวงจันทร์ได้สำเร็จ ถัดจากยานโอดิสซิอุส (Odysseus) ยานสำรวจของ Intuitive Machines บริษัทเอกชนด้านเทคโนโลยีอวกาศอีกแห่งในสหรัฐฯ ที่ลงจอดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2024 โดยยานโอดิสซิอุสปฏิบัติภารกิจนาน 7 วันก่อนเข้าสู่ช่วงกลางคืน ณ พื้นที่ลงจอด
ระหว่างภารกิจของยานบลูโกสต์ (Blue Ghost) ที่จะปฏิบัติงานตามแผนนานประมาณ 2 สัปดาห์ (เท่ากับระยะเวลาของช่วงกลางวันบนดวงจันทร์) ยานสามารถทำการทดลองสาธิตต่าง ๆ ตั้งแต่การติดตามสัญญาณ GPS บนดวงจันทร์ และการขุดเจาะพื้นผิวดวงจันทร์ด้วยหัวเจาะหุ่นยนต์ สามารถสังเกตการณ์ปรากฏการณ์สุริยุปราคาเต็มดวงจากดวงจันทร์ (โลกบังดวงอาทิตย์เมื่อมองจากดวงจันทร์) ในขณะที่เกิดปรากฏจันทรุปราคาเต็มดวง (ดวงจันทร์โคจรเข้าไปในเงามืดของโลก) ในวันที่ 14 มีนาคม และส่งข้อมูลกลับมายังโลกมากถึง 119 กิกะไบต์ (รวมถึงข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ 51 กิกะไบต์)
ยานบลูโกสต์ (Blue Ghost) ยังคงปฏิบัติงานอย่างเต็มที่แม้ในช่วงเวลาชั่วโมงสุดท้ายของภารกิจ โดยยานสามารถถ่ายภาพดวงอาทิตย์ตกจากดวงจันทร์ เป็นข้อมูลใช้ศึกษาต่อว่า “แสงเรืองบริเวณขอบฟ้าของดวงจันทร์หลังดวงอาทิตย์ตก” (Lunar horizon grow) ที่นักบินอวกาศในภารกิจอะพอลโล 17 (Apollo 17) สังเกตได้ใน ค.ศ. 1972 เป็นผลจากการลอยตัวฟุ้งกระจายของฝุ่นเหนือพื้นผิวดวงจันทร์หรือไม่ โดยหลังดวงอาทิตย์ตก ณ พื้นที่ลงจอดของยานบลูโกสต์ ตัวยานยังคงปฏิบัติภารกิจต่อได้อีก 5 ชั่วโมง ในช่วงกลางคืนของดวงจันทร์ และสามารถถ่ายภาพเพื่อวัดความเปลี่ยนแปลงของฝุ่นดวงจันทร์หลังดวงอาทิตย์ตก ก่อนที่แบตเตอรีของยานจะหมดลง
หลังจากยานบลูโกสต์ (Blue Ghost) ยังมียานสำรวจภาคเอกชนลำอื่นที่จะลงจอดบนดวงจันทร์ต่อ คือ ยานรีซีเลียนซ์ (Resilience) ของ ispace บริษัทเอกชนด้านเทคโนโลยีอวกาศของญี่ปุ่น ที่มีกำหนดการลงจอดในวันที่ 6 มิถุนายน ค.ศ. 2025 และทาง Firefly Aerospace กำลังเตรียมภารกิจ “บลูโกสต์ มิชชัน 2” (Blue Ghost Mission 2) ภารกิจยานสำรวจดวงจันทร์ครั้งต่อไปของทางบริษัท ที่ยังคงได้รับการสนับสนุนจากโครงการ CLPS เพื่อส่งยานบลูโกสต์ลำถัดไปขึ้นสู่อวกาศในปี ค.ศ. 2026 และลงจอดบนบริเวณพื้นผิวดวงจันทร์ด้านไกลโลก และยานสำรวจของบริษัทอีกลำโคจรรอบดวงจันทร์
📌อ่าน : มุมมองจากดวงจันทร์ ! ช่วงเกิด “จันทรุปราคา” โดยยาน “Blue Ghost”
🎬 ชมคลิป : ปรากฏการณ์ “จันทรุปราคา” หรือ “ดวงจันทร์สีเลือด”
📌อ่าน : จอดสำเร็จ! Blue Ghost เตรียมภารกิจพา "มนุษย์" กลับดวงจันทร์
อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : space, พิสิฏฐ นิธิยานันท์ เจ้าหน้าที่สารสนเทศดาราศาสตร์ สดร.
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech