เป็นข่าวที่สังคมให้ความสนใจ กรณี “ไฮโซเก๊” หลอกหลวงเพื่อหวังผลประโยชน์ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกกับเหตุการณ์การหลอกลวง โดยเฉพาะในระดับโลก ต่างก็เคยมีกรณีการหลอกลวงอยู่มากมาย
Thai PBS รวบรวมเรื่องราว “คนเก๊” หรือนักต้มตุ๋นระดับโลก เคยมีเหตุการณ์ไหนที่หลอกลวงตุ้มตุ๋นกันแบบเหนือเมฆกันบ้าง ไปติดตามอ่านเพื่อเป็นอุทาหรณ์กันดู...
คลาร์ก ร็อคกี้เฟลเลอร์ ทายาทเก๊ตระกูลดัง
นักต้มตุ๋นชาวเยอรมันที่มีชื่อจริงว่า คริสเตียน คาร์ล เกอร์ฮาร์ตส์ไรเตอร์ (Christian Karl Gerhartsreiter) แต่ใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ตัวตนที่ชื่อ “คลาร์ก ร็อคกี้เฟลเลอร์ (Clark Rockefeller)” ทายาทของตระกูลร็อคกี้เฟลเลอร์อันโด่งดัง
ก่อนจะมาหลอกใช้ชื่อนามสกุลอันโด่งดัง เส้นทาง “คนเก๊” ของเขากินเวลายาวนานกว่า 30 ปี โดยเริ่มปลอมแปลงตัวตนตั้งแต่อายุ 17 ปี สวมรอยอ้างตัวเป็นตั้งแต่ลูกชายของขุนนางในยุโรป หนุ่มบัญชีจากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน บารอนเน็ตคนที่ 13 แห่งชิเชสเตอร์ (ตระกูลที่อุปโลกน์ขึ้นมา) และผู้กำกับซีรีส์ของอัลเฟรด ฮิทค๊อค
หลายตัวตนของเขามีขึ้นเพื่อหลอกลวงเอาเงิน ที่อยู่อาศัย ใช้นามสกุลเพื่อหลอกลวงให้ได้เข้าทำงานในตำแหน่งใหญ่โต และถึงขั้นเคยก่อเหตุฆาตกรรมแล้วหลบหนี เปลี่ยนตัวตนและใช้ชีวิตในฐานะตัวตนใหม่ และตัวตนอันมีชื่อเสียงที่สุดของเขาก็คือ “คลาร์ก ร็อคกี้เฟลเลอร์” หลังจากได้แต่งงาน มีลูก และเริ่มใช้นามสกุล “ร็อคกี้เฟลเลอร์” เพื่อหาผลประโยชน์
ทว่าทุกอย่างก็เริ่มถูกเปิดโปง เจ้าหน้าที่สืบสวนแกะรอยคดีฆาตกรรมที่เขาเคยก่อไว้ในอดีต เขายังคงใช้วิธีเดิม หลบหนีและสร้างตัวตนใหม่ แต่ครั้งนี้เขาถูกเอฟบีไอจับกุม และถูกดำเนินคดีย้อนรอยทางทั้งหมดที่เขาได้ทำเอาไว้
แฟรงก์ อบาเนล นักต้มตุ๋นระดับโลก ที่ปลอมสารพัดอาชีพ
แฟรงค์ อบาเนล (Frank Abagnale) นักต้มตุ๋นชื่อดังมีเรื่องราวชีวิตที่โลดโผน จนถูกนำมาสร้างเป็นหนังเรื่อง Catch Me If You Can (2002)
จากเด็กวัยรุ่นที่หนีออกจากบ้านตอนอายุ 16 เริ่มต้นวิถีนักต้มตุ๋นด้วยการแต่งตัวภูมิฐานเพื่อหลอกล่อปลอมแปลงเช็กขึ้นเงินที่ทำเงินไปมากถึง 4 ล้านดอลลาร์ จนเมื่อจะถูกไล่ล่าตามจับ เขาก็ได้เริ่มต้นชีวิตปลอมตัวเพื่อหลบหนี ตั้งแต่เป็นผู้ช่วยนักบิน หมอกุมารแพทย์ ทนายความ และอาจารย์มหาวิทยาลัย
การปลอมตัวแต่ละตัวตนของเขามีแผนการซับซ้อน ทั้งพูดคุยกับคนในอาชีพนั้น ๆ เพื่อหาข้อมูล ปลอมแปลงเอกสารสำคัญบางอย่าง อ่านตำราหนังสือวิชาชีพนั้น ๆ เป็นการเฉพาะ แต่ท้ายที่สุดเขาใช้ชีวิตปลอมตัวอยู่ได้ 4 ปี ก่อนจะถูกจับกุมได้ที่ฝรั่งเศส และต้องโทษจำคุกรับผิดอยู่หลายปีจากความผิดฐานฉ้อโกง
แฟรงค์ อบาเนลได้รับอิสรภาพ ด้วยข้อตกลงให้มาเป็นที่ปรึกษา ช่วยรัฐบาลเพื่อลดการก่ออาชญากรรมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ในช่วงเวลาดังกล่าวเขาต้องทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ตามร้านค้าทั่วไปเพื่อยังชีพพร้อมปิดบังตัวตนในอดีตเป็นเวลานาน ก่อนที่ท้ายที่สุดเขาจะสามารถผันตัวเองมาเป็นที่ปรึกษาทั้งบริษัทและบุคคลทั่วไปเกี่ยวกับความปลอดภัยเกี่ยวกับการฉ้อโกงได้สำเร็จ
เดวิด แฮมป์ตัน ตระกูลดังของคนจอมปลอม
การลวงหลอกทุกอย่างของเดวิด แฮมป์ตัน (David Hampton) ดูเหมือนปนเรื่องตกกระไดพลอยโจน เมื่อจุดเริ่มต้นมาจากที่เขาไปเที่ยวกับเพื่อนแต่เข้าผับไม่ได้ จึงอ้างตัวว่าเป็นลูกคนดัง แล้วหลังจากนั้นทุกอย่างก็ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ไม่แปลกที่เรื่องราวทั้งหมดจะกลายเป็นแรงบันดาลใจของบทละครที่ชื่อ Six Degrees of Separation (1993) ในเวลาต่อมา
เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นหลังจากที่เขาอ้างว่าตัวเองคือ เดวิด ปัวตีเย ลูกชายของซิดนีย์ ปัวตีเย (Sidney Poitier) ดาราฮอลลีวูดชื่อดัง นักแสดงผิวสีคนแรกที่ได้รับรางวัลออสการ์ จนทำให้เซเลบคนดังหลายคนในยุค 80 หลงเชื่อได้สำเร็จ
สิ่งที่ทำให้เรื่องราวของเขาโดดเด่นเป็นที่สนใจ คือ ความแนบเนียน เสน่ห์ และการวางตัวบางอย่าง ทำให้เขาสามารถหลอกล่อให้ผู้คนหลงเชื่อ เขาใช้วิธีหลอกว่าตนเองกำลังลำบาก เช่น ตกเครื่องบินและถูกปล้มสัมภาระไป หลายคนได้โอนเงินให้เพื่อช่วยเหลือเขา หลายบ้านยินดีให้เขาพักอยู่ด้วยและให้เขารับประทานอาหารฟรี ทั้งหมดทั้งมวลมาจากการหลงเชื่อว่าเขาคือลูกของคนดัง เขาหลอกลวงผู้คนมากมายโดยเฉพาะกลุ่มคนดังในแวดวงสังคมชั้นสูงได้สำเร็จเป็นเวลานานถึง 2 ปี ก่อนจะถูกจับได้ในท้ายที่สุด
เฟอร์ดินานด์ วัลโด เดมารา คนจอมปลอมผู้ยิ่งใหญ่
เฟอร์ดินานด์ วัลโด เดมารา (Ferdinand Waldo Demara) ได้ชื่อว่าเป็น คนจอมปลอมผู้ยิ่งใหญ่ เรื่องราวในชีวิตของเขาถูกนำไปสร้างเป็นหนังชื่อ The Great Impostor (1960) เนื่องจากเขาได้ปลอมแปลงตัวตนเพื่อประกอบอาชีพเฉพาะมากมาย จากบาทหลวงในโบสถ์ วิศวกรโยธา ผู้คุมนักโทษในเรือนจำ รองนายอำเภอ โดยการปลอมตัวที่เหลือเชื่อที่สุด ได้แก่ การปลอมตัวเป็นศัลยแพทย์ประจำเรือรบของกองทัพแคนาดา แถมยังทำการผ่าตัดช่วยคนไข้มากถึง 13 คนด้วยกัน
ทั้งนี้ การปลอมตัวของเขาถูกวิเคราะห์ในภายหลังว่า ไม่ได้ทำไปเพื่อเงิน แต่ทำเพราะเขาต้องการการยอมรับ หลายครั้งเขาเลือกปลอมเป็นอาชีพที่กำลังขาดแคลน ประกอบกับความจำที่ดีเลิศ พร้อมทักษะการโน้มน้าวใจและการแสดงของเขา จึงทำให้สามารถปลอมตัวเข้าไปทำอาชีพเฉพาะทางมากมายได้สำเร็จ
ในเวลาต่อมา เฟอร์ดินานด์ได้ขายเรื่องราวของเขาลงในนิตยสาร Life แต่เนื่องจากการหลอกลวงที่ผ่านมาทั้งหมด เขาไม่ได้ทำเพื่อเงิน จึงทำให้ชีวิตในช่วงท้ายของเขาไม่ได้มีเงินทองมากมายนัก การปลอมตัวหลังจากนั้นทำได้ยากขึ้น เพราะเขาเริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักจากนิตยสาร ในเวลาต่อมา เขาหันมารับงานแสดงเพียงเล็กน้อย ก่อนจะพยายามหนีจากอดีตของตัวเอง ทำงานในตำแหน่งเล็ก ๆ ตามโบสถ์และโรงพยาบาล
ไม่ว่าจะด้วยจุดประสงค์ใด ขึ้นชื่อว่า “การหลอกลวง” ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่พึงกระทำ สังคมควรมีความระมัดระวัง และช่วยกันสอดส่อง เพื่อไม่ให้ใครตกเป็นเหยื่อจากการหลอกหลวง...
อ้างอิง
