นายกสมาคมฮวงจุ้ยประเทศไทย ชี้ว่า หลักการของศาสตร์ “ฮวงจุ้ย” เป็นการยึดหลักความจริง และหลักวิทยาศาสตร์ ในการคำนวณทิศทาง และสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมของการตั้งที่อยู่อาศัย หรือ สถานที่ ส่วนเครื่องรางต่าง ๆ เป็นเพียงเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจเท่านั้น
ความหมายที่แท้จริงของศาสตร์ “ฮวงจุ้ย” คือ การประสานลมและน้ำ หรือ การประสานชีวิต ให้มีความสุขต่อยอดให้เกิดการพัฒนา นายกสมาคมฮวงจุ้ยประเทศไทย ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกับความเชื่อ งมงาย เพราะหลักฮวงจุ้ยมีเหตุผล มีหลักวิทยาศาสตร์รองรับ
“ฮวงจุ้ย” แบ่งออกเป็น 2 วิชา คือ วิชาภาคทฤษฎี เกี่ยวกับ ฟ้า ดิน คน ชัยภูมิของบ้าน และด้านพิธีกรรม เกี่ยวกับชะตาชีวิต การเสริมดวง ซึ่งส่วนใหญ่คนจะเชื่อด้านพิธีกรรม เครื่องราง และของแก้เคล็ดมากกว่า มีเพียงร้อยละ 10 ที่เชื่อภาคทฤษฎี ทั้งที่ตามหลักการต้องเน้นด้านทฤษฎีเป็นหลัก
สำหรับการกำกับดูแล "ซินแสฮวงจุ้ย" ในไทยยังไม่มีการออกใบรับรอง หรือ การันตีอาชีพ ต่างจากในต่างประเทศที่มีสมาคมกำกับดูแล และให้ใบรับรอง
หากซินแสบางคนไปร่ำเรียนต่างประเทศ ก็จะมีใบรับรอง และนำมาต่อยอดเปิดคอร์สสอนได้ จุดนี้จึงอาจเป็นช่องว่างให้ซินแสบางคน อาศัยความเชื่อมาหลอกลวง และปัจจุบันซินแสหลายคนนำหลักศาสนาอื่น มาร่วมกับศาสตร์ฮวงจุ้ย ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิด
นายกสมาคมฮวงจุ้ยประเทศไทย ชี้ว่า หลักการของศาสตร์ “ฮวงจุ้ย” เป็นการยึดหลักความจริง และหลักวิทยาศาสตร์ ในการคำนวณทิศทาง และสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมของการตั้งที่อยู่อาศัย หรือ สถานที่ ส่วนเครื่องรางต่าง ๆ เป็นเพียงเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจเท่านั้น
ความหมายที่แท้จริงของศาสตร์ “ฮวงจุ้ย” คือ การประสานลมและน้ำ หรือ การประสานชีวิต ให้มีความสุขต่อยอดให้เกิดการพัฒนา นายกสมาคมฮวงจุ้ยประเทศไทย ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกับความเชื่อ งมงาย เพราะหลักฮวงจุ้ยมีเหตุผล มีหลักวิทยาศาสตร์รองรับ
“ฮวงจุ้ย” แบ่งออกเป็น 2 วิชา คือ วิชาภาคทฤษฎี เกี่ยวกับ ฟ้า ดิน คน ชัยภูมิของบ้าน และด้านพิธีกรรม เกี่ยวกับชะตาชีวิต การเสริมดวง ซึ่งส่วนใหญ่คนจะเชื่อด้านพิธีกรรม เครื่องราง และของแก้เคล็ดมากกว่า มีเพียงร้อยละ 10 ที่เชื่อภาคทฤษฎี ทั้งที่ตามหลักการต้องเน้นด้านทฤษฎีเป็นหลัก
สำหรับการกำกับดูแล "ซินแสฮวงจุ้ย" ในไทยยังไม่มีการออกใบรับรอง หรือ การันตีอาชีพ ต่างจากในต่างประเทศที่มีสมาคมกำกับดูแล และให้ใบรับรอง
หากซินแสบางคนไปร่ำเรียนต่างประเทศ ก็จะมีใบรับรอง และนำมาต่อยอดเปิดคอร์สสอนได้ จุดนี้จึงอาจเป็นช่องว่างให้ซินแสบางคน อาศัยความเชื่อมาหลอกลวง และปัจจุบันซินแสหลายคนนำหลักศาสนาอื่น มาร่วมกับศาสตร์ฮวงจุ้ย ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิด