ในช่วงนี้เราจะพูดถึงประโยชน์ของสมุนไพรที่ช่วยรักษาอาการกรดไหลย้อน มาร่วมพูดคุยกับ หมอนัท ณัฐพล วาสิกดีลก แพทย์แผนไทย ซึ่งจะมาแนะนำวิธีการรักษาอาการกรดไหลย้อนด้วยสมุนไพรที่หาได้ง่ายในประเทศไทย
อาการกรดไหลย้อนจริงๆ แล้วคล้ายๆ กับโรคกระเพาะอาหาร คือมีอาการอาหารไม่ย่อย เกิดแก๊ส ท้องผูกง่าย มีลมง่าย และจุลินทรีย์ที่ดีหายไป เมื่อมีความตึงเครียดอยู่ด้วย จะทำให้เกิดภาวะ กระษัย หรือรัดตึงภายใน ทำให้อาหารย่อยไม่ดี และส่งผลให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา เช่น โรคแพนิค โรคเครียด โรคซึมเศร้า เป็นต้น
สำหรับผู้ที่มีอาการกรดไหลย้อน สามารถใช้สมุนไพรต่างๆ ที่แนะนำมาช่วยรักษาได้ โดยเริ่มจากการรักษาแผลในกระเพาะอาหารด้วยกล้วยน้ำว้าดิบ ลดความเครียดด้วยยาหอม และขับลมด้วยน้ำขิง รวมถึงการบำรุงร่างกายด้วยธัญพืช เพื่อให้กระบวนการย่อยอาหารดีขึ้น และช่วยลดอาการกรดไหลย้อนได้
ปัญหาสำคัญที่ต้องจัดการคือการรักษาแผลในกระเพาะอาหาร โดยสมุนไพรที่ช่วยได้ดี คือ
สามารถหาซื้อได้ทั่วไปในประเทศไทย โดยให้หั่นเป็นแว่นบางๆ ประมาณ 2 แว่น และจิ้มด้วยน้ำผึ้ง กินก่อนอาหารครึ่งชั่วโมง เพื่อช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ให้ใช้กล้วยดิบ ที่ยังเป็นสีเขียวล้วน
นอกจากนี้ ยางที่อยู่ในเปลือกกล้วย ก็มีฤทธิ์ในการรักษาแผลในกระเพาะอาหารได้เช่นกัน โดยสามารถกินเปลือกกล้วยไปด้วยได้ ไม่จำเป็นต้องล้างออก
สำหรับผู้ที่มีอาการกรดไหลย้อนระยะเริ่มต้น หรือโรคกระเพาะระยะแรก สามารถใช้ ยาหอม เช่น ดอกมะลิ ดอกพิกุล ดอกบัวหลวง เป็นต้น ช่วยให้ระบบประสาทผ่อนคลาย และช่วยให้กระบวนการย่อยอาหารดีขึ้น โดยให้กินก่อนอาหารประมาณ 15-30 นาที
สำหรับผู้ที่มีอาการกรดไหลย้อนระยะที่ 2 หรือ 3 ที่มีลมมาก ให้ดื่ม น้ำขิง ซึ่งจะช่วยให้ลมออกมาได้ดีขึ้น และช่วยให้กระบวนการย่อยอาหารดีขึ้นด้วย สามารถดื่มก่อนหรือหลังอาหารก็ได้
สำหรับผู้ที่มีอาการกรดไหลย้อนระยะที่ 3 ที่มีอาการรุนแรงและหมดแรง ให้ทานธัญพืชต่างๆ เช่น ข้าวโพดลูก เดือย งาดำ ถั่วแดง ถั่วเขียว ข้าวสาลี เป็นต้น เพื่อช่วยบำรุงร่างกาย และเป็นอาหารของจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ ซึ่งจะช่วยให้กระบวนการย่อยดีขึ้น
ให้หั่นกล้วยน้ำว้าดิบเป็นแว่นบางๆ ประมาณ 2 แว่น จิ้มด้วยน้ำผึ้ง และกินก่อนอาหารครึ่งชั่วโมง เพื่อช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร
ยาหอมจะช่วยให้ระบบประสาทผ่อนคลาย และช่วยให้กระบวนการย่อยอาหารดีขึ้น โดยให้กินก่อนอาหารประมาณ 15-30 นาที
น้ำขิงจะช่วยขับลมออกมาได้ดีขึ้น และช่วยให้กระบวนการย่อยอาหารดีขึ้น สามารถดื่มก่อนหรือหลังอาหารก็ได้
ในช่วงนี้เราจะพูดถึงประโยชน์ของสมุนไพรที่ช่วยรักษาอาการกรดไหลย้อน มาร่วมพูดคุยกับ หมอนัท ณัฐพล วาสิกดีลก แพทย์แผนไทย ซึ่งจะมาแนะนำวิธีการรักษาอาการกรดไหลย้อนด้วยสมุนไพรที่หาได้ง่ายในประเทศไทย
อาการกรดไหลย้อนจริงๆ แล้วคล้ายๆ กับโรคกระเพาะอาหาร คือมีอาการอาหารไม่ย่อย เกิดแก๊ส ท้องผูกง่าย มีลมง่าย และจุลินทรีย์ที่ดีหายไป เมื่อมีความตึงเครียดอยู่ด้วย จะทำให้เกิดภาวะ กระษัย หรือรัดตึงภายใน ทำให้อาหารย่อยไม่ดี และส่งผลให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา เช่น โรคแพนิค โรคเครียด โรคซึมเศร้า เป็นต้น
สำหรับผู้ที่มีอาการกรดไหลย้อน สามารถใช้สมุนไพรต่างๆ ที่แนะนำมาช่วยรักษาได้ โดยเริ่มจากการรักษาแผลในกระเพาะอาหารด้วยกล้วยน้ำว้าดิบ ลดความเครียดด้วยยาหอม และขับลมด้วยน้ำขิง รวมถึงการบำรุงร่างกายด้วยธัญพืช เพื่อให้กระบวนการย่อยอาหารดีขึ้น และช่วยลดอาการกรดไหลย้อนได้
ปัญหาสำคัญที่ต้องจัดการคือการรักษาแผลในกระเพาะอาหาร โดยสมุนไพรที่ช่วยได้ดี คือ
สามารถหาซื้อได้ทั่วไปในประเทศไทย โดยให้หั่นเป็นแว่นบางๆ ประมาณ 2 แว่น และจิ้มด้วยน้ำผึ้ง กินก่อนอาหารครึ่งชั่วโมง เพื่อช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ให้ใช้กล้วยดิบ ที่ยังเป็นสีเขียวล้วน
นอกจากนี้ ยางที่อยู่ในเปลือกกล้วย ก็มีฤทธิ์ในการรักษาแผลในกระเพาะอาหารได้เช่นกัน โดยสามารถกินเปลือกกล้วยไปด้วยได้ ไม่จำเป็นต้องล้างออก
สำหรับผู้ที่มีอาการกรดไหลย้อนระยะเริ่มต้น หรือโรคกระเพาะระยะแรก สามารถใช้ ยาหอม เช่น ดอกมะลิ ดอกพิกุล ดอกบัวหลวง เป็นต้น ช่วยให้ระบบประสาทผ่อนคลาย และช่วยให้กระบวนการย่อยอาหารดีขึ้น โดยให้กินก่อนอาหารประมาณ 15-30 นาที
สำหรับผู้ที่มีอาการกรดไหลย้อนระยะที่ 2 หรือ 3 ที่มีลมมาก ให้ดื่ม น้ำขิง ซึ่งจะช่วยให้ลมออกมาได้ดีขึ้น และช่วยให้กระบวนการย่อยอาหารดีขึ้นด้วย สามารถดื่มก่อนหรือหลังอาหารก็ได้
สำหรับผู้ที่มีอาการกรดไหลย้อนระยะที่ 3 ที่มีอาการรุนแรงและหมดแรง ให้ทานธัญพืชต่างๆ เช่น ข้าวโพดลูก เดือย งาดำ ถั่วแดง ถั่วเขียว ข้าวสาลี เป็นต้น เพื่อช่วยบำรุงร่างกาย และเป็นอาหารของจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ ซึ่งจะช่วยให้กระบวนการย่อยดีขึ้น
ให้หั่นกล้วยน้ำว้าดิบเป็นแว่นบางๆ ประมาณ 2 แว่น จิ้มด้วยน้ำผึ้ง และกินก่อนอาหารครึ่งชั่วโมง เพื่อช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร
ยาหอมจะช่วยให้ระบบประสาทผ่อนคลาย และช่วยให้กระบวนการย่อยอาหารดีขึ้น โดยให้กินก่อนอาหารประมาณ 15-30 นาที
น้ำขิงจะช่วยขับลมออกมาได้ดีขึ้น และช่วยให้กระบวนการย่อยอาหารดีขึ้น สามารถดื่มก่อนหรือหลังอาหารก็ได้