ในยุคปัจจุบันที่คนส่วนใหญ่ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน ปัญหาด้านสุขภาพเกี่ยวกับกล้ามเนื้อและกระดูกจึงเป็นเรื่องที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ กระดูกเคลื่อน และกระดูกสันหลังยึดติด ซึ่งการนวดจัดกระดูก ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรักษาอาการเหล่านี้
การนวดจัดกระดูก เป็นเทคนิคการรักษาที่ใช้การกดและการยืดกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น เพื่อให้เกิดการคลายตัวและการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น โดยมักจะมีเสียงดังเกิดขึ้นจากการยืดข้อต่อ ซึ่งเป็นเสียงของฟองอากาศในข้อที่แตกตัวออก ทั้งนี้ การนวดจัดกระดูก มีผลในสองด้านหลัก ๆ คือ:
1. ผลของการนวด: ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ตึงตัว และเพิ่มการไหลเวียนของเลือด
2. ผลของการยืด: ช่วยยืดกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นที่มีการตึงตัว ให้กลับมามีความยืดหยุ่นมากขึ้น
นอกจากนี้ เสียงดังขณะทำการนวดจัดกระดูก ยังช่วยให้ผู้รับการรักษารู้สึกว่าตนเองได้รับการรักษาที่ถูกต้อง และมีความมั่นใจในการรักษามากขึ้น
แม้ว่าการนวดจัดกระดูก จะเป็นวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยม แต่ก็มีความเสี่ยงที่ควรระวังดังนี้:
1. อาจทำให้กล้ามเนื้ออักเสบมากขึ้น หรือเกิดการบาดเจ็บเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่มีการอักเสบอยู่แล้ว
2. อาจทำให้หมอนรองกระดูกเคลื่อนออกมามากขึ้น และไปกดทับเส้นประสาท ส่งผลให้เกิดอาการชาและอ่อนแรงของแขนหรือขา
3. สำหรับผู้ที่มีกระดูกบาง หรือมีปัญหาเรื่องกระดูกพรุน การนวดจัดกระดูก อาจทำให้กระดูกยุบตัวลงมากขึ้น
ดังนั้น ก่อนตัดสินใจรับการนวดจัดกระดูก ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสม และพิจารณาถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือมีปัญหาเรื่องกระดูกและข้อ
1. ผู้ที่มีหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท หรือมีปัญหาเรื่องกระดูกและข้ออักเสบ เนื่องจากการนวดจัดกระดูก อาจทำให้อาการแย่ลง
2. ผู้ที่มีกระดูกบาง หรือมีปัญหาเรื่องกระดูกพรุน เพราะการนวดจัดกระดูก อาจทำให้กระดูกยุบตัวลงมากขึ้น
3. ผู้สูงอายุ เนื่องจากกระดูกและข้อต่อมีความเปราะบางมากขึ้นตามวัย การนวดจัดกระดูก จึงมีความเสี่ยงสูงกว่ากลุ่มอื่น
1. ตรวจสอบประวัติโรคประจำตัวและปัญหาสุขภาพของตนเองก่อน เพื่อประเมินความเหมาะสมในการรับการรักษา
2. เลือกสถานบริการที่มีใบรับรองและมีนักกายภาพบำบัดหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล
3. ควรมีการถ่ายภาพเอ็กซเรย์หรือตรวจด้วยวิธีการอื่น ๆ ก่อนการรักษา เพื่อประเมินสภาพของกระดูกและข้อต่อ
การนวดจัดกระดูก เป็นวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยมสำหรับปัญหาด้านกล้ามเนื้อและกระดูก แต่ก็มีความเสี่ยงที่ต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับกระดูกและข้อ ดังนั้น การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนการรักษาจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้รับการดูแลอย่างถูกต้องและปลอดภัย
ชมย้อนหลังรายการคนสู้โรคได้ที่ www.thaipbs.or.th/KonSuRoak
www.thaipbs.or.th/KonSuRoakในยุคปัจจุบันที่คนส่วนใหญ่ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน ปัญหาด้านสุขภาพเกี่ยวกับกล้ามเนื้อและกระดูกจึงเป็นเรื่องที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ กระดูกเคลื่อน และกระดูกสันหลังยึดติด ซึ่งการนวดจัดกระดูก ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรักษาอาการเหล่านี้
การนวดจัดกระดูก เป็นเทคนิคการรักษาที่ใช้การกดและการยืดกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น เพื่อให้เกิดการคลายตัวและการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น โดยมักจะมีเสียงดังเกิดขึ้นจากการยืดข้อต่อ ซึ่งเป็นเสียงของฟองอากาศในข้อที่แตกตัวออก ทั้งนี้ การนวดจัดกระดูก มีผลในสองด้านหลัก ๆ คือ:
1. ผลของการนวด: ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ตึงตัว และเพิ่มการไหลเวียนของเลือด
2. ผลของการยืด: ช่วยยืดกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นที่มีการตึงตัว ให้กลับมามีความยืดหยุ่นมากขึ้น
นอกจากนี้ เสียงดังขณะทำการนวดจัดกระดูก ยังช่วยให้ผู้รับการรักษารู้สึกว่าตนเองได้รับการรักษาที่ถูกต้อง และมีความมั่นใจในการรักษามากขึ้น
แม้ว่าการนวดจัดกระดูก จะเป็นวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยม แต่ก็มีความเสี่ยงที่ควรระวังดังนี้:
1. อาจทำให้กล้ามเนื้ออักเสบมากขึ้น หรือเกิดการบาดเจ็บเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่มีการอักเสบอยู่แล้ว
2. อาจทำให้หมอนรองกระดูกเคลื่อนออกมามากขึ้น และไปกดทับเส้นประสาท ส่งผลให้เกิดอาการชาและอ่อนแรงของแขนหรือขา
3. สำหรับผู้ที่มีกระดูกบาง หรือมีปัญหาเรื่องกระดูกพรุน การนวดจัดกระดูก อาจทำให้กระดูกยุบตัวลงมากขึ้น
ดังนั้น ก่อนตัดสินใจรับการนวดจัดกระดูก ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสม และพิจารณาถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือมีปัญหาเรื่องกระดูกและข้อ
1. ผู้ที่มีหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท หรือมีปัญหาเรื่องกระดูกและข้ออักเสบ เนื่องจากการนวดจัดกระดูก อาจทำให้อาการแย่ลง
2. ผู้ที่มีกระดูกบาง หรือมีปัญหาเรื่องกระดูกพรุน เพราะการนวดจัดกระดูก อาจทำให้กระดูกยุบตัวลงมากขึ้น
3. ผู้สูงอายุ เนื่องจากกระดูกและข้อต่อมีความเปราะบางมากขึ้นตามวัย การนวดจัดกระดูก จึงมีความเสี่ยงสูงกว่ากลุ่มอื่น
1. ตรวจสอบประวัติโรคประจำตัวและปัญหาสุขภาพของตนเองก่อน เพื่อประเมินความเหมาะสมในการรับการรักษา
2. เลือกสถานบริการที่มีใบรับรองและมีนักกายภาพบำบัดหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล
3. ควรมีการถ่ายภาพเอ็กซเรย์หรือตรวจด้วยวิธีการอื่น ๆ ก่อนการรักษา เพื่อประเมินสภาพของกระดูกและข้อต่อ
การนวดจัดกระดูก เป็นวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยมสำหรับปัญหาด้านกล้ามเนื้อและกระดูก แต่ก็มีความเสี่ยงที่ต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับกระดูกและข้อ ดังนั้น การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนการรักษาจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้รับการดูแลอย่างถูกต้องและปลอดภัย
ชมย้อนหลังรายการคนสู้โรคได้ที่ www.thaipbs.or.th/KonSuRoak
www.thaipbs.or.th/KonSuRoak