ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ภาคการเกษตรก็ได้รับผลกระทบอย่างมาก ทั้งในด้านการปรับตัวเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลง และการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน และสร้างความยั่งยืนให้กับอาชีพเกษตรกร
การขาดแคลนแรงงาน ค่าแรงที่สูงขึ้น และปัญหาสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน เป็นความท้าทายสำคัญที่เกษตรกรต้องเผชิญในปัจจุบัน ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนการผลิตและผลผลิตที่ได้รับ
ในขณะเดียวกันเทคโนโลยีก็เป็นโอกาสใหม่ที่เกษตรกรสามารถนำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และลดต้นทุนการดำเนินงาน อาทิ ระบบเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farm) ที่ช่วยควบคุมและติดตามสภาพแวดล้อมในการปลูกพืชได้อย่างแม่นยำ, การปลูกพืชแบบไฮโดรพอนิกส์ ที่ช่วยประหยัดพื้นที่และทรัพยากรน้ำ, หรือแม้แต่การนำ เทคโนโลยีการแปรรูปและการตลาดออนไลน์ มาใช้เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิต
ด้วยการผสมผสานระหว่างภูมิปัญญาเกษตรกรรุ่นเก่า และนวัตกรรมเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้เกิดรูปแบบการเกษตรที่ก้าวไปสู่ความยั่งยืน โดยมีกรณีศึกษาที่น่าสนใจ ดังนี้
นายณัฐวุฒิ หรือ "พี่นัท" เป็นอีกหนึ่งเกษตรกรรุ่นใหม่ที่นำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในสวนผลไม้ของครอบครัว โดยการติดตั้งระบบ เกษตรอัจฉริยะ (Smart Farm) ที่ช่วยควบคุมและติดตามสภาพแวดล้อมในการปลูกพืชได้อย่างแม่นยำ ทั้งอุณหภูมิ ความชื้น ระดับน้ำ และปริมาณน้ำฝน ผ่านเซนเซอร์ที่ติดตั้งในพื้นที่เพาะปลูก นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมการให้น้ำและปุ๋ยอัตโนมัติ ช่วยให้เกษตรกรสามารถบริหารจัดการสวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปตรวจสอบทุกครั้ง
นอกจากการใช้ระบบเกษตรอัจฉริยะแล้ว พี่นัทยังได้นำเทคโนโลยีการปลูกพืชแบบ ไฮโดรพอนิกส์ มาใช้ในการปลูกผักสลัด และผักสวนครัวอื่น ๆ ในโรงเรือนปิด ซึ่งช่วยให้สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมได้อย่างแม่นยำ และประหยัดพื้นที่เพาะปลูกลงได้มาก เมื่อเทียบกับการปลูกแบบดั้งเดิม
นอกจากการใช้เทคโนโลยีในกระบวนการผลิตแล้ว พี่นัทยังได้นำเทคโนโลยีมาช่วยในการแปรรูปผลผลิต และการตลาดออนไลน์ด้วย โดยได้พัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผําที่มีความโดดเด่นด้านคุณค่าทางโภชนาการ เช่น คุกกี้ผํา และโปรตีนผํา เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตและขยายช่องทางการจัดจำหน่ายไปยังตลาดออนไลน์และต่างประเทศ
จากกรณีศึกษาข้างต้น จะเห็นได้ว่า การนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในภาคการเกษตรนั้น สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน และสร้างความยั่งยืนให้กับอาชีพเกษตรกรได้อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นระบบเกษตรอัจฉริยะ การปลูกพืชแบบไฮโดรพอนิกส์ หรือการแปรรูปและการตลาดออนไลน์ ซึ่งล้วนแต่เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เกษตรกรสามารถปรับตัวและแข่งขันได้ในยุคดิจิทัล
ติดตามชมรายการมหาอำนาจบ้านนา วันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม 2568 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live
ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ภาคการเกษตรก็ได้รับผลกระทบอย่างมาก ทั้งในด้านการปรับตัวเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลง และการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน และสร้างความยั่งยืนให้กับอาชีพเกษตรกร
การขาดแคลนแรงงาน ค่าแรงที่สูงขึ้น และปัญหาสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน เป็นความท้าทายสำคัญที่เกษตรกรต้องเผชิญในปัจจุบัน ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนการผลิตและผลผลิตที่ได้รับ
ในขณะเดียวกันเทคโนโลยีก็เป็นโอกาสใหม่ที่เกษตรกรสามารถนำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และลดต้นทุนการดำเนินงาน อาทิ ระบบเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farm) ที่ช่วยควบคุมและติดตามสภาพแวดล้อมในการปลูกพืชได้อย่างแม่นยำ, การปลูกพืชแบบไฮโดรพอนิกส์ ที่ช่วยประหยัดพื้นที่และทรัพยากรน้ำ, หรือแม้แต่การนำ เทคโนโลยีการแปรรูปและการตลาดออนไลน์ มาใช้เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิต
ด้วยการผสมผสานระหว่างภูมิปัญญาเกษตรกรรุ่นเก่า และนวัตกรรมเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้เกิดรูปแบบการเกษตรที่ก้าวไปสู่ความยั่งยืน โดยมีกรณีศึกษาที่น่าสนใจ ดังนี้
นายณัฐวุฒิ หรือ "พี่นัท" เป็นอีกหนึ่งเกษตรกรรุ่นใหม่ที่นำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในสวนผลไม้ของครอบครัว โดยการติดตั้งระบบ เกษตรอัจฉริยะ (Smart Farm) ที่ช่วยควบคุมและติดตามสภาพแวดล้อมในการปลูกพืชได้อย่างแม่นยำ ทั้งอุณหภูมิ ความชื้น ระดับน้ำ และปริมาณน้ำฝน ผ่านเซนเซอร์ที่ติดตั้งในพื้นที่เพาะปลูก นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมการให้น้ำและปุ๋ยอัตโนมัติ ช่วยให้เกษตรกรสามารถบริหารจัดการสวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปตรวจสอบทุกครั้ง
นอกจากการใช้ระบบเกษตรอัจฉริยะแล้ว พี่นัทยังได้นำเทคโนโลยีการปลูกพืชแบบ ไฮโดรพอนิกส์ มาใช้ในการปลูกผักสลัด และผักสวนครัวอื่น ๆ ในโรงเรือนปิด ซึ่งช่วยให้สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมได้อย่างแม่นยำ และประหยัดพื้นที่เพาะปลูกลงได้มาก เมื่อเทียบกับการปลูกแบบดั้งเดิม
นอกจากการใช้เทคโนโลยีในกระบวนการผลิตแล้ว พี่นัทยังได้นำเทคโนโลยีมาช่วยในการแปรรูปผลผลิต และการตลาดออนไลน์ด้วย โดยได้พัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผําที่มีความโดดเด่นด้านคุณค่าทางโภชนาการ เช่น คุกกี้ผํา และโปรตีนผํา เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตและขยายช่องทางการจัดจำหน่ายไปยังตลาดออนไลน์และต่างประเทศ
จากกรณีศึกษาข้างต้น จะเห็นได้ว่า การนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในภาคการเกษตรนั้น สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน และสร้างความยั่งยืนให้กับอาชีพเกษตรกรได้อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นระบบเกษตรอัจฉริยะ การปลูกพืชแบบไฮโดรพอนิกส์ หรือการแปรรูปและการตลาดออนไลน์ ซึ่งล้วนแต่เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เกษตรกรสามารถปรับตัวและแข่งขันได้ในยุคดิจิทัล
ติดตามชมรายการมหาอำนาจบ้านนา วันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม 2568 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live