"ยินดีที่ได้รู้จัก" นำพาผู้ชมไปสัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนในอำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นอำเภอที่มีอาณาเขตใหญ่เป็นอันดับสองของจังหวัด โดยพื้นที่ร้อยละ 80 เป็นป่าสงวน และส่วนที่เหลือได้รับการจัดสรรเป็นพื้นที่ สปก. ให้ชาวบ้านใช้ทำการเกษตร ประชากรของสนามชัยเขตประกอบด้วยผู้คนหลากหลายชาติพันธุ์ ทั้งชาวลาวพวน ชาวกัมพูชาที่พูดภาษาเขมร คนไทยภาคกลาง และคนอีสาน ซึ่งอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานหลังการตัดถนนผ่านทางลาดชัยในปี พ.ศ. 2506 ส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม ปลูกพืชสำคัญสี่ชนิด ได้แก่ ยางพารา ยูคาลิปตัส ข้าว และมันสำปะหลัง
ในการเดินทางครั้งนี้ เปอร์-สุวิกรมได้พบกับน้ารัตน์ ผู้หญิงใจดีที่ได้นำเสื้อผ้ามาแขวนไว้ให้คนที่ขัดสนได้หยิบไปใช้ฟรี ๆ โดยทำมาแล้วกว่า 3 ปี น้ารัตน์ยังเป็นเจ้าของร้านข้าวมันไก่และข้าวขาหมูในตลาดท้องถิ่น แม้จะมีโรคประจำตัวคือนอนไม่หลับและกรดไหลย้อน แต่น้ารัตน์ก็มีความสุขเมื่อได้เห็นลูกหลานมาหา ได้ทำกับข้าวให้กิน จากนั้นเปอร์-สุวิกรมได้พบกับลุงพิศ สามีของน้ารัตน์ ซึ่งเคยทำงานรับจ้างและขายผลไม้ดอง ปัจจุบันมีความสุขกับชีวิตหลังเกษียณ ไม่มีความทุกข์ เพราะมีเงินใช้ มีบ้านอยู่ และมีรถขับ ครอบครัวของน้ารัตน์และลุงพิศอาศัยอยู่ในบริเวณที่ดินซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษ แผ่นดินผืนใหญ่ที่บางส่วนได้ถูกยกให้แก่ที่ว่าการอำเภอ
ต่อมา พี่เปอร์ได้พบกับพี่อั้ม เจ้าของตลาดนัดใหญ่หัวนา ที่เปิดมานานกว่า 20 ปี ตลาดนี้เปิดให้บริการทุกวันเสาร์ อาทิตย์ และพฤหัสบดี โดยเก็บค่าเช่าล็อกละ 100 บาท (ขนาด 3 เมตร) พี่อั้มเล่าว่าหลังจากที่มีการขยายถนนเป็น 4 เลน จำนวนคนที่มาใช้บริการตลาดกลับเพิ่มขึ้น เนื่องจากเส้นทางนี้เป็นทางลัดที่สามารถเชื่อมต่อไปยังจังหวัดชลบุรี ระยอง และจันทบุรีได้ ที่น่าสนใจคือ ขณะที่พี่เปอร์กำลังพูดคุยกับพี่อั้ม เขาได้พบกับ "เจ้าของตลาดตัวจริง" ซึ่งคือคุณแม่ปทุม แม่ของพี่อั้ม ผู้ที่นั่งเก็บค่าห้องน้ำอยู่หน้าห้องน้ำในตลาด คุณแม่ปทุมเล่าว่าแต่ก่อนในละแวกนี้ไม่มีตลาดนัด จึงตัดสินใจเปิดตลาดขึ้นมาและให้ผู้คนเช่าพื้นที่ขายของ คุณแม่ปทุมมีความสุขกับการได้พบปะผู้คนในตลาด ไม่มีความทุกข์ใด ๆ และชอบความสนุกสนาน โดยเฉพาะการดูการแสดงกลองยาว
ในตอนท้ายของรายการ พี่เปอร์ได้เยี่ยมชมฟาร์มผักไฮโดรโพนิกส์ของพี่ต้อและสามี ซึ่งเลือกที่จะเปลี่ยนพื้นที่บ้านให้เป็นแปลงปลูกผักแบบไร้ดิน พี่ต้อเล่าว่าธุรกิจนี้ให้ผลกำไรแน่นอน และดีกว่าการทำงานแบบเร่งรีบในเมือง ถึงแม้บางวันจะเหนื่อยเพราะต้องตื่นแต่เช้าและมีออเดอร์จำนวนมาก แต่ก็มีความสุขกับการได้ทำงานอยู่กับบ้าน สนามชัยเขตเป็นอำเภอที่มีการเติบโตของเมืองตามแนวถนนใหญ่ แต่เมื่อลึกเข้าไปยังคงเป็นพื้นที่ป่าและการเกษตร เป็นที่น่าสนใจว่าแม้มีถนนสี่เลนตัดผ่าน แต่วิถีชีวิตของผู้คนยังคงเรียบง่าย ผู้คนมีความสุขกับสิ่งที่ตนมี ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว ที่อยู่อาศัย หรืออาชีพการงาน
แต่อะไรคือเสน่ห์ที่แท้จริงของอำเภอสนามชัยเขต? ทำไมแม้จะอยู่ห่างไกลความเจริญ แต่ผู้คนกลับมีรอยยิ้มและความสุขในแบบของตนเอง? การได้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติและใช้ชีวิตเรียบง่ายเป็นปัจจัยสำคัญหรือไม่? และหากคุณมีโอกาสได้ย้ายไปใช้ชีวิตในอำเภอเล็กๆ เช่นนี้ คุณจะสามารถปรับตัวและมีความสุขเหมือนผู้คนที่นี่ได้หรือไม่?
สำหรับผู้ที่กำลังมองหาสถานที่พักผ่อนหรือใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ อำเภอสนามชัยเขตอาจเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยอากาศดี วิถีชีวิตที่เรียบง่าย และความเอื้ออาทรของผู้คน ทำให้ที่นี่มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ชวนให้ผู้มาเยือนหลงรัก ไม่ว่าจะเป็นตลาดนัดท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยสินค้าหลากหลาย ร้านอาหารพื้นบ้านรสชาติอร่อย หรือแม้แต่การเกษตรสมัยใหม่อย่างการปลูกผักไฮโดรโพนิกส์ที่กำลังได้รับความนิยม
ตามไปค้นหาความสุขในวิถีชีวิตเรียบง่ายที่อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา อำเภอชายขอบที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและผู้คนที่น่าสนใจ พร้อมเปิดรับคุณให้มาสัมผัสวิถีชีวิตที่ช้าลง แต่เต็มไปด้วยความหมายมากขึ้น
ติดตามชมได้ในรายการ ยินดีที่ได้รู้จัก วันเสาร์ที่ 8 มีนาคม 2568 เวลา 17.05 - 17.30 น. ทางไทยพีบีเอส รับชมออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live และรับชมยินดีที่ได้รู้จักฉบับ UNCUT ได้ที่ www.VIPA.me
"ยินดีที่ได้รู้จัก" นำพาผู้ชมไปสัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนในอำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นอำเภอที่มีอาณาเขตใหญ่เป็นอันดับสองของจังหวัด โดยพื้นที่ร้อยละ 80 เป็นป่าสงวน และส่วนที่เหลือได้รับการจัดสรรเป็นพื้นที่ สปก. ให้ชาวบ้านใช้ทำการเกษตร ประชากรของสนามชัยเขตประกอบด้วยผู้คนหลากหลายชาติพันธุ์ ทั้งชาวลาวพวน ชาวกัมพูชาที่พูดภาษาเขมร คนไทยภาคกลาง และคนอีสาน ซึ่งอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานหลังการตัดถนนผ่านทางลาดชัยในปี พ.ศ. 2506 ส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม ปลูกพืชสำคัญสี่ชนิด ได้แก่ ยางพารา ยูคาลิปตัส ข้าว และมันสำปะหลัง
ในการเดินทางครั้งนี้ เปอร์-สุวิกรมได้พบกับน้ารัตน์ ผู้หญิงใจดีที่ได้นำเสื้อผ้ามาแขวนไว้ให้คนที่ขัดสนได้หยิบไปใช้ฟรี ๆ โดยทำมาแล้วกว่า 3 ปี น้ารัตน์ยังเป็นเจ้าของร้านข้าวมันไก่และข้าวขาหมูในตลาดท้องถิ่น แม้จะมีโรคประจำตัวคือนอนไม่หลับและกรดไหลย้อน แต่น้ารัตน์ก็มีความสุขเมื่อได้เห็นลูกหลานมาหา ได้ทำกับข้าวให้กิน จากนั้นเปอร์-สุวิกรมได้พบกับลุงพิศ สามีของน้ารัตน์ ซึ่งเคยทำงานรับจ้างและขายผลไม้ดอง ปัจจุบันมีความสุขกับชีวิตหลังเกษียณ ไม่มีความทุกข์ เพราะมีเงินใช้ มีบ้านอยู่ และมีรถขับ ครอบครัวของน้ารัตน์และลุงพิศอาศัยอยู่ในบริเวณที่ดินซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษ แผ่นดินผืนใหญ่ที่บางส่วนได้ถูกยกให้แก่ที่ว่าการอำเภอ
ต่อมา พี่เปอร์ได้พบกับพี่อั้ม เจ้าของตลาดนัดใหญ่หัวนา ที่เปิดมานานกว่า 20 ปี ตลาดนี้เปิดให้บริการทุกวันเสาร์ อาทิตย์ และพฤหัสบดี โดยเก็บค่าเช่าล็อกละ 100 บาท (ขนาด 3 เมตร) พี่อั้มเล่าว่าหลังจากที่มีการขยายถนนเป็น 4 เลน จำนวนคนที่มาใช้บริการตลาดกลับเพิ่มขึ้น เนื่องจากเส้นทางนี้เป็นทางลัดที่สามารถเชื่อมต่อไปยังจังหวัดชลบุรี ระยอง และจันทบุรีได้ ที่น่าสนใจคือ ขณะที่พี่เปอร์กำลังพูดคุยกับพี่อั้ม เขาได้พบกับ "เจ้าของตลาดตัวจริง" ซึ่งคือคุณแม่ปทุม แม่ของพี่อั้ม ผู้ที่นั่งเก็บค่าห้องน้ำอยู่หน้าห้องน้ำในตลาด คุณแม่ปทุมเล่าว่าแต่ก่อนในละแวกนี้ไม่มีตลาดนัด จึงตัดสินใจเปิดตลาดขึ้นมาและให้ผู้คนเช่าพื้นที่ขายของ คุณแม่ปทุมมีความสุขกับการได้พบปะผู้คนในตลาด ไม่มีความทุกข์ใด ๆ และชอบความสนุกสนาน โดยเฉพาะการดูการแสดงกลองยาว
ในตอนท้ายของรายการ พี่เปอร์ได้เยี่ยมชมฟาร์มผักไฮโดรโพนิกส์ของพี่ต้อและสามี ซึ่งเลือกที่จะเปลี่ยนพื้นที่บ้านให้เป็นแปลงปลูกผักแบบไร้ดิน พี่ต้อเล่าว่าธุรกิจนี้ให้ผลกำไรแน่นอน และดีกว่าการทำงานแบบเร่งรีบในเมือง ถึงแม้บางวันจะเหนื่อยเพราะต้องตื่นแต่เช้าและมีออเดอร์จำนวนมาก แต่ก็มีความสุขกับการได้ทำงานอยู่กับบ้าน สนามชัยเขตเป็นอำเภอที่มีการเติบโตของเมืองตามแนวถนนใหญ่ แต่เมื่อลึกเข้าไปยังคงเป็นพื้นที่ป่าและการเกษตร เป็นที่น่าสนใจว่าแม้มีถนนสี่เลนตัดผ่าน แต่วิถีชีวิตของผู้คนยังคงเรียบง่าย ผู้คนมีความสุขกับสิ่งที่ตนมี ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว ที่อยู่อาศัย หรืออาชีพการงาน
แต่อะไรคือเสน่ห์ที่แท้จริงของอำเภอสนามชัยเขต? ทำไมแม้จะอยู่ห่างไกลความเจริญ แต่ผู้คนกลับมีรอยยิ้มและความสุขในแบบของตนเอง? การได้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติและใช้ชีวิตเรียบง่ายเป็นปัจจัยสำคัญหรือไม่? และหากคุณมีโอกาสได้ย้ายไปใช้ชีวิตในอำเภอเล็กๆ เช่นนี้ คุณจะสามารถปรับตัวและมีความสุขเหมือนผู้คนที่นี่ได้หรือไม่?
สำหรับผู้ที่กำลังมองหาสถานที่พักผ่อนหรือใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ อำเภอสนามชัยเขตอาจเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยอากาศดี วิถีชีวิตที่เรียบง่าย และความเอื้ออาทรของผู้คน ทำให้ที่นี่มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ชวนให้ผู้มาเยือนหลงรัก ไม่ว่าจะเป็นตลาดนัดท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยสินค้าหลากหลาย ร้านอาหารพื้นบ้านรสชาติอร่อย หรือแม้แต่การเกษตรสมัยใหม่อย่างการปลูกผักไฮโดรโพนิกส์ที่กำลังได้รับความนิยม
ตามไปค้นหาความสุขในวิถีชีวิตเรียบง่ายที่อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา อำเภอชายขอบที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและผู้คนที่น่าสนใจ พร้อมเปิดรับคุณให้มาสัมผัสวิถีชีวิตที่ช้าลง แต่เต็มไปด้วยความหมายมากขึ้น
ติดตามชมได้ในรายการ ยินดีที่ได้รู้จัก วันเสาร์ที่ 8 มีนาคม 2568 เวลา 17.05 - 17.30 น. ทางไทยพีบีเอส รับชมออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live และรับชมยินดีที่ได้รู้จักฉบับ UNCUT ได้ที่ www.VIPA.me