ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ
นักผจญเพลง REPLAY
15 มี.ค. 68
รับชมได้ถึงวันที่15 มี.ค. 69

พาท่านผู้ชมย้อนเวลาไปกับบทเพลงสุดไพเราะจากศิลปินในตำนานผู้เกิดมาพร้อมกับความพิการทางสายตาอย่าง Stevie Wonder ที่ถึงแม้ดวงตาของเขาจะมองไม่เห็นความสวยงามบนโลกนี้แต่เขามีเจตจำนงค์ในการสร้างโลกที่น่าอยู่ให้กับทุกคนผ่านบทเพลงที่ให้พลังบวก พูดคุยถึงเรื่องราวของ Stevie Wonder โดยแขกรับเชิญอย่างคุณโก้ ภาคภูมิ วิสุทธิสิน กูรูเพลงผู้มากประสบการณ์ และคุณเค้ก B5 (เขมณัฐ ปุญญมันต์) ผู้ที่มีความหลงใหลในเพลงของ Stevie Wonder ที่จะมาโชว์เพลงสุดฮิต รวมไปถึงอีกสองศิลปินที่ร่วมบรรเลงบทเพลงดังของ Stevie Wonder คือเพียว เอกพันธ์ วรรณสุทธิ์ และเอิ๊ต ภัทรวี ศรีสันติสุข กับบทเพลงที่ติดหูคนฟังไม่ว่ายุคสมัยไหน ได้แก่

Isn’t She Lovely
Lately
My Cherie Amour
Superstition
Sir Duke
I Just Called To Say I Love You


Stevie Wonder: ผู้สร้างความสดใสให้โลกด้วยพลังแห่งดนตรี

คุณเคยรู้สึกโชคร้ายไหม กับชีวิตที่อาจจะไม่ได้เป็นดั่งหวัง กับสิ่งที่เราต้องเป็น บางอย่างที่เราไม่สามารถเลือกได้ แต่มีชายคนหนึ่ง ที่คอยมอบความสดใสให้กับโลกใบนี้มาหลายสิบปี คนที่ได้รู้จักกับชายคนนี้ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่าเขานั้นเต็มไปด้วยพลังบวก อารมณ์ดี และชอบแบ่งปันความสุขผ่านเสียงดนตรีให้คนรอบข้าง ทั้ง ๆ ที่เขาไม่เคยได้เห็นด้วยตาเลยสักครั้งว่า ความสวยงามบนโลกใบนี้เป็นอย่างไร นักผจญเพลง Replay อยากชวนเพื่อน ๆ มาพูดคุยกันถึงเรื่องราวของ Stevie Wonder

การสูญเสียการมองเห็นตั้งแต่เกิด

Stevie Wonder เกิดมาพร้อมกับภาวะที่ทําให้เขาสูญเสียการมองเห็นจากการคลอดก่อนกําหนด และมีปัญหาสุขภาพที่ทําให้ตาบอดตั้งแต่เด็ก พ่อแม่ของ Stevie Wonder เลี้ยงดูเขาด้วยความรักและความห่วงใยอย่างมาก ถึงแม้ว่าเขาจะเกิดมาพร้อมกับปัญหาการมองเห็น แต่พ่อแม่ของเขาก็ไม่ได้ให้สิ่งนี้เป็นอุปสรรคในการพัฒนา พวกเขามักจะให้กําลังใจและสนับสนุนให้ลูกได้ทําสิ่งที่เขารัก โดยเฉพาะการเล่นดนตรี

การฝ่าฟันอุปสรรคในการฝึกฝนดนตรี

ในวัยเด็กของ Stevie Wonder เขาต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายประการในการฝึกเล่นดนตรี เนื่องจากเขาตาบอดตั้งแต่เกิด ซึ่งเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดที่เขาต้องเอาชนะ แต่ถึงแม้จะมีข้อจํากัดทางการมองเห็น เขาก็ไม่ยอมให้มันมาขัดขวางความฝันและความสามารถในการเล่นดนตรีของเขา หนึ่งในอุปสรรคที่สําคัญคือการเรียนรู้ทักษะดนตรีในโลกที่ส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาการมองเห็น เช่น การอ่านโน้ตดนตรี ซึ่งสําหรับเด็กที่ตาบอดแล้วมันเป็นความท้าทายอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เขาก็ได้รับการช่วยเหลือจากครูและคนรอบข้างที่ช่วยปรับวิธีการสอนให้เหมาะสมกับเขา เช่น การใช้ระบบเสียงและสัมผัสในการเรียนรู้ เขาฝึกฝนการเล่นเครื่องดนตรีต่าง ๆ เช่น คีย์บอร์ด กีตาร์ และเพอร์คัสชัน ผ่านการฟังและการสัมผัส

ความมุ่งมั่นสร้างผลงานระดับโลก

ความมุ่งมั่นและการฝึกฝนอย่างหนักของ Stevie Wonder ทําให้เขากลายเป็นนักดนตรีที่มีชื่อเสียงระดับโลก แม้ว่าในช่วงแรกจะมีอุปสรรคมากมาย แต่ความรักในดนตรีของเขาทําให้เขาสามารถเอาชนะทุกอุปสรรคที่เข้ามาในชีวิตได้ เขาเริ่มเซ็นสัญญากับค่ายเพลง Motown ตั้งแต่อายุ 11 ปี โดยใช้ชื่อว่า "Little Stevie Wonder" และได้เริ่มสร้างชื่อเสียงในวงการดนตรี

ผลงานเพลงที่ได้รับความนิยมอย่างมาก อย่าง "Superstition" ที่ออกในปี 1972 ถือเป็นหนึ่งในเพลงที่มีจังหวะและการเล่นกีตาร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ Stevie Wonder ยังเป็นนักดนตรีที่มีพรสวรรค์ในการเล่นเครื่องดนตรีหลากหลายชนิด และมีความสามารถในการแต่งเพลงที่หลากหลายแนว ทั้งแจ๊ซ, ร็อก, ฟังก์, และโซล โดยเขาได้รับรางวัลแกรมมี่มากกว่า 25 ครั้ง และเป็นหนึ่งในศิลปินที่ได้รับรางวัลแกรมมี่มากที่สุดในประวัติศาสตร์

อัลบั้มชื่อดังของเขาอย่าง "Songs in the Key of Life" ที่ออกในปี 1976 ก็ถือเป็นหนึ่งในผลงานที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในประวัติศาสตร์ดนตรี Stevie Wonder ไม่เพียงแต่เป็นนักดนตรีที่เก่งกาจ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นและความสามารถในการเอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ ในชีวิตได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ว่าในช่วงเริ่มต้นจะมีข้อจํากัดทางการมองเห็น แต่ด้วยความรักในดนตรีและการสนับสนุนจากครอบครัว เขาก็สามารถพัฒนาความสามารถและสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมให้กับวงการดนตรีโลกได้ ในวัย 70 ปี Stevie Wonder ยังคงเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงและได้รับความเคารพจากแฟนเพลงทั่วโลก เขายังคงสร้างสรรค์ผลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและพลังแห่งความสุขที่เขามอบให้กับโลกผ่านเสียงดนตรีอย่างไม่เสื่อมคลาย

ติดตามรายการนักผจญเพลง REPLAY วันเสาร์ที่ 15 มีนาคม 68 เวลา 21.30 - 22.20 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live


Stevie Wonder "Bright Up The World"

15 มี.ค. 68
รับชมได้ถึงวันที่15 มี.ค. 69

พาท่านผู้ชมย้อนเวลาไปกับบทเพลงสุดไพเราะจากศิลปินในตำนานผู้เกิดมาพร้อมกับความพิการทางสายตาอย่าง Stevie Wonder ที่ถึงแม้ดวงตาของเขาจะมองไม่เห็นความสวยงามบนโลกนี้แต่เขามีเจตจำนงค์ในการสร้างโลกที่น่าอยู่ให้กับทุกคนผ่านบทเพลงที่ให้พลังบวก พูดคุยถึงเรื่องราวของ Stevie Wonder โดยแขกรับเชิญอย่างคุณโก้ ภาคภูมิ วิสุทธิสิน กูรูเพลงผู้มากประสบการณ์ และคุณเค้ก B5 (เขมณัฐ ปุญญมันต์) ผู้ที่มีความหลงใหลในเพลงของ Stevie Wonder ที่จะมาโชว์เพลงสุดฮิต รวมไปถึงอีกสองศิลปินที่ร่วมบรรเลงบทเพลงดังของ Stevie Wonder คือเพียว เอกพันธ์ วรรณสุทธิ์ และเอิ๊ต ภัทรวี ศรีสันติสุข กับบทเพลงที่ติดหูคนฟังไม่ว่ายุคสมัยไหน ได้แก่

Isn’t She Lovely
Lately
My Cherie Amour
Superstition
Sir Duke
I Just Called To Say I Love You


Stevie Wonder: ผู้สร้างความสดใสให้โลกด้วยพลังแห่งดนตรี

คุณเคยรู้สึกโชคร้ายไหม กับชีวิตที่อาจจะไม่ได้เป็นดั่งหวัง กับสิ่งที่เราต้องเป็น บางอย่างที่เราไม่สามารถเลือกได้ แต่มีชายคนหนึ่ง ที่คอยมอบความสดใสให้กับโลกใบนี้มาหลายสิบปี คนที่ได้รู้จักกับชายคนนี้ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่าเขานั้นเต็มไปด้วยพลังบวก อารมณ์ดี และชอบแบ่งปันความสุขผ่านเสียงดนตรีให้คนรอบข้าง ทั้ง ๆ ที่เขาไม่เคยได้เห็นด้วยตาเลยสักครั้งว่า ความสวยงามบนโลกใบนี้เป็นอย่างไร นักผจญเพลง Replay อยากชวนเพื่อน ๆ มาพูดคุยกันถึงเรื่องราวของ Stevie Wonder

การสูญเสียการมองเห็นตั้งแต่เกิด

Stevie Wonder เกิดมาพร้อมกับภาวะที่ทําให้เขาสูญเสียการมองเห็นจากการคลอดก่อนกําหนด และมีปัญหาสุขภาพที่ทําให้ตาบอดตั้งแต่เด็ก พ่อแม่ของ Stevie Wonder เลี้ยงดูเขาด้วยความรักและความห่วงใยอย่างมาก ถึงแม้ว่าเขาจะเกิดมาพร้อมกับปัญหาการมองเห็น แต่พ่อแม่ของเขาก็ไม่ได้ให้สิ่งนี้เป็นอุปสรรคในการพัฒนา พวกเขามักจะให้กําลังใจและสนับสนุนให้ลูกได้ทําสิ่งที่เขารัก โดยเฉพาะการเล่นดนตรี

การฝ่าฟันอุปสรรคในการฝึกฝนดนตรี

ในวัยเด็กของ Stevie Wonder เขาต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายประการในการฝึกเล่นดนตรี เนื่องจากเขาตาบอดตั้งแต่เกิด ซึ่งเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดที่เขาต้องเอาชนะ แต่ถึงแม้จะมีข้อจํากัดทางการมองเห็น เขาก็ไม่ยอมให้มันมาขัดขวางความฝันและความสามารถในการเล่นดนตรีของเขา หนึ่งในอุปสรรคที่สําคัญคือการเรียนรู้ทักษะดนตรีในโลกที่ส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาการมองเห็น เช่น การอ่านโน้ตดนตรี ซึ่งสําหรับเด็กที่ตาบอดแล้วมันเป็นความท้าทายอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เขาก็ได้รับการช่วยเหลือจากครูและคนรอบข้างที่ช่วยปรับวิธีการสอนให้เหมาะสมกับเขา เช่น การใช้ระบบเสียงและสัมผัสในการเรียนรู้ เขาฝึกฝนการเล่นเครื่องดนตรีต่าง ๆ เช่น คีย์บอร์ด กีตาร์ และเพอร์คัสชัน ผ่านการฟังและการสัมผัส

ความมุ่งมั่นสร้างผลงานระดับโลก

ความมุ่งมั่นและการฝึกฝนอย่างหนักของ Stevie Wonder ทําให้เขากลายเป็นนักดนตรีที่มีชื่อเสียงระดับโลก แม้ว่าในช่วงแรกจะมีอุปสรรคมากมาย แต่ความรักในดนตรีของเขาทําให้เขาสามารถเอาชนะทุกอุปสรรคที่เข้ามาในชีวิตได้ เขาเริ่มเซ็นสัญญากับค่ายเพลง Motown ตั้งแต่อายุ 11 ปี โดยใช้ชื่อว่า "Little Stevie Wonder" และได้เริ่มสร้างชื่อเสียงในวงการดนตรี

ผลงานเพลงที่ได้รับความนิยมอย่างมาก อย่าง "Superstition" ที่ออกในปี 1972 ถือเป็นหนึ่งในเพลงที่มีจังหวะและการเล่นกีตาร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ Stevie Wonder ยังเป็นนักดนตรีที่มีพรสวรรค์ในการเล่นเครื่องดนตรีหลากหลายชนิด และมีความสามารถในการแต่งเพลงที่หลากหลายแนว ทั้งแจ๊ซ, ร็อก, ฟังก์, และโซล โดยเขาได้รับรางวัลแกรมมี่มากกว่า 25 ครั้ง และเป็นหนึ่งในศิลปินที่ได้รับรางวัลแกรมมี่มากที่สุดในประวัติศาสตร์

อัลบั้มชื่อดังของเขาอย่าง "Songs in the Key of Life" ที่ออกในปี 1976 ก็ถือเป็นหนึ่งในผลงานที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในประวัติศาสตร์ดนตรี Stevie Wonder ไม่เพียงแต่เป็นนักดนตรีที่เก่งกาจ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นและความสามารถในการเอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ ในชีวิตได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ว่าในช่วงเริ่มต้นจะมีข้อจํากัดทางการมองเห็น แต่ด้วยความรักในดนตรีและการสนับสนุนจากครอบครัว เขาก็สามารถพัฒนาความสามารถและสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมให้กับวงการดนตรีโลกได้ ในวัย 70 ปี Stevie Wonder ยังคงเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงและได้รับความเคารพจากแฟนเพลงทั่วโลก เขายังคงสร้างสรรค์ผลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและพลังแห่งความสุขที่เขามอบให้กับโลกผ่านเสียงดนตรีอย่างไม่เสื่อมคลาย

ติดตามรายการนักผจญเพลง REPLAY วันเสาร์ที่ 15 มีนาคม 68 เวลา 21.30 - 22.20 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live


ละครดี ซีรีส์เด่น

ดูทั้งหมด
ละครบ้านชนะใจ

♫ ♫ Songs Popular ♫ ♫

ดูทั้งหมด

คลิปมาใหม่

คนดูเยอะ 👀

ดูทั้งหมด

เสน่ห์ประเทศไทย