ปี๊ด!!!! ปี๊ด!!!! ปี๊ด!!!! เสียงนกหวีดดังเป็นจังหวะ มาจากการให้สัญญาณจราจร ของเด็กชายวัยเพียง 3 ขวบ เพื่ออำนวยความสะดวกให้รถของผู้ปกครองที่มาส่งเด็กนักเรียนเตรียมอนุบาล ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ต.ป่าสัก อ.เมือง จ.ลำพูน ที่ได้ชื่อว่าเป็นต้นแบบ“ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต้นแบบด้านความปลอดภัยทางถนน
เมื่อเรามองตามเสียงนกหวีด จะได้เห็นภาพที่เรียกร้อยยิ้มของทุกคนได้อย่างแน่นอน เพราะเจ้าของเสียงนกหวีด คือเด็กชายตัวเล็กๆ ยืนทำหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่น และเสียงนกหวีดที่ไม่แผ่วลงไปเลย แม้ต้องทำหน้าที่มากกว่า 1 ชั่วโมง
"หนูเคยเป่าจนเลือดกำเดาไหลออกทางจมูกจริงหรือเปล่า" เรายิงคำถามไปที่เด็กชายตัวน้อย
"จริงครับ" น้องตอบพร้อมกับพยักหน้า
"แล้วหนูไม่เหนื่อยเหรอ" บทสนทนาต่อเนื่องจากเรา
"ไม่ครับ ผมสนุกครับ" เป็นคำตอบที่ทำให้เราหมดคำถาม
คุณครูที่นี่บอกว่า เด็กที่จะมาเป็นหนูน้อยจราจร จะไม่มีการบังคับ แต่ทุกคนสมัครใจมาเอง แม้จะต้องตื่นแต่เช้ากว่าเพื่อนคนอื่น ๆ ก็ตาม โดยเริ่มจากการฝึกให้เด็กรู้สึกสนุกและมีความชอบด้วยตัวเองก่อน เมื่อเริ่มจากความชอบ ก็จะมีความตั้งใจ และวินัยจราจรจะเข้าไปอยู่ในกระบวนการเรียนรู้โดยที่เด็กไม่รู้ตัว
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน เกิดอุบัติเหตุกับรถผู้ปกครองที่มาส่งเด็กนักเรียนจนเกิดความสูญเสีย เหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้ผู้นำและครูหารือกันว่า ทำอย่างไรจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก จึงเป็นที่มาของการออกแบบโรงเรียนที่เน้นการปลูกฝังวินัยจราจร ขยายไปยังผู้ปกครองและชุมชนโดยรอบอย่างเป็นรูปธรรม
ความสำเร็จของกระบวนความคิดนี้ ส่งผลให้ล่าสุดกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และ องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย รับรองให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลป่าสัก อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน เป็น "ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสาธิต" ซึ่งจะเป็นศูนย์ต้นแบบในการพัฒนาสมรรถนะเด็กปฐมวัย และการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง
เสียงนกหวีดฝีมือจราจรตัวน้อยวัยเพียง 3 ขวบ จะดังไกลแค่ไหน ฝีไม้ลายมือในการควบคุมการจราจรจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ในรายการฟังเสียงประเทศไทย ตอน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ต.ป่าสัก อ.เมือง จ.ลำพูน ต้นแบบศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ต้นแบบด้านความปลอดภัยทางถนน ชมย้อนหลังได้ทาง https://bit.ly/31DASFY
ปี๊ด!!!! ปี๊ด!!!! ปี๊ด!!!! เสียงนกหวีดดังเป็นจังหวะ มาจากการให้สัญญาณจราจร ของเด็กชายวัยเพียง 3 ขวบ เพื่ออำนวยความสะดวกให้รถของผู้ปกครองที่มาส่งเด็กนักเรียนเตรียมอนุบาล ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ต.ป่าสัก อ.เมือง จ.ลำพูน ที่ได้ชื่อว่าเป็นต้นแบบ“ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต้นแบบด้านความปลอดภัยทางถนน
เมื่อเรามองตามเสียงนกหวีด จะได้เห็นภาพที่เรียกร้อยยิ้มของทุกคนได้อย่างแน่นอน เพราะเจ้าของเสียงนกหวีด คือเด็กชายตัวเล็กๆ ยืนทำหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่น และเสียงนกหวีดที่ไม่แผ่วลงไปเลย แม้ต้องทำหน้าที่มากกว่า 1 ชั่วโมง
"หนูเคยเป่าจนเลือดกำเดาไหลออกทางจมูกจริงหรือเปล่า" เรายิงคำถามไปที่เด็กชายตัวน้อย
"จริงครับ" น้องตอบพร้อมกับพยักหน้า
"แล้วหนูไม่เหนื่อยเหรอ" บทสนทนาต่อเนื่องจากเรา
"ไม่ครับ ผมสนุกครับ" เป็นคำตอบที่ทำให้เราหมดคำถาม
คุณครูที่นี่บอกว่า เด็กที่จะมาเป็นหนูน้อยจราจร จะไม่มีการบังคับ แต่ทุกคนสมัครใจมาเอง แม้จะต้องตื่นแต่เช้ากว่าเพื่อนคนอื่น ๆ ก็ตาม โดยเริ่มจากการฝึกให้เด็กรู้สึกสนุกและมีความชอบด้วยตัวเองก่อน เมื่อเริ่มจากความชอบ ก็จะมีความตั้งใจ และวินัยจราจรจะเข้าไปอยู่ในกระบวนการเรียนรู้โดยที่เด็กไม่รู้ตัว
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน เกิดอุบัติเหตุกับรถผู้ปกครองที่มาส่งเด็กนักเรียนจนเกิดความสูญเสีย เหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้ผู้นำและครูหารือกันว่า ทำอย่างไรจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก จึงเป็นที่มาของการออกแบบโรงเรียนที่เน้นการปลูกฝังวินัยจราจร ขยายไปยังผู้ปกครองและชุมชนโดยรอบอย่างเป็นรูปธรรม
ความสำเร็จของกระบวนความคิดนี้ ส่งผลให้ล่าสุดกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และ องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย รับรองให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลป่าสัก อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน เป็น "ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสาธิต" ซึ่งจะเป็นศูนย์ต้นแบบในการพัฒนาสมรรถนะเด็กปฐมวัย และการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง
เสียงนกหวีดฝีมือจราจรตัวน้อยวัยเพียง 3 ขวบ จะดังไกลแค่ไหน ฝีไม้ลายมือในการควบคุมการจราจรจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ในรายการฟังเสียงประเทศไทย ตอน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ต.ป่าสัก อ.เมือง จ.ลำพูน ต้นแบบศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ต้นแบบด้านความปลอดภัยทางถนน ชมย้อนหลังได้ทาง https://bit.ly/31DASFY