ข้อมูลภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า อาการจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชน จะชัดเจนในช่วงอายุน้อย เพราะอวัยวะต่าง ๆ กำลังเติบโต ซึ่งนอกจากจะมีปัญหากับปอดแล้ว สิ่งที่น่ากังวลคือ สมองจะสูญเสียการพัฒนา ทำให้เด็กมีพฤติกรรมก้าวร้าว สมาธิสั้น การเรียนแย่ลง และความจำไม่ดี
มีงานวิจัยจากประเทศบราซิล เปรียบเทียบปริมาณนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้าแบบสูบแล้วทิ้ง กับ บุหรี่มวน พบว่า ปี 2565 บุหรี่ไฟฟ้าแบบสูบแล้วทิ้ง 1 แท่ง มีสารนิโคตินเทียบเท่ากับบุหรี่ 20 มวน , ปี 2566 บุหรี่ไฟฟ้า 1 แท่ง มีสารนิโคตินเท่ากับบุหรี่ 400 มวน และ ปี 2567 บุหรี่ไฟฟ้า 1 แท่ง มีปริมาณสารนิโคติน เท่ากับบุหรี่ 1,000 มวน
.
ข้อมูลภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า อาการจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชน จะชัดเจนในช่วงอายุน้อย เพราะอวัยวะต่าง ๆ กำลังเติบโต ซึ่งนอกจากจะมีปัญหากับปอดแล้ว สิ่งที่น่ากังวลคือ สมองจะสูญเสียการพัฒนา ทำให้เด็กมีพฤติกรรมก้าวร้าว สมาธิสั้น การเรียนแย่ลง และความจำไม่ดี
มีงานวิจัยจากประเทศบราซิล เปรียบเทียบปริมาณนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้าแบบสูบแล้วทิ้ง กับ บุหรี่มวน พบว่า ปี 2565 บุหรี่ไฟฟ้าแบบสูบแล้วทิ้ง 1 แท่ง มีสารนิโคตินเทียบเท่ากับบุหรี่ 20 มวน , ปี 2566 บุหรี่ไฟฟ้า 1 แท่ง มีสารนิโคตินเท่ากับบุหรี่ 400 มวน และ ปี 2567 บุหรี่ไฟฟ้า 1 แท่ง มีปริมาณสารนิโคติน เท่ากับบุหรี่ 1,000 มวน
.