ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ
วันใหม่วาไรตี้
วันใหม่วาไรตี้

รู้ทันกันได้ : รู้ทันกลุ่มยาที่เสี่ยงต่อ "มะเร็งผิวหนัง"

หน้ารายการ
14 มี.ค. 68

ทำไมยาบางชนิดทำให้ผิวไวต่อแสง?

ผู้เชี่ยวชาญด้านเภสัชศาสตร์ รศ. ภก.บดินทร์ ติวสุวรรณ จากคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อธิบายว่า ยาหลายประเภทสามารถทำให้ผิวหนังเรามีความไวต่อแสงมากขึ้น หรือเกิดปฏิกิริยาต่อแสงได้ เนื่องจากเมื่อเรารับประทานยาเข้าไปแล้ว ยาจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย และเมื่อมีแสงยูวีผ่านผิวหนังเข้าไป อาจกระตุ้นให้ยาเกิดการแพ้ที่ผิวหนังได้

กลไกการเกิดปฏิกิริยาไวต่อแสง

กลไกการเกิดปฏิกิริยาไวต่อแสงขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ได้แก่

  • โครงสร้างทางเคมีของยา
  • สภาพร่างกายของแต่ละบุคคล
  • ระยะเวลาในการสัมผัสแสงแดด
  • ความเข้มของแสงยูวี

กลุ่มยาที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดผิวไวต่อแสง

1. อนุพันธ์วิตามินเอที่ใช้รักษาสิว

อนุพันธ์วิตามินเอที่ใช้รักษาสิวเป็นยารับประทานที่มีความเสี่ยงสูงต่อการทำให้ผิวหนังไวต่อแสง เมื่อรับประทานยานี้ ผิวหน้าจะแห้งและไวต่อแสงมากขึ้น จึงควรหลีกเลี่ยงแสงแดดและทาครีมกันแดด

2. ยาต้านอักเสบ

ยาต้านอักเสบบางชนิดที่เรารับประทานเวลาปวดประจำเดือนหรือมีอาการเจ็บปวดอื่น ๆ อาจทำให้เกิดการแพ้แสงได้ แม้ว่าในคนเอเชียจะพบอาการนี้น้อยมาก

3. ยาปฏิชีวนะบางประเภท

ยาปฏิชีวนะบางชนิดที่ใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อก็สามารถทำให้เกิดปฏิกิริยาไวต่อแสงได้ แต่พบได้ไม่บ่อยในคนเอเชีย

4. ยารักษาความดันโลหิตสูง

ยาบางชนิดที่ใช้รักษาโรคความดันโลหิตสูงก็อาจทำให้ผิวหนังไวต่อแสงได้เช่นกัน ซึ่งอาจส่งผลต่อการเกิดปฏิกิริยาเมื่อสัมผัสแสงแดด

อาการที่บ่งชี้ว่าผิวหนังไวต่อแสงจากยา

หากมีอาการผิดปกติหลังรับประทานยาและสัมผัสแสงแดด ควรสังเกตอาการดังต่อไปนี้

  • ผื่นที่ผิวหนัง
  • อาการแสบหรือร้อนที่ผิวหนัง
  • ผิวไหม้หรือมีการเปลี่ยนสีผิว
  • อาการผิดปกติที่มากกว่าที่เคยเป็นเมื่อสัมผัสแสงแดดตามปกติ

ข้อควรระวัง: อาการไม่ได้เกิดขึ้นทันที

สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ อาการแพ้แสงอาจไม่เกิดขึ้นทันทีหลังจากสัมผัสแสงแดด บางครั้งอาจเกิดขึ้นหลังจากนั้น 1 - 2 วัน และผื่นอาจลามไปยังบริเวณที่ไม่ได้สัมผัสแสงแดดโดยตรงด้วย

คนเอเชียมีความเสี่ยงน้อยกว่า

ข่าวดีสำหรับคนไทยและคนเอเชียคือ มีความเสี่ยงต่อการเกิดปฏิกิริยาไวต่อแสงจากยาน้อยกว่าคนผิวขาว รศ. ภก.บดินทร์ อธิบายว่า ในคนเอเชียเกิดปฏิกิริยาไวต่อแสงน้อยมาก จนแทบไม่มีรายงาน เมื่อเทียบกับคนผิวขาวในแถบยุโรปหรืออเมริกา ซึ่งอาจเป็นเพราะลักษณะของเม็ดสีผิวที่ทำให้คนเอเชียมีความทนทานต่อแสงแดดมากกว่า

ความแตกต่างทางพันธุกรรม

คนเอเชียมีเม็ดสีผิวที่แข็งแกร่งและทนต่อสภาพอากาศได้ดีกว่า ทำให้มีการป้องกันตามธรรมชาติจากรังสียูวีได้ดีกว่าคนผิวขาว นี่เป็นปัจจัยทางพันธุกรรมที่ทำให้คนเอเชียมีความเสี่ยงต่อการเกิดปฏิกิริยาไวต่อแสงจากยาน้อยกว่า

ความเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนัง

แม้ว่าการเกิดปฏิกิริยาไวต่อแสงจากยาจะไม่ได้ส่งผลให้เกิดมะเร็งผิวหนังโดยตรง แต่การอักเสบที่ผิวหนังซ้ำ ๆ สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งได้ เนื่องจากการอักเสบทำให้เซลล์ผิวหนังเสียหายและมีโอกาสเกิดการกลายพันธุ์ได้มากขึ้น

ยูวีเป็นสาเหตุหลักของมะเร็งผิวหนัง

แม้ไม่ได้รับประทานยาที่ทำให้ไวต่อแสง การสัมผัสรังสียูวีเป็นประจำก็เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนังอยู่แล้ว นอกจากนี้รังสียูวียังเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดริ้วรอยและความแก่ก่อนวัยอีกด้วย

วิธีป้องกันผิวหนังเมื่อต้องใช้ยาที่ทำให้ไวต่อแสง

หากจำเป็นต้องใช้ยาที่อาจทำให้ผิวหนังไวต่อแสง สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้

1. ใช้ครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพ

ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงและป้องกันทั้ง UVA และ UVB ได้ ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านอย่างน้อย 15 - 30 นาที และทาซ้ำทุก 2 - 3 ชั่วโมง

2. ใช้ร่มกันยูวี

ร่มธรรมดาอาจไม่สามารถกันรังสียูวีได้ทั้งหมด จึงควรเลือกใช้ร่มที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับกันรังสียูวี ซึ่งทำจากวัสดุพิเศษที่สามารถกรองรังสียูวีได้ดี

3. สวมเสื้อผ้าที่ปกป้องผิวหนัง

ควรสวมเสื้อผ้าที่มิดชิด เน้นผ้าที่มีเนื้อหนา สีเข้ม หรือเสื้อผ้าที่ออกแบบมาพิเศษเพื่อกันรังสียูวี ซึ่งปัจจุบันมีเสื้อผ้าสำหรับออกกำลังกายที่มีคุณสมบัติกันยูวีได้

4. หลีกเลี่ยงแสงแดดในช่วงที่รังสียูวีแรง

ควรหลีกเลี่ยงการออกแดดในช่วงเวลา 10.00 - 16.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่รังสียูวีมีความเข้มสูงสุด หากจำเป็นต้องออกนอกบ้านในช่วงเวลาดังกล่าว ควรใช้วิธีป้องกันอื่น ๆ ร่วมด้วย

ข้อควรปฏิบัติเมื่อสงสัยว่าเกิดปฏิกิริยาไวต่อแสงจากยา

หากสังเกตเห็นความผิดปกติที่ผิวหนังหลังรับประทานยาและสัมผัสแสงแดด ควรปฏิบัติดังนี้

1. ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

ไม่ควรหยุดยาเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพราะอาจส่งผลต่อการรักษาโรคที่เป็นอยู่ ควรแจ้งอาการให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ เพื่อพิจารณาว่าอาการดังกล่าวสัมพันธ์กับยาที่รับประทานหรือไม่

2. ไม่ตัดสินใจเองว่าจะหยุดยา

หากหยุดยาเอง อาจทำให้โรคที่เป็นอยู่ไม่หาย และอาจเกิดโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาได้ การตัดสินใจควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์หรือเภสัชกร

ความเสี่ยงกับประโยชน์ที่ได้รับ

การใช้ยาที่อาจทำให้ผิวหนังไวต่อแสงนั้น ควรพิจารณาถึงประโยชน์ที่จะได้รับเทียบกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยทั่วไปแล้วประโยชน์ที่ผู้ป่วยจะได้รับจากการรับประทานยามักจะมากกว่าความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และความเสี่ยงเหล่านี้สามารถจัดการได้ด้วยการป้องกันที่เหมาะสม

สำหรับคนไทยและคนเอเชีย ไม่จำเป็นต้องกังวลมากเกินไปกับการใช้ยาที่อาจทำให้ผิวหนังไวต่อแสง เนื่องจากมีโอกาสเกิดปฏิกิริยาน้อยกว่าคนผิวขาว อย่างไรก็ตาม การป้องกันผิวหนังจากรังสียูวีเป็นสิ่งที่ควรทำเสมอ ไม่ว่าจะรับประทานยาที่ทำให้ไวต่อแสงหรือไม่ก็ตาม เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนังและชะลอความแก่ของผิวพรรณ

ชมย้อนหลังรายการ "วันใหม่วาไรตี้" ในช่วง "รู้ทันกันได้" ได้ที่ www.thaipbs.or.th/RuTanKanDai

รู้ทันกันได้ : รู้ทันกลุ่มยาที่เสี่ยงต่อ "มะเร็งผิวหนัง"

14 มี.ค. 68

ทำไมยาบางชนิดทำให้ผิวไวต่อแสง?

ผู้เชี่ยวชาญด้านเภสัชศาสตร์ รศ. ภก.บดินทร์ ติวสุวรรณ จากคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อธิบายว่า ยาหลายประเภทสามารถทำให้ผิวหนังเรามีความไวต่อแสงมากขึ้น หรือเกิดปฏิกิริยาต่อแสงได้ เนื่องจากเมื่อเรารับประทานยาเข้าไปแล้ว ยาจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย และเมื่อมีแสงยูวีผ่านผิวหนังเข้าไป อาจกระตุ้นให้ยาเกิดการแพ้ที่ผิวหนังได้

กลไกการเกิดปฏิกิริยาไวต่อแสง

กลไกการเกิดปฏิกิริยาไวต่อแสงขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ได้แก่

  • โครงสร้างทางเคมีของยา
  • สภาพร่างกายของแต่ละบุคคล
  • ระยะเวลาในการสัมผัสแสงแดด
  • ความเข้มของแสงยูวี

กลุ่มยาที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดผิวไวต่อแสง

1. อนุพันธ์วิตามินเอที่ใช้รักษาสิว

อนุพันธ์วิตามินเอที่ใช้รักษาสิวเป็นยารับประทานที่มีความเสี่ยงสูงต่อการทำให้ผิวหนังไวต่อแสง เมื่อรับประทานยานี้ ผิวหน้าจะแห้งและไวต่อแสงมากขึ้น จึงควรหลีกเลี่ยงแสงแดดและทาครีมกันแดด

2. ยาต้านอักเสบ

ยาต้านอักเสบบางชนิดที่เรารับประทานเวลาปวดประจำเดือนหรือมีอาการเจ็บปวดอื่น ๆ อาจทำให้เกิดการแพ้แสงได้ แม้ว่าในคนเอเชียจะพบอาการนี้น้อยมาก

3. ยาปฏิชีวนะบางประเภท

ยาปฏิชีวนะบางชนิดที่ใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อก็สามารถทำให้เกิดปฏิกิริยาไวต่อแสงได้ แต่พบได้ไม่บ่อยในคนเอเชีย

4. ยารักษาความดันโลหิตสูง

ยาบางชนิดที่ใช้รักษาโรคความดันโลหิตสูงก็อาจทำให้ผิวหนังไวต่อแสงได้เช่นกัน ซึ่งอาจส่งผลต่อการเกิดปฏิกิริยาเมื่อสัมผัสแสงแดด

อาการที่บ่งชี้ว่าผิวหนังไวต่อแสงจากยา

หากมีอาการผิดปกติหลังรับประทานยาและสัมผัสแสงแดด ควรสังเกตอาการดังต่อไปนี้

  • ผื่นที่ผิวหนัง
  • อาการแสบหรือร้อนที่ผิวหนัง
  • ผิวไหม้หรือมีการเปลี่ยนสีผิว
  • อาการผิดปกติที่มากกว่าที่เคยเป็นเมื่อสัมผัสแสงแดดตามปกติ

ข้อควรระวัง: อาการไม่ได้เกิดขึ้นทันที

สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ อาการแพ้แสงอาจไม่เกิดขึ้นทันทีหลังจากสัมผัสแสงแดด บางครั้งอาจเกิดขึ้นหลังจากนั้น 1 - 2 วัน และผื่นอาจลามไปยังบริเวณที่ไม่ได้สัมผัสแสงแดดโดยตรงด้วย

คนเอเชียมีความเสี่ยงน้อยกว่า

ข่าวดีสำหรับคนไทยและคนเอเชียคือ มีความเสี่ยงต่อการเกิดปฏิกิริยาไวต่อแสงจากยาน้อยกว่าคนผิวขาว รศ. ภก.บดินทร์ อธิบายว่า ในคนเอเชียเกิดปฏิกิริยาไวต่อแสงน้อยมาก จนแทบไม่มีรายงาน เมื่อเทียบกับคนผิวขาวในแถบยุโรปหรืออเมริกา ซึ่งอาจเป็นเพราะลักษณะของเม็ดสีผิวที่ทำให้คนเอเชียมีความทนทานต่อแสงแดดมากกว่า

ความแตกต่างทางพันธุกรรม

คนเอเชียมีเม็ดสีผิวที่แข็งแกร่งและทนต่อสภาพอากาศได้ดีกว่า ทำให้มีการป้องกันตามธรรมชาติจากรังสียูวีได้ดีกว่าคนผิวขาว นี่เป็นปัจจัยทางพันธุกรรมที่ทำให้คนเอเชียมีความเสี่ยงต่อการเกิดปฏิกิริยาไวต่อแสงจากยาน้อยกว่า

ความเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนัง

แม้ว่าการเกิดปฏิกิริยาไวต่อแสงจากยาจะไม่ได้ส่งผลให้เกิดมะเร็งผิวหนังโดยตรง แต่การอักเสบที่ผิวหนังซ้ำ ๆ สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งได้ เนื่องจากการอักเสบทำให้เซลล์ผิวหนังเสียหายและมีโอกาสเกิดการกลายพันธุ์ได้มากขึ้น

ยูวีเป็นสาเหตุหลักของมะเร็งผิวหนัง

แม้ไม่ได้รับประทานยาที่ทำให้ไวต่อแสง การสัมผัสรังสียูวีเป็นประจำก็เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนังอยู่แล้ว นอกจากนี้รังสียูวียังเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดริ้วรอยและความแก่ก่อนวัยอีกด้วย

วิธีป้องกันผิวหนังเมื่อต้องใช้ยาที่ทำให้ไวต่อแสง

หากจำเป็นต้องใช้ยาที่อาจทำให้ผิวหนังไวต่อแสง สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้

1. ใช้ครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพ

ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงและป้องกันทั้ง UVA และ UVB ได้ ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านอย่างน้อย 15 - 30 นาที และทาซ้ำทุก 2 - 3 ชั่วโมง

2. ใช้ร่มกันยูวี

ร่มธรรมดาอาจไม่สามารถกันรังสียูวีได้ทั้งหมด จึงควรเลือกใช้ร่มที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับกันรังสียูวี ซึ่งทำจากวัสดุพิเศษที่สามารถกรองรังสียูวีได้ดี

3. สวมเสื้อผ้าที่ปกป้องผิวหนัง

ควรสวมเสื้อผ้าที่มิดชิด เน้นผ้าที่มีเนื้อหนา สีเข้ม หรือเสื้อผ้าที่ออกแบบมาพิเศษเพื่อกันรังสียูวี ซึ่งปัจจุบันมีเสื้อผ้าสำหรับออกกำลังกายที่มีคุณสมบัติกันยูวีได้

4. หลีกเลี่ยงแสงแดดในช่วงที่รังสียูวีแรง

ควรหลีกเลี่ยงการออกแดดในช่วงเวลา 10.00 - 16.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่รังสียูวีมีความเข้มสูงสุด หากจำเป็นต้องออกนอกบ้านในช่วงเวลาดังกล่าว ควรใช้วิธีป้องกันอื่น ๆ ร่วมด้วย

ข้อควรปฏิบัติเมื่อสงสัยว่าเกิดปฏิกิริยาไวต่อแสงจากยา

หากสังเกตเห็นความผิดปกติที่ผิวหนังหลังรับประทานยาและสัมผัสแสงแดด ควรปฏิบัติดังนี้

1. ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

ไม่ควรหยุดยาเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพราะอาจส่งผลต่อการรักษาโรคที่เป็นอยู่ ควรแจ้งอาการให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ เพื่อพิจารณาว่าอาการดังกล่าวสัมพันธ์กับยาที่รับประทานหรือไม่

2. ไม่ตัดสินใจเองว่าจะหยุดยา

หากหยุดยาเอง อาจทำให้โรคที่เป็นอยู่ไม่หาย และอาจเกิดโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาได้ การตัดสินใจควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์หรือเภสัชกร

ความเสี่ยงกับประโยชน์ที่ได้รับ

การใช้ยาที่อาจทำให้ผิวหนังไวต่อแสงนั้น ควรพิจารณาถึงประโยชน์ที่จะได้รับเทียบกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยทั่วไปแล้วประโยชน์ที่ผู้ป่วยจะได้รับจากการรับประทานยามักจะมากกว่าความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และความเสี่ยงเหล่านี้สามารถจัดการได้ด้วยการป้องกันที่เหมาะสม

สำหรับคนไทยและคนเอเชีย ไม่จำเป็นต้องกังวลมากเกินไปกับการใช้ยาที่อาจทำให้ผิวหนังไวต่อแสง เนื่องจากมีโอกาสเกิดปฏิกิริยาน้อยกว่าคนผิวขาว อย่างไรก็ตาม การป้องกันผิวหนังจากรังสียูวีเป็นสิ่งที่ควรทำเสมอ ไม่ว่าจะรับประทานยาที่ทำให้ไวต่อแสงหรือไม่ก็ตาม เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนังและชะลอความแก่ของผิวพรรณ

ชมย้อนหลังรายการ "วันใหม่วาไรตี้" ในช่วง "รู้ทันกันได้" ได้ที่ www.thaipbs.or.th/RuTanKanDai

รู้ทันกันได้

1 - 30
31 - 60
61 - 90
91 - 120
121 - 150
151 - 180
181 - 210
211 - 240
241 - 270
271 - 300
301 - 330
331 - 360
361 - 390
391 - 420
421 - 450
451 - 480
481 - 510
511 - ล่าสุด
รู้ทันกันได้ : นายจ้าง ลดค่าจ้าง - เปลี่ยนตำแหน่งลูกจ้าง ได้หรือไม่ ?
รู้ทันกันได้ : นายจ้าง ลดค่าจ้าง - เปลี่ยนตำแหน่งลูกจ้าง ได้หรือไม่ ?
5 ก.พ. 68
รู้ทันกันได้ : ป่วยโรคไต - ไตวายเรื้อรัง เสี่ยงเป็นมะเร็งไตจริงหรือไม่ ?
รู้ทันกันได้ : ป่วยโรคไต - ไตวายเรื้อรัง เสี่ยงเป็นมะเร็งไตจริงหรือไม่ ?
6 ก.พ. 68
รู้ทันกันได้ : กินมังสวิรัติ - วีแกน เป็นเวลานานทำให้เป็นโรคกระดูกพรุนจริงหรือไม่ ?
รู้ทันกันได้ : กินมังสวิรัติ - วีแกน เป็นเวลานานทำให้เป็นโรคกระดูกพรุนจริงหรือไม่ ?
7 ก.พ. 68
รู้ทันกันได้ : เดิน - วิ่งถอยหลังทำให้สุขภาพดี ช่วยพัฒนาสมองได้จริงหรือไม่ ?
รู้ทันกันได้ : เดิน - วิ่งถอยหลังทำให้สุขภาพดี ช่วยพัฒนาสมองได้จริงหรือไม่ ?
10 ก.พ. 68
รู้ทันกันได้ : ฟลูออไรด์ ได้รับมากเกินไป ทำให้ IQ ต่ำจริงหรือ ?
รู้ทันกันได้ : ฟลูออไรด์ ได้รับมากเกินไป ทำให้ IQ ต่ำจริงหรือ ?
11 ก.พ. 68
รู้ทันกันได้ : "มัทฉะ" สุดฮิตเป็นมิตรกับร่างกายแค่ไหน ?
รู้ทันกันได้ : "มัทฉะ" สุดฮิตเป็นมิตรกับร่างกายแค่ไหน ?
13 ก.พ. 68
รู้ทันกันได้ : ฝุ่น PM 2.5 ซึมผ่านผิวหนัง ทำผิวแก่ก่อนวัยได้จริง
รู้ทันกันได้ : ฝุ่น PM 2.5 ซึมผ่านผิวหนัง ทำผิวแก่ก่อนวัยได้จริง
17 ก.พ. 68
รู้ทันกันได้ : ถอดหลักการ Co-Payment กระทบลูกค้าอย่างไร
รู้ทันกันได้ : ถอดหลักการ Co-Payment กระทบลูกค้าอย่างไร
18 ก.พ. 68
รู้ทันกันได้ : แพ้ยารุนแรง เสี่ยงพิการ - เสียชีวิตได้จริงหรือ ?
รู้ทันกันได้ : แพ้ยารุนแรง เสี่ยงพิการ - เสียชีวิตได้จริงหรือ ?
19 ก.พ. 68
รู้ทันกันได้ : รู้ทันก่อนสาย ! ไข้หวัดใหญ่ระบาดหนัก เด็กเล็กเสี่ยงแค่ไหน
รู้ทันกันได้ : รู้ทันก่อนสาย ! ไข้หวัดใหญ่ระบาดหนัก เด็กเล็กเสี่ยงแค่ไหน
20 ก.พ. 68
รู้ทันกันได้ : ใช้ความรุนแรงในสถานพยาบาลมีโทษทางกฎหมาย
รู้ทันกันได้ : ใช้ความรุนแรงในสถานพยาบาลมีโทษทางกฎหมาย
21 ก.พ. 68
รู้ทันกันได้ : เลิกกลัวไข่ ! วิจัยเผย กินได้มากกว่าที่เคยเชื่อ
รู้ทันกันได้ : เลิกกลัวไข่ ! วิจัยเผย กินได้มากกว่าที่เคยเชื่อ
25 ก.พ. 68
รู้ทันกันได้ : "สีส้ม" ในชาไทย อันตรายจริงหรือไม่ ?
รู้ทันกันได้ : "สีส้ม" ในชาไทย อันตรายจริงหรือไม่ ?
25 ก.พ. 68
"นอนไม่พอ" เสี่ยงอันตรายจากโรคร้าย NCDs | รู้ทันกันได้
"นอนไม่พอ" เสี่ยงอันตรายจากโรคร้าย NCDs | รู้ทันกันได้
27 ก.พ. 68
รู้ทันกันได้ : โกรธง่าย โมโหร้าย วีน - เหวี่ยง เสี่ยง "อัมพาต" สูง
รู้ทันกันได้ : โกรธง่าย โมโหร้าย วีน - เหวี่ยง เสี่ยง "อัมพาต" สูง
28 ก.พ. 68
รู้ทันกันได้ : ขับกร่าง - ชนแล้วอ้าง ! กฎหมายว่าไง ?
รู้ทันกันได้ : ขับกร่าง - ชนแล้วอ้าง ! กฎหมายว่าไง ?
4 มี.ค. 68
รู้ทันกันได้ : โรคภูมิแพ้ขึ้นตาอันตรายถึงขั้นสูญเสียการมองเห็นจริงหรือไม่ ?
รู้ทันกันได้ : โรคภูมิแพ้ขึ้นตาอันตรายถึงขั้นสูญเสียการมองเห็นจริงหรือไม่ ?
5 มี.ค. 68
รู้ทันกันได้ : "โรคไต" เกิดได้จากกรรมพันธุ์ของคนในครอบครัวจริงหรือ ?
รู้ทันกันได้ : "โรคไต" เกิดได้จากกรรมพันธุ์ของคนในครอบครัวจริงหรือ ?
7 มี.ค. 68
รู้ทันกันได้ : "Facebook เตือนลบบัญชี" เช็กให้ดี ก่อนบัญชีถูกแฮก !
รู้ทันกันได้ : "Facebook เตือนลบบัญชี" เช็กให้ดี ก่อนบัญชีถูกแฮก !
10 มี.ค. 68
รู้ทันกันได้ : ปล่อยให้ร่างกายหิวทำให้ดูเด็กลงได้จริงหรือไม่ ?
รู้ทันกันได้ : ปล่อยให้ร่างกายหิวทำให้ดูเด็กลงได้จริงหรือไม่ ?
11 มี.ค. 68
รู้ทันกันได้ : "น้ำกรดหยอดยางพารา" ใช้แบบใดไม่เสี่ยงอันตราย
รู้ทันกันได้ : "น้ำกรดหยอดยางพารา" ใช้แบบใดไม่เสี่ยงอันตราย
13 มี.ค. 68
กำลังเล่น...
รู้ทันกันได้ : รู้ทันกลุ่มยาที่เสี่ยงต่อ "มะเร็งผิวหนัง"
รู้ทันกันได้ : รู้ทันกลุ่มยาที่เสี่ยงต่อ "มะเร็งผิวหนัง"
14 มี.ค. 68
รู้ทันกันได้ : "ซึมเศร้า" ทำ Hippocampus ในสมองฝ่อ เสี่ยงความจำเสื่อม?
รู้ทันกันได้ : "ซึมเศร้า" ทำ Hippocampus ในสมองฝ่อ เสี่ยงความจำเสื่อม?
17 มี.ค. 68
รู้ทันกันได้ : Oxalate ในผัก - ผลไม้ ทำร้ายสุขภาพแค่ไหน
รู้ทันกันได้ : Oxalate ในผัก - ผลไม้ ทำร้ายสุขภาพแค่ไหน
19 มี.ค. 68
รู้ทันกันได้ : "ตั้งครรภ์ในผนังลำไส้ตรง" อาการแบบไหนเสี่ยง ?
รู้ทันกันได้ : "ตั้งครรภ์ในผนังลำไส้ตรง" อาการแบบไหนเสี่ยง ?
19 มี.ค. 68
รู้ทันกันได้ : ถูกมิจฯ ดูดเงิน - แบงก์ฟ้องชำระหนี้ มีทางออกอย่างไร
รู้ทันกันได้ : ถูกมิจฯ ดูดเงิน - แบงก์ฟ้องชำระหนี้ มีทางออกอย่างไร
20 มี.ค. 68
รู้ทันกันได้ : สูดดมแก๊สพิษรั่วในรถตู้ อันตรายถึงชีวิต ?
รู้ทันกันได้ : สูดดมแก๊สพิษรั่วในรถตู้ อันตรายถึงชีวิต ?
21 มี.ค. 68
รู้ทันกันได้ : กินยาคุม เสี่ยงลิ่มเลือดอุดตัน - อัมพาตจริงหรือไม่ ?
รู้ทันกันได้ : กินยาคุม เสี่ยงลิ่มเลือดอุดตัน - อัมพาตจริงหรือไม่ ?
27 มี.ค. 68
รู้ทันกันได้ : รู้ทันภาวะ OSA ในเด็ก ส่งผลเสียอย่างไรในระยะยาว
รู้ทันกันได้ : รู้ทันภาวะ OSA ในเด็ก ส่งผลเสียอย่างไรในระยะยาว
28 มี.ค. 68
รู้ทันกันได้ : เยียวยาจิตใจ หลังผ่านพ้นภัยพิบัติ
รู้ทันกันได้ : เยียวยาจิตใจ หลังผ่านพ้นภัยพิบัติ
31 มี.ค. 68

รู้ทันกันได้

1 - 30
31 - 60
61 - 90
91 - 120
121 - 150
151 - 180
181 - 210
211 - 240
241 - 270
271 - 300
301 - 330
331 - 360
361 - 390
391 - 420
421 - 450
451 - 480
481 - 510
511 - ล่าสุด
รู้ทันกันได้ : นายจ้าง ลดค่าจ้าง - เปลี่ยนตำแหน่งลูกจ้าง ได้หรือไม่ ?
รู้ทันกันได้ : นายจ้าง ลดค่าจ้าง - เปลี่ยนตำแหน่งลูกจ้าง ได้หรือไม่ ?
5 ก.พ. 68
รู้ทันกันได้ : ป่วยโรคไต - ไตวายเรื้อรัง เสี่ยงเป็นมะเร็งไตจริงหรือไม่ ?
รู้ทันกันได้ : ป่วยโรคไต - ไตวายเรื้อรัง เสี่ยงเป็นมะเร็งไตจริงหรือไม่ ?
6 ก.พ. 68
รู้ทันกันได้ : กินมังสวิรัติ - วีแกน เป็นเวลานานทำให้เป็นโรคกระดูกพรุนจริงหรือไม่ ?
รู้ทันกันได้ : กินมังสวิรัติ - วีแกน เป็นเวลานานทำให้เป็นโรคกระดูกพรุนจริงหรือไม่ ?
7 ก.พ. 68
รู้ทันกันได้ : เดิน - วิ่งถอยหลังทำให้สุขภาพดี ช่วยพัฒนาสมองได้จริงหรือไม่ ?
รู้ทันกันได้ : เดิน - วิ่งถอยหลังทำให้สุขภาพดี ช่วยพัฒนาสมองได้จริงหรือไม่ ?
10 ก.พ. 68
รู้ทันกันได้ : ฟลูออไรด์ ได้รับมากเกินไป ทำให้ IQ ต่ำจริงหรือ ?
รู้ทันกันได้ : ฟลูออไรด์ ได้รับมากเกินไป ทำให้ IQ ต่ำจริงหรือ ?
11 ก.พ. 68
รู้ทันกันได้ : "มัทฉะ" สุดฮิตเป็นมิตรกับร่างกายแค่ไหน ?
รู้ทันกันได้ : "มัทฉะ" สุดฮิตเป็นมิตรกับร่างกายแค่ไหน ?
13 ก.พ. 68
รู้ทันกันได้ : ฝุ่น PM 2.5 ซึมผ่านผิวหนัง ทำผิวแก่ก่อนวัยได้จริง
รู้ทันกันได้ : ฝุ่น PM 2.5 ซึมผ่านผิวหนัง ทำผิวแก่ก่อนวัยได้จริง
17 ก.พ. 68
รู้ทันกันได้ : ถอดหลักการ Co-Payment กระทบลูกค้าอย่างไร
รู้ทันกันได้ : ถอดหลักการ Co-Payment กระทบลูกค้าอย่างไร
18 ก.พ. 68
รู้ทันกันได้ : แพ้ยารุนแรง เสี่ยงพิการ - เสียชีวิตได้จริงหรือ ?
รู้ทันกันได้ : แพ้ยารุนแรง เสี่ยงพิการ - เสียชีวิตได้จริงหรือ ?
19 ก.พ. 68
รู้ทันกันได้ : รู้ทันก่อนสาย ! ไข้หวัดใหญ่ระบาดหนัก เด็กเล็กเสี่ยงแค่ไหน
รู้ทันกันได้ : รู้ทันก่อนสาย ! ไข้หวัดใหญ่ระบาดหนัก เด็กเล็กเสี่ยงแค่ไหน
20 ก.พ. 68
รู้ทันกันได้ : ใช้ความรุนแรงในสถานพยาบาลมีโทษทางกฎหมาย
รู้ทันกันได้ : ใช้ความรุนแรงในสถานพยาบาลมีโทษทางกฎหมาย
21 ก.พ. 68
รู้ทันกันได้ : เลิกกลัวไข่ ! วิจัยเผย กินได้มากกว่าที่เคยเชื่อ
รู้ทันกันได้ : เลิกกลัวไข่ ! วิจัยเผย กินได้มากกว่าที่เคยเชื่อ
25 ก.พ. 68
รู้ทันกันได้ : "สีส้ม" ในชาไทย อันตรายจริงหรือไม่ ?
รู้ทันกันได้ : "สีส้ม" ในชาไทย อันตรายจริงหรือไม่ ?
25 ก.พ. 68
"นอนไม่พอ" เสี่ยงอันตรายจากโรคร้าย NCDs | รู้ทันกันได้
"นอนไม่พอ" เสี่ยงอันตรายจากโรคร้าย NCDs | รู้ทันกันได้
27 ก.พ. 68
รู้ทันกันได้ : โกรธง่าย โมโหร้าย วีน - เหวี่ยง เสี่ยง "อัมพาต" สูง
รู้ทันกันได้ : โกรธง่าย โมโหร้าย วีน - เหวี่ยง เสี่ยง "อัมพาต" สูง
28 ก.พ. 68
รู้ทันกันได้ : ขับกร่าง - ชนแล้วอ้าง ! กฎหมายว่าไง ?
รู้ทันกันได้ : ขับกร่าง - ชนแล้วอ้าง ! กฎหมายว่าไง ?
4 มี.ค. 68
รู้ทันกันได้ : โรคภูมิแพ้ขึ้นตาอันตรายถึงขั้นสูญเสียการมองเห็นจริงหรือไม่ ?
รู้ทันกันได้ : โรคภูมิแพ้ขึ้นตาอันตรายถึงขั้นสูญเสียการมองเห็นจริงหรือไม่ ?
5 มี.ค. 68
รู้ทันกันได้ : "โรคไต" เกิดได้จากกรรมพันธุ์ของคนในครอบครัวจริงหรือ ?
รู้ทันกันได้ : "โรคไต" เกิดได้จากกรรมพันธุ์ของคนในครอบครัวจริงหรือ ?
7 มี.ค. 68
รู้ทันกันได้ : "Facebook เตือนลบบัญชี" เช็กให้ดี ก่อนบัญชีถูกแฮก !
รู้ทันกันได้ : "Facebook เตือนลบบัญชี" เช็กให้ดี ก่อนบัญชีถูกแฮก !
10 มี.ค. 68
รู้ทันกันได้ : ปล่อยให้ร่างกายหิวทำให้ดูเด็กลงได้จริงหรือไม่ ?
รู้ทันกันได้ : ปล่อยให้ร่างกายหิวทำให้ดูเด็กลงได้จริงหรือไม่ ?
11 มี.ค. 68
รู้ทันกันได้ : "น้ำกรดหยอดยางพารา" ใช้แบบใดไม่เสี่ยงอันตราย
รู้ทันกันได้ : "น้ำกรดหยอดยางพารา" ใช้แบบใดไม่เสี่ยงอันตราย
13 มี.ค. 68
กำลังเล่น...
รู้ทันกันได้ : รู้ทันกลุ่มยาที่เสี่ยงต่อ "มะเร็งผิวหนัง"
รู้ทันกันได้ : รู้ทันกลุ่มยาที่เสี่ยงต่อ "มะเร็งผิวหนัง"
14 มี.ค. 68
รู้ทันกันได้ : "ซึมเศร้า" ทำ Hippocampus ในสมองฝ่อ เสี่ยงความจำเสื่อม?
รู้ทันกันได้ : "ซึมเศร้า" ทำ Hippocampus ในสมองฝ่อ เสี่ยงความจำเสื่อม?
17 มี.ค. 68
รู้ทันกันได้ : Oxalate ในผัก - ผลไม้ ทำร้ายสุขภาพแค่ไหน
รู้ทันกันได้ : Oxalate ในผัก - ผลไม้ ทำร้ายสุขภาพแค่ไหน
19 มี.ค. 68
รู้ทันกันได้ : "ตั้งครรภ์ในผนังลำไส้ตรง" อาการแบบไหนเสี่ยง ?
รู้ทันกันได้ : "ตั้งครรภ์ในผนังลำไส้ตรง" อาการแบบไหนเสี่ยง ?
19 มี.ค. 68
รู้ทันกันได้ : ถูกมิจฯ ดูดเงิน - แบงก์ฟ้องชำระหนี้ มีทางออกอย่างไร
รู้ทันกันได้ : ถูกมิจฯ ดูดเงิน - แบงก์ฟ้องชำระหนี้ มีทางออกอย่างไร
20 มี.ค. 68
รู้ทันกันได้ : สูดดมแก๊สพิษรั่วในรถตู้ อันตรายถึงชีวิต ?
รู้ทันกันได้ : สูดดมแก๊สพิษรั่วในรถตู้ อันตรายถึงชีวิต ?
21 มี.ค. 68
รู้ทันกันได้ : กินยาคุม เสี่ยงลิ่มเลือดอุดตัน - อัมพาตจริงหรือไม่ ?
รู้ทันกันได้ : กินยาคุม เสี่ยงลิ่มเลือดอุดตัน - อัมพาตจริงหรือไม่ ?
27 มี.ค. 68
รู้ทันกันได้ : รู้ทันภาวะ OSA ในเด็ก ส่งผลเสียอย่างไรในระยะยาว
รู้ทันกันได้ : รู้ทันภาวะ OSA ในเด็ก ส่งผลเสียอย่างไรในระยะยาว
28 มี.ค. 68
รู้ทันกันได้ : เยียวยาจิตใจ หลังผ่านพ้นภัยพิบัติ
รู้ทันกันได้ : เยียวยาจิตใจ หลังผ่านพ้นภัยพิบัติ
31 มี.ค. 68

ละครดี ซีรีส์เด่น

ดูทั้งหมด

♫ ♫ Songs Popular ♫ ♫

ดูทั้งหมด

คลิปมาใหม่

คนดูเยอะ 👀

ดูทั้งหมด

เสน่ห์ประเทศไทย