โรคซึมเศร้าไม่ได้ส่งผลกระทบเพียงแค่ด้านอารมณ์เท่านั้น แต่มีผลต่อสมองโดยตรง โดยเฉพาะสมองส่วน "ฮิปโปแคมปัส" (Hippocampus) ส่วนสำคัญที่เกี่ยวข้องกับระบบความจำ งานวิจัยล่าสุดพบว่า โรคซึมเศร้าอาจทำให้ฮิปโปแคมปัสฝ่อลง ส่งผลให้มีปัญหาด้านความจำและการเรียนรู้ แล้วเราจะป้องกันหรือชะลอปัญหานี้ได้อย่างไร? มาหาคำตอบไปพร้อมกัน
ฮิปโปแคมปัส (Hippocampus) เป็นโครงสร้างสมองขนาดเล็กที่อยู่บริเวณฐานสมองด้านล่างส่วนกลาง แม้จะมีขนาดเล็ก แต่ฮิปโปแคมปัสมีความสำคัญอย่างมากต่อระบบความจำและการเรียนรู้ของมนุษย์
ฮิปโปแคมปัสเป็นส่วนหนึ่งของระบบลิมบิก (Limbic System) ซึ่งเป็นระบบที่ควบคุมเกี่ยวกับ
เมื่อฮิปโปแคมปัสทำงานผิดปกติหรือฝ่อลง จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสามารถในการจดจำและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้
นายแพทย์ธีรนันท์ มิตรภานนท์ จิตแพทย์และผู้อำนวยการโรงพยาบาลแพทย์รังสิต อธิบายว่า โรคซึมเศร้ามีความเชื่อมโยงโดยตรงกับการฝ่อลงของฮิปโปแคมปัส โดยมีกลไกดังนี้
จากการศึกษาพบว่า ผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้าอาจมีฮิปโปแคมปัสฝ่อลงประมาณ 8 - 10% ซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำงานของสมองโดยตรง
คำถามที่หลายคนสงสัยคือ เมื่อฮิปโปแคมปัสฝ่อลงแล้ว จะสามารถกลับมาเป็นปกติได้หรือไม่? คำตอบคือ แม้จะมีวิธีการกระตุ้นการเจริญเติบโตของสมอง แต่ไม่สามารถทำให้ฮิปโปแคมปัสกลับมาเท่าเดิมได้ 100%
หากเป็นโรคซึมเศร้าครั้งแรก และได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาจช่วยชะลอการฝ่อลงของฮิปโปแคมปัสได้ แต่หากมีอาการซึมเศร้าซ้ำหลายครั้ง ฮิปโปแคมปัสจะยิ่งฝ่อลงเรื่อย ๆ และส่งผลกระทบต่อความจำมากขึ้น
ในอดีต โรคซึมเศร้ามักพบในผู้ที่มีอายุประมาณ 45 ปีขึ้นไป แต่ปัจจุบันพบว่ามีผู้ป่วยซึมเศร้าที่อายุน้อยลง โดยเฉพาะในช่วงอายุ 20 กว่า ๆ มากขึ้น
ไม่เพียงแต่โรคซึมเศร้าเท่านั้นที่ส่งผลต่อฮิปโปแคมปัส ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้ฮิปโปแคมปัสฝ่อลงได้
หากคุณสงสัยว่าตัวเองหรือคนใกล้ชิดอาจมีปัญหาเกี่ยวกับฮิปโปแคมปัส สามารถสังเกตอาการเบื้องต้นได้ดังนี้
หากพบอาการเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ
มีวิธีหลายอย่างที่สามารถช่วยดูแลสุขภาพสมองและชะลอการฝ่อลงของฮิปโปแคมปัสได้
การออกกำลังกายเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาโรคซึมเศร้าและช่วยป้องกันการฝ่อลงของฮิปโปแคมปัส งานวิจัยยืนยันว่าการออกกำลังกายมีความสำคัญอย่างมากในกระบวนการรักษา
การฝึกจิตใจผ่านการทำสมาธิแบบ Mindfulness เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดความเครียดและช่วยป้องกันการฝ่อลงของฮิปโปแคมปัส โดยไม่จำเป็นต้องนั่งสมาธิเป็นเวลานาน เพียงแค่
การพบปะผู้คนและมีปฏิสัมพันธ์แบบพบหน้ากัน (ไม่ใช่แค่ผ่านโซเชียลมีเดีย) มีความสำคัญมากต่อสุขภาพสมอง โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีภาวะซึมเศร้า การพูดคุย หัวเราะ และทำกิจกรรมร่วมกันเป็นเสมือนการบำบัดกลุ่มอย่างหนึ่ง
หากคุณมีคนใกล้ชิดที่กำลังเผชิญกับภาวะซึมเศร้า นี่คือวิธีที่คุณสามารถช่วยเหลือได้
โรคซึมเศร้าไม่เพียงส่งผลกระทบต่ออารมณ์เท่านั้น แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อสมองส่วนฮิปโปแคมปัส ซึ่งเกี่ยวข้องกับความจำและการเรียนรู้ การฝ่อลงของฮิปโปแคมปัสอาจไม่สามารถฟื้นฟูให้กลับมาเหมือนเดิมได้ 100% แต่เราสามารถชะลอการฝ่อลงและป้องกันปัญหาได้ด้วยการออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ฝึกสมาธิ และมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม
การตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพจิตและการป้องกันโรคซึมเศร้าตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยป้องกันการฝ่อลงของฮิปโปแคมปัสและลดความเสี่ยงของปัญหาความจำเสื่อมในอนาคตได้
ชมย้อนหลังรายการ "วันใหม่วาไรตี้" ในช่วง "รู้ทันกันได้" ได้ที่ www.thaipbs.or.th/RuTanKanDai
โรคซึมเศร้าไม่ได้ส่งผลกระทบเพียงแค่ด้านอารมณ์เท่านั้น แต่มีผลต่อสมองโดยตรง โดยเฉพาะสมองส่วน "ฮิปโปแคมปัส" (Hippocampus) ส่วนสำคัญที่เกี่ยวข้องกับระบบความจำ งานวิจัยล่าสุดพบว่า โรคซึมเศร้าอาจทำให้ฮิปโปแคมปัสฝ่อลง ส่งผลให้มีปัญหาด้านความจำและการเรียนรู้ แล้วเราจะป้องกันหรือชะลอปัญหานี้ได้อย่างไร? มาหาคำตอบไปพร้อมกัน
ฮิปโปแคมปัส (Hippocampus) เป็นโครงสร้างสมองขนาดเล็กที่อยู่บริเวณฐานสมองด้านล่างส่วนกลาง แม้จะมีขนาดเล็ก แต่ฮิปโปแคมปัสมีความสำคัญอย่างมากต่อระบบความจำและการเรียนรู้ของมนุษย์
ฮิปโปแคมปัสเป็นส่วนหนึ่งของระบบลิมบิก (Limbic System) ซึ่งเป็นระบบที่ควบคุมเกี่ยวกับ
เมื่อฮิปโปแคมปัสทำงานผิดปกติหรือฝ่อลง จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสามารถในการจดจำและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้
นายแพทย์ธีรนันท์ มิตรภานนท์ จิตแพทย์และผู้อำนวยการโรงพยาบาลแพทย์รังสิต อธิบายว่า โรคซึมเศร้ามีความเชื่อมโยงโดยตรงกับการฝ่อลงของฮิปโปแคมปัส โดยมีกลไกดังนี้
จากการศึกษาพบว่า ผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้าอาจมีฮิปโปแคมปัสฝ่อลงประมาณ 8 - 10% ซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำงานของสมองโดยตรง
คำถามที่หลายคนสงสัยคือ เมื่อฮิปโปแคมปัสฝ่อลงแล้ว จะสามารถกลับมาเป็นปกติได้หรือไม่? คำตอบคือ แม้จะมีวิธีการกระตุ้นการเจริญเติบโตของสมอง แต่ไม่สามารถทำให้ฮิปโปแคมปัสกลับมาเท่าเดิมได้ 100%
หากเป็นโรคซึมเศร้าครั้งแรก และได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาจช่วยชะลอการฝ่อลงของฮิปโปแคมปัสได้ แต่หากมีอาการซึมเศร้าซ้ำหลายครั้ง ฮิปโปแคมปัสจะยิ่งฝ่อลงเรื่อย ๆ และส่งผลกระทบต่อความจำมากขึ้น
ในอดีต โรคซึมเศร้ามักพบในผู้ที่มีอายุประมาณ 45 ปีขึ้นไป แต่ปัจจุบันพบว่ามีผู้ป่วยซึมเศร้าที่อายุน้อยลง โดยเฉพาะในช่วงอายุ 20 กว่า ๆ มากขึ้น
ไม่เพียงแต่โรคซึมเศร้าเท่านั้นที่ส่งผลต่อฮิปโปแคมปัส ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้ฮิปโปแคมปัสฝ่อลงได้
หากคุณสงสัยว่าตัวเองหรือคนใกล้ชิดอาจมีปัญหาเกี่ยวกับฮิปโปแคมปัส สามารถสังเกตอาการเบื้องต้นได้ดังนี้
หากพบอาการเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ
มีวิธีหลายอย่างที่สามารถช่วยดูแลสุขภาพสมองและชะลอการฝ่อลงของฮิปโปแคมปัสได้
การออกกำลังกายเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาโรคซึมเศร้าและช่วยป้องกันการฝ่อลงของฮิปโปแคมปัส งานวิจัยยืนยันว่าการออกกำลังกายมีความสำคัญอย่างมากในกระบวนการรักษา
การฝึกจิตใจผ่านการทำสมาธิแบบ Mindfulness เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดความเครียดและช่วยป้องกันการฝ่อลงของฮิปโปแคมปัส โดยไม่จำเป็นต้องนั่งสมาธิเป็นเวลานาน เพียงแค่
การพบปะผู้คนและมีปฏิสัมพันธ์แบบพบหน้ากัน (ไม่ใช่แค่ผ่านโซเชียลมีเดีย) มีความสำคัญมากต่อสุขภาพสมอง โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีภาวะซึมเศร้า การพูดคุย หัวเราะ และทำกิจกรรมร่วมกันเป็นเสมือนการบำบัดกลุ่มอย่างหนึ่ง
หากคุณมีคนใกล้ชิดที่กำลังเผชิญกับภาวะซึมเศร้า นี่คือวิธีที่คุณสามารถช่วยเหลือได้
โรคซึมเศร้าไม่เพียงส่งผลกระทบต่ออารมณ์เท่านั้น แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อสมองส่วนฮิปโปแคมปัส ซึ่งเกี่ยวข้องกับความจำและการเรียนรู้ การฝ่อลงของฮิปโปแคมปัสอาจไม่สามารถฟื้นฟูให้กลับมาเหมือนเดิมได้ 100% แต่เราสามารถชะลอการฝ่อลงและป้องกันปัญหาได้ด้วยการออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ฝึกสมาธิ และมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม
การตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพจิตและการป้องกันโรคซึมเศร้าตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยป้องกันการฝ่อลงของฮิปโปแคมปัสและลดความเสี่ยงของปัญหาความจำเสื่อมในอนาคตได้
ชมย้อนหลังรายการ "วันใหม่วาไรตี้" ในช่วง "รู้ทันกันได้" ได้ที่ www.thaipbs.or.th/RuTanKanDai