การเดินสายเยือน 3 ชาติอาเซียนคือ เวียดนาม มาเลเซีย และกัมพูชา ของ “สี จิ้นผิง” ประธานาธิบดีจีน วันนี้ (15 เม.ย. 68) สี จิ้นผิงเดินทางถึงสนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ มีอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เดินทางมาต้อนรับด้วยตัวเอง ซึ่งถือเป็นการเดินทางเยือนมาเลเซียครั้งแรกในรอบ 9 ปีของผู้นำจีน ความเคลื่อนไหวของผู้นำจีนครั้งนี้สะท้อนถึงความสำคัญของภูมิภาค ท่ามกลางการแข่งขันอย่างเปิดเผยมากขึ้นระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ซึ่ง รศ.ดุลยภาค ปรีชารัชช นายกสมาคมภูมิภาคศึกษา มองว่า จีนเป็นฝ่ายถือไพ่เหนือสหรัฐฯ เนื่องจากจีนสร้างความร่วมมือผ่านการลงทุนในโครงการต่าง ๆ
สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน มีสัญญาณตึงเครียดอีกรอบ หลังจากสหรัฐฯ ผุดแนวคิดเก็บภาษีนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์ สำหรับเซมิคอนดักเตอร์เป็นชิ้นส่วนขนาดเล็กแต่ทรงพลังอย่างมาก เนื่องจากอุปกรณ์ทั่วไปในชีวิตประจำวันต้องใช้เซมิคอนดักเตอร์ทั้งสมาร์ตโฟน แล็ปท็อป เราเตอร์ และโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารซึ่งถือเป็นเสาหลักของระบบอินเทอร์เน็ตช่วยให้เชื่อมต่อทั่วโลก นอกจากนี้เซมิคอนดักเตอร์ยังถูกนำมาใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า หุ่นยนต์ ดาวเทียม ขีปนาวุธ เรือดำน้ำ เครื่องบินรบและยุทโธปกรณ์ล้ำสมัย เซมิคอนดักเตอร์ผลิตจากซิลิคอนผ่านกระบวนการเติมสารเจือปนเพื่อให้วัสดุมีคุณสมบัติในการนำไฟฟ้าหรือไม่นำไฟฟ้าตามต้องการ ปัจจุบันอุตสาหกรรมนี้มีมูลค่ามากกว่า 500,000 ล้านดอลลาร์ และมีแนวโน้มจะเติบโต 2 เท่าภายในปี 2030 หรือ 5 ปีข้างหน้า
เกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) มองไทยจะสามารถเจรจาต่อรองกับทีมงานประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ เพียงอาจต้องซื้อสินค้าบางอย่างจากสหรัฐฯ เข้ามา เพื่อลดการขาดดุลให้ไทย ยกตัวอย่างเนื้อหมูปรุงแล้ว ข้าวโพด ฯลฯ
วันนี้ (14 เม.ย. 68) นายทักษิณ ชินวัตร แสดงความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลไทยจะสามารถเจรจากับสหรัฐฯ เรื่องกำแพงภาษีได้ หลังได้พูดคุยกับคนรอบตัวของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แล้ว อีกทั้งยังตอบข้อถามว่าจะไปเจรจาด้วยตัวเองหรือไม่ นายทักษิณ ตอบว่า หากว่างก็จะเดินทางไป ทั้งนี้ แม้จะยังไม่ชัดเจนว่านายทักษิณจะเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเจรจาครั้งนี้อย่างไร แต่ นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มองว่า เห็นด้วย หากมีบุคคลที่สามารถใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวไปเจรจานอกรอบ เพื่อต่อรองก่อน เป็นการใช้ศักยภาพของแต่ละคนช่วยกัน ไม่ใช่เรื่องแปลก
วันนี้ (10 เม.ย. 68) สิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ พร้อมผู้บริหารสมาคมและตัวแทนผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออก และภาคใต้ เข้ายื่นหนังสือถึงนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง ในฐานะหัวหน้าคณะเจรจา เรียกร้องให้รัฐบาลยุติข้อเสนอนำเข้าชิ้นส่วนและเครื่องในหมูเป็นสินค้าต่อรองกับสหรัฐฯ หลังประเมินว่ามูลค่าสินค้าประเภทนี้ ไม่สามารถลดการขาดดุลของสหรัฐฯ อีกทั้งยังเป็นการซ้ำเติมเกษตรกร ผู้เลี้ยงหมูที่เพิ่งฟื้นตัวจากวิกฤต และยังกระทบผู้บริโภคเสี่ยงได้รับสารพิษตกค้างจากสารเร่งเนื้อแดง
วันนี้ (10 เม.ย. 68) แม้โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศเลื่อนการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศต่าง ๆ ออกไปอีก 90 วัน ได้ส่งผลดีให้หลายประเทศทั่วโลกรวมถึงสหรัฐฯ แต่ยังยกเว้นจีน ที่สหรัฐฯ ยังเดินหน้าเก็บภาษีนำเข้าร้อยละ 125 ซึ่งเป็นการตอบโต้จีนที่เตรียมเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ เพิ่มเป็นร้อยละ 84 จะมีผลบังคับใช้ในเวลา 12.01 น. วันนี้ตามเวลาที่จีน ในอดีตองค์การการค้าโลก (WTO) เข้ามามีบทบาทในการยุติข้อพิพาททางการค้าระหว่างประเทศอยู่หลายครั้ง แต่ปัจจุบัน WTO กำลังถูกตั้งคำถามว่าเป็นเพียงแค่เสือกระดาษที่ขู่ใครก็ไม่ได้หรือไม่ หลังจากจีนและหลายชาติทำหนังสือร้องเรียนในประเด็นกำแพงภาษีของสหรัฐฯ แต่ WTO ก็ยังทำอะไรไม่ได้
วันนี้ (9 เม.ย. 68) กรณีสหรัฐฯ เริ่มใช้มาตรการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าบางประเทศในอัตราสูงกว่าขั้นต่ำ เริ่มบังคับใช้วันนี้วันแรกนั้น ได้ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ทั่วเอเชีย ร่วงลงอีกครั้ง ขณะที่หลายประเทศเริ่มออกมาตรการรับมือกำแพงภาษีดังกล่าว อย่างอินเดีย ธนาคารกลางประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศที่ชะลอตัว หลังเผชิญมาตรการเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ในอัตราร้อยละ 26 ขณะที่จีน สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลจีน เตรียมจัดการประชุมภายในวันนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดทุนของจีน หลังทำเนียบขาว ยืนกรานเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน ในอัตราร้อยละ 104 ทั้งนี้ สื่อทางการจีน รายงานว่า หลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ได้หารือทางโทรศัพท์กับเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้อง ที่จะร่วมมือกันเพื่อรักษาระบบการค้าเสรีและเปิดกว้างของโลก
ตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มฟื้นตัวหลังจากหลายประเทศเร่งเจรจานโยบายกำแพงภาษี ของโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะที่ผู้นำอาเซียนเห็นชอบส่งเจ้าหน้าที่ไปสหรัฐฯ เพื่อเจรจาเช่นกัน ความผันผวนหลายวันที่ผ่านมากระทบต่อมหาเศรษฐีในสหรัฐฯ "ทันโลก Offbeat" เปิดชื่อ 4 มหาเศรษฐี ที่ได้รับผลกระทบหนักจากมาตรการนี้
วันนี้ (8 เม.ย. 68) หลังสหรัฐอเมริกาปรับขึ้นภาษีนำเข้าจากไทย ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำรอบใหม่ โดยการประชุมคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 ครั้งที่ 3 ในปี 2568 นายจ้างหลายคนได้สะท้อนถึงรับผลกระทบอย่างหนักจากมาตรการนี้ ทำให้การประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง ยังไม่มีการพิจารณาปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำรอบใหม่ อีกทั้งถูกมองว่าการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำรอบใหม่ อาจจะยังไม่สามารถทำได้ในเร็ววันนี้
แม้จะผ่านมาแล้วเกือบ 1 สัปดาห์ นับตั้งแต่ "โดนัลด์ ทรัมป์" ประกาศตั้งกำแพงภาษีครั้งใหญ่ แต่ตลาดโลกก็ยังคงปั่นป่วนรุนแรงมาจนถึงตอนนี้ ขณะที่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกต่างคิดหาวิธีเพิ่มแต้มต่อในการเจรจากับสหรัฐฯ สำหรับอาเซียน มีความเป็นไปได้ที่จะจับมือกันฝ่าวิกฤตในครั้งนี้ด้วย