ราชกิจจานุเบกษา ออกประกาศข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 32เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ออกประกาศข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 32)
นายกฯ ออกข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ห้ามชุมนุม-เข้าพื้นที่เสี่ยงนายกรัฐมนตรี ออกข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เร่งควบคุมการแพร่ระบาด COVID-19 ระลอกใหม่ ห้ามการใช้หรือเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงติดโรค ห้ามชุมนุม-มั่วสุม ให้เฝ้าระวังการเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามชาติ
นายกฯ ออกคำสั่งเบรกผู้ว่าฯ ทั่วประเทศคลาย "ล็อกดาวน์"นายกรัฐมนตรีออกข้อกำหนด ตามมาตรา 9 พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ให้ยังคง ไม่ว่าจะเป็นการห้าม การให้กระทำการ หรือการผ่อนคลายใด ๆ มีผลบังคับใช้ต่อไปเช่นเดิม จนกว่าจะได้มีข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น
แนะ "เด็ก-ผู้สูงอายุ" เลี่ยงเดินทาง-ออกจากบ้าน เปิดข้อกำหนดฉบับที่ 1 สาระสำคัญ 16 ประเด็นที่พึงปฏิบัติ เช่น ผู้สูงอายุตั้งแต่ 70 ปี กลุ่มคนที่มีโรคประจำตัว กลุ่มเด็กเล็กต่ำกว่า 5 ขวบ ที่ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อไวรัสโคโรนา ต้องอยู่ในบ้านพักเพื่อป้องกันตัวเอง เว้นจะไปพบหมอ ทำธุกรรมการเงิน ซื้อหาอาหาร
ราชกิจจาฯ แพร่ข้อกำหนดให้ ผอ.รมน. มีอำนาจประกาศเคอร์ฟิวราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ข้อกำหนดให้ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร มีอำนาจประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดแก่ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของประชาชน
รัฐบาลเตรียมตั้งจุดรับซื้อยางพาราแสนตัน 3,000 จุดทั่วประเทศ ให้ทหารคุมความเรียบร้อย จับตา ครม.หารือกระบวนการรับซื้อราคายางโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง เตรียมตั้งจุดรับซื้อ 3,000 จุดทั่วประเทศ เน้นภาคใต้ 2,000 จุด พร้อมให้ทหารเข้าดูแลความเรียบร้อย ด้านกระทรวงเกษตรฯ เสนอใช้เงินธรรมเนียมส่งออกยางพารา 4.5 พันล้านบาท ซื้อยางพาราแสนตัน