"มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เผยความคืบหน้าเรื่องลิขสิทธิ์ไทยลีกที่ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ยืนยันว่า ทุกทีมจะต้องได้เงินสนับสนุนที่มากกว่าเดิม และตั้งเป้าให้มีการถ่ายทอดสดไทยลีก1 และไทยลีก 2 ทุกคู่เพื่อปลุกกระแสฟุตบอลไทยด้วย
นวลพรรณ ล่ำซำ หรือมาดามแป้ง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอล ถึงกับหลั่งน้ำตาในงานแถลงข่าว ปมสมาคมฟุตบอลฯ แพ้คดีสยามสปอร์ต ต้องชดใช้หนี้ 360 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย ซึ่งส่งผลต่อสภาพคล่องทางการเงินของสมาคมแน่นอน ประเด็นสำคัญอยู่ที่การเปิดโปงการบริหารงานที่ไม่โปร่งใสของสมาคมชุดเก่าที่นำโดย พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการที่ทิ้งหนี้สินไว้สูงถึง 132 ล้านบาท แต่มีเงินติดบัญชีสมาคมเพียง 27 ล้านบาท ก่อนที่มาดามแป้งจะรับไม้ต่อมาทำหน้าที่แทน โดยเฉพาะหนี้ที่ พล.ต.อ. สมยศ ไปกู้ยืมเงินจากฟีฟ่าจำนวน 155 ล้านบาท ทำให้ฟีฟ่าต้องหักหนี้จากเงินสนับสนุนสมาคมในแต่ละปีไปจนถึงปี 2575 นั่นหมายความว่าหากมาดามแป้งครบวาระการเป็นนายกสมาคม คนที่เข้ามาแทนที่ต้องดูแลหนี้ส่วนนี้ต่อไปอีก นอกจากนี้ ยังมีในเรื่องของการรับเงินเดือนที่ พล.ต.อ.สมยศ เป็นนายกสมาคม และเป็นประธานไทยลีก รวมเดือนละ 1 ล้านบาท แม้เจ้าตัวจะยืนยันว่าบริจาคคืนให้สมาคมแล้ว 32 ล้านบาท แต่ฝ่ายบัญชียังไม่เจอหลักฐานการคืน รวมถึงยังมีในเรื่องของการขายข้อมูลทีมไทยลีก และทีมชาติ ให้กับเว็บไซต์สัญชาติมาเลเซีย โดยมีสัญญาผูกมัดถึงปี 2571
เบื้องหลังรอยร้าวระหว่าง "มาดามเเป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ กับ นายปวิณ ภิรมย์ภักดี ประธานสโมสรบีจี ปทุม จากเหตุการณ์ปฏิเสธรับช่อดอกไม้แสดงความยินดีหลัง "บีจีฯ" คว้าแชมป์รีโว่ คัพ สมัยแรก สะท้อนถึงปัญหาระหว่าง 2 บิ๊กในวงการฟุตบอลไทย จนเกิดเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ "ปวิณ" ตัดขาด ยื่นหนังสือลาออกจากการดูแลทีมชาติไทยยู-23 ปี
มาดามแป้ง ยอมรับว่าการไปฟุตบอลโลกเป็นสิ่งที่ยาก ทำคนเดียวไม่ได้ แม้แต่ในรอบคัดเลือกขณะนี้คู่แข่งยังมีหลายทีมที่แข็งแกร่ง แต่ปัจจัยสำคัญคือการรวมใจนักเตะ เทคนิคจากโค้ช และ แฟนบอล นอกจากนั้นยังมีปัญหาลิขสิทธิ์ซึ่งเป็นการบ้านที่หนักใจที่สุด