วิบากกรรม ของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล ในช่วงนี้ด้านคดีความ ดูจะหนักหน่วงเพราะนอกจากเมื่อวานที่ผ่านมา คณะกรรมการสอบปมขัดแย้ง ที่นายกรัฐมนตรีตั้งขึ้น จะสรุปผลตามความเห็นตาม ศาล ว่ามีความผิดเข้าข่าย "ฐานฟอกเงิน" ตามข้อกล่าวหา ตำรวจ ปปป. ยังตรวจพบว่า พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ และลูกน้อง แสดงบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ และ ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ดำเนินการตรวจสอบและชี้มูล อีก 2 ข้อหา
น่าจะไม่จบง่าย ๆ ปัญหาในวงการตำรวจ การออกมาเปิดข้อมูลเส้นทางการเงินของเครือข่ายพนันออนไลน์ที่อ้างว่าโยงถึงคนใกล้ชิดผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ของนายษิทธา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม” และได้ยื่นข้อมูลให้ พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว ตรวจสอบ ทำให้ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ตั้งทีมทนายฟ้อง “ทนายตั้ม” ข้อหาหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ขณะที่ ป.ป.ช. ก็พร้อมตรวจสอบแต่ต้องรอให้ "ทนายตั้ม" ส่งข้อมูลมาก่อน
ฟังมุมมองปัญหาความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผ่านมุมมองอดีต ผบ.ตร. "พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส" หนึ่งใน ผบ.ตร. ที่เคยถูกย้ายช่วยราชการที่ทำเนียบรัฐบาล ทั้งกรณีคำสั่งโยกย้าย "บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก" ประเมินไปถึงผลการพิจารณาของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง
ไล่เรียงเหตุการณ์หลัง “บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก” ที่ทั้งคู่ นั่งโต๊ะคู่เคลียร์ “รอยร้าว” ระหว่างพี่กับน้อง ปมเว็บพนันออนไลน์ ที่กลายเป็นชักศึกเข้ากรมปทุมวันต่อเนื่องมานานกว่า 5 เดือน ยิ่งสาวยิ่งเจอตอ จนต้องทิ้งไพ่ใบสุดท้าย ด้วยการจูงมือกันไปพบ “นายกรัฐมนตรี” ก่อนจะกลับมาแถลงข่าวชื่นมื่น กอดเอวโชว์สื่อ ต่อมา ไม่ถึง 2 ชั่วโมง กลายเป็นกอดคอเด้งเข้ากรุ เมื่อ “ฟ้าผ่า” เปรี้ยง ลงใจกลางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อมีคำสั่งตรงจากทำเนียบรัฐบาลว่า “นายกฯ นิด” เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้ “บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก” เข้ามาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี คำถามที่ตามมาคือกระบวณการต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร เรื่องคดี-หมายเรียก จะจบแบบไหนหรือจะปล่อยให้เงียบ ? พูดคุยกับ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล