กรณีหญิงชาวอำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี บังคับให้ลูกขายยาบ้าให้กับวัยรุ่นในหมู่บ้าน จนทำให้ลูกสาวคนโตทนไม่ไหว ถ่ายคลิปและร้องเรียนไปยังเจ้าหน้าที่เพื่อให้ความช่วยเหลือ ซึ่งขณะนี้เด็กและเยาวชนอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว ส่วนตาของเด็กที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง สาธารณสุขอำเภอรับตัวไปดูแลแล้ว
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่กฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ โดยประเภทยาบ้านั้นที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ ไม่เกิน 5 เม็ด ถือว่าเป็นผู้เสพ ไม่ใช่ ผู้ค้า นโยบายนี้ ตอบโจทย์นโยบายการปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาล หรือ Quick win ในการลดความเดือดร้อนของประชาชนจากปัญหาจิตเวชจากยาเสพติดหรือไม่
เหตุการณ์ที่สะเทือนใจคนเป็นพ่อเป็นแม่ จากกรณี “กัน จอมพลัง” และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบุกเข้าไปช่วยเหลือ 4 พี่น้องในจังหวัดอุดรธานี หลังจากขอความช่วยเหลือ โดนแม่ขู่บังคับ ไปขายยาบ้าแพ็ก 5 เม็ด ถ้าไม่ทำตามแม่ขู่จะเอาคนมาข่มขืน ล่าสุดตำรวจจับกุมแม่ไปดำเนินคดีแล้ว อ้างไม่ได้บังคับขายยาบ้า
การกำหนดปริมาณยาบ้า 5 เม็ดเป็นผู้ป่วยดูเหมือนจะเกิดปัญหา เมื่อ “ผู้การแต้ม” ยื่นร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ชงศาลปกครองขอให้ยกเลิก เนื่องจากเป็นภัยสังคมขัดรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ทันข้ามวันมีคำชี้แจงจาก รมว.สาธารณสุข เรื่องออกกฎกระทรวง อ้างอิงจากประกาศของ คสช.ในอดีต พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ หรือผู้การแต้ม อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีกระทรวงสาธารณสุข ออกประกาศกฎกระทรวง กำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่า มีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ พ.ศ. 2567 โดยหนึ่งในนั้นมีการกำหนดปริมาณการครอบครองยาบ้าไม่เกิน 5 เม็ด ยาไอซ์ไม่เกิน 100 มิลลิกรัม เป็นการครอบครองเพื่อเสพ ให้ถือว่าผู้นั้นเป็น เนื่องจากเห็นว่ากฎกระทรวงดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ