เกือบ 1 เดือนนับตั้งแต่กระบวนการเลือก สว. ขั้นสุดท้ายผ่านพ้นไป ในที่สุดเราได้เห็นการประชุมวุฒิสภานัดแรกในวันนี้ (23 ก.ค. 67) หนึ่งในวาระสำคัญคือการโหวตเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภา ซึ่งล่าสุดวงในเริ่มพูดกันถึงรายชื่อตัวแทนของแต่ละฝ่ายกันแล้ว จนถึงนาทีนี้ยังต้องบอกว่า ค่ายสีน้ำเงินยังครองความได้เปรียบในทุกตำแหน่ง ถึงขั้นนักรัฐศาสตร์บางสำนักบอกว่า ค่ายนี้กุมเสียงข้างมากในระดับที่จะไม่แชร์ตำแหน่งเหล่านี้กับใครเลยก็ได้
ความล่าช้าของการประกาศรับรอง 200 สว. ชุดใหม่ ประเมินสัญญาณจาก กกต. และ สว.ชุดรักษาการ หลังมีการถอดบทเรียนเลือก สว.ครั้งที่ผ่านมา พูดคุยกับ - รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) - ดร.สติธร ธนานิธิโชติ ผอ. สำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า
การเลือกตั้ง สว.ที่ผ่านมา “เชียงใหม่” ถือเป็นจังหวัดที่มีผู้สมัคร สว.มากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ โดยมีผู้สมัคร จาก 25 อำเภอ และมีคุณสมบัติถูกต้องครบถ้วน รวมทั้งสิ้น 1,883 คน ส่วนตัวเต็ง ที่หลายฝ่ายมองว่า น่าจะได้เป็น สว. แน่นอน เพราะได้รับการหนุนจากพรรคเพื่อไทย คือนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และน้องเขยของนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งร่ำลือกันถึงขนาดที่ว่าเป็นตัววาง ที่จะไปได้ไกลถึงตำแหน่ง “ประธานวุฒิสภา” พูดคุยกับ รศ. ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อาจารย์ประจำหลักสูตรการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา นิด้า
พอเห็นภาพว่าที่ สว. แต่ละคน ตอนนี้คอการเมืองจับจ้องกันแล้วว่า มีใครบ้างที่ถือเป็นคนเด่นดัง เป็นบิ๊กเนมที่จะคั่วตำแหน่งประธานวุฒิสภา ก่อนหน้านี้ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ คือหนึ่งในนั้น แต่พอเจ้าตัวไปไม่ถึงฝั่ง ตัวคู่ท้าชิงก็เปลี่ยนตามไปด้วย แถมตัวเต็งที่ว่านี้ ยังเปลี่ยนจากค่ายสีแดง ไปเป็นบิ๊กเนมจากค่ายสีน้ำเงิน
มีข้อสังเกตที่น่าสนใจ สำหรับ ว่าที่ สว. ที่ผ่านการเลือก 200 คน พบว่า จำนวนหนึ่ง (หลายคน) อาจเรียกได้ว่า เป็นว่าที่ สว. สายบ้านใหญ่ สีน้ำเงิน มีทั้งอดีตข้าราชการมหาดไทย ตำรวจ ทหาร และข้าราชการครู นอกจากนั้นก็เป็นนักธุรกิจท้องถิ่น เกษตรกร อสม. และผู้นำชุมชน ที่มาจากที่มั่นการเมืองของ "พรรคบ้านใหญ่"