รัฐบาลเกาหลีใต้กำลังพิจารณาส่งทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ยูเครนเพื่อสร้างแรงกดดันให้เกาหลีเหนือถอนกำลังพลออกจากรัสเซีย เนื่องจากเกาหลีใต้กังวลว่ารัสเซียอาจถ่ายทอดเทคโนโลยีบางประเทศให้เกาหลีเหนือนำมาใช้พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธต่อไป มีรายงานว่า “คิม โย-จอง” น้องสาวของนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ แสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรงจากการที่ถูกประธานาธิบดียูเครน และทางการเกาหลีใต้ กล่าวหาว่า เกาหลีเหนือส่งทหารไปช่วงรัสเซียทำสงครามยูเครน โดย “คิม โย-จอง” ประณามกลับว่า ยูเครนและเกาหลีใต้ เป็นหมาบ้าที่ขยายพันธุ์โดยสหรัฐฯ
อีกการสอบสวนหนึ่งที่น่าติดตาม คือเหตุโจมตีที่งานคอนเสิร์ตในรัสเซียเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว ล่าสุดคณะสอบสวนเผยผลเบื้องต้นที่เป็นการชี้นิ้วกล่าวโทษยูเครนอย่างเต็มที่ หลังจากก่อนนี้ผู้นำรัสเซียตั้งคำถามว่าใครเป็นผู้จ้างวานกลุ่มรัฐอิสลามให้มาก่อเหตุ ท่าทีล่าสุดครั้งนี้นับเป็นการยืนยันความเชื่อของทางการรัสเซียอีกครั้งว่ายูเครนอยู่เบื้องหลัง
ตามที่ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก ประทานสัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ของสวิตเซอร์แลนด์ ถึงความเห็นให้ยูเครนยอมแพ้สงครามแก่รัสเซีย โดยตรัสว่า คนที่เข้มแข็งต้องกล้าที่จะยกธงขาว อย่าอับอายที่จะเจรจา ก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายไปมากกว่านี้นั้น วันนี้ (11 มี.ค. 67) โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ปฏิเสธข้อเรียกร้องในการยกธงขาว เพื่อเข้าสู่กระบวนการในการเจรจายุติสงครามในครั้งนี้ และมองว่านี่คือความพยายามไกล่เกลี่ยความขัดแย้ง อย่างไม่จริงจัง
ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ยูเครนพึ่งพาความช่วยเหลือจากชาติตะวันตกเป็นหลัก เพื่อต่อกรกับรัสเซีย ซึ่งปัจจุบัน สหภาพยุโรป (EU) กลายเป็นกลุ่มที่อัดฉีดความช่วยเหลือให้ยูเครนมากที่สุด ใกล้แตะ 85,000 ล้านยูโร แซงหน้าสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 67,000 ล้านยูโร