ช่วงสูงวัยไอดอล : ลุงเหม่าคนทำเรืออีโปง และลุงภาพนักซ่อมเรือไม้แห่งสมุทรสาคร พบกับเรื่องราวของลุงเหม่า วัย 60 ปี ช่างทำเรืออีโปง ในอำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา เรืออีโปง คือ เรือที่ทำมาจากต้นตาลเป็นวิถีชีวิตในสมัยก่อน ลุงเหม่าได้รับวิชาการทำเรืออีโปงมาจากบรรพบุรุษ จากรุ่นปู่ สู่รุ่นลูก และอยู่จนรุ่นหลานในปัจจุบันนี้ พอพ่อเสียลุงเหม่าก็ยึดทำเป็นอาชีพมาตลอด ทำมานานกว่า 30 ปี เนื่องจากว่าหมู่บ้านที่ลุงเหม่าอยู่จะมีแม่น้ำใกล้บ้าน และก็จะนิยมใช้เรืออีโปงในการหาปลา สัญจรไปมา ทางน้ำ ระหว่าง บ้าน กับ ทุ่งนา ทำให้วันนี้ก็ยังคงใช้เรือกันอยู่ และลุงเหม่าก็ยังทำขายให้ชาวบ้านอยู่เหมือนเดิม และเรื่องราวของลุงภาพวัย 60 ปี ที่ตอนนี้อาศัยอยู่คนเดียว เพราะยังห่วงและรักในอาชีพช่างซ่อมเรือไม้ ลุงภาพสูงวัยที่ยังยึดอาชีพซ่อมเรือไว้ แม้ทุกวันนี้ลูกค้าจะมาซ่อมเรือน้อยลง ลุงภาพก็ยังยืนหยัดทำอาชีพนี้ด้วยใจรักและยังอยากพบเจอกับลูกค้า ช่วงสำรับตำรับยาย : พบกับเมนูอาหารพื้นบ้านปรางค์นครแห่งจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งได้นำถั่วดำมาประกอบอาหารนั่นคือ "ขาหมูถั่วดำ" เนื่องจากว่า ชาวบ้านมีอาชีพเกษตรกรจึงนำผลผลิตที่ได้มาทำเป็นอาหาร ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือถั่วดำแต่ถั่วดำที่จะนำมาประกอบอาหารได้ ต้องเป็นถั่วปีเพราะจะแก่และมีรสชาติที่อร่อยเมื่อนำมาต้มใส่ขาหมู จะทำให้สีสันและรสชาติกลมกล่อมลงตัวกันพอดี ชาวบ้านจึงถ่ายทอดให้ลูกหลานในชุมชนสืบต่อมาจนถึงปัจจุบันติดตามชมได้ในรายการลุยไม่รู้โรย วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน 2567 เวลา 06.05 - 06.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

ลุยไม่รู้โรย

ThaiPBS VOD

สุดยอดช่างทำเรือไม้วัยเกษียณ

ลุยเข้าป่าชุมชน ตามหาผลไม้พื้นบ้านอย่าง "มะเม่าป่า" หรือหมากเม่าป่า ที่ ต.วังควง อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร พร้อมเข้าครัวปรุงเมนูพื้นบ้าน "ตำแตงไทยมะเม่า" และเมนูสูตรเด็ด "ต้มเปรี้ยวมะเม่าขาหมูคากิ"<ul><li>เกร็ดความรู้ </li></ul>"มะเม่าป่า" ผลไม้พื้นบ้านของไทย พบขึ้นได้ทั่วทุกภาคของประเทศ ซึ่งในพื้นที่ ต.วังควง อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร พบมะเม่าป่าขึ้นกระจายอยู่ทั่วไปในพื้นที่ป่าโปร่ง - ป่าเต็งรัง ชาวบ้านนิยมนำมะเม่าป่ามากินเป็นผลไม้ มีรสชาติเปรี้ยวไปจนถึงเปรี้ยวอมหวานเมื่อสุก และนำมะเม่าป่ามาแปรรูปเป็น "น้ำมะเม่า" สร้างรายได้ให้กับชุมชนอีกด้วยติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน มะเม่าป่า (หมากเม่าป่า) วันเสาร์ที่ 14 กันยายน 2567 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

ภัตตาคารบ้านทุ่ง

มะเม่าป่า (หมากเม่าป่า)

เรียนรู้เรื่องราว "อาหารในประเพณีการละเล่นผีหิ้ง" กับพี่น้องชาติพันธุ์ชอง ที่ ต.ช้างทูน อ.บ่อไร่ จ.ตราด พร้อมตามไปดูการปรุงเมนูที่ขาดไม่ได้ในพิธี ได้แก่ ขนมป๊าย, ขนมจอง และยำไก่ผีศาล<ul><li>เกร็ดน่ารู้</li></ul>"ประเพณีการละเล่นผีหิ้ง" ของพี่น้องชาติพันธุ์ชอง คือ พิธีกรรมบูชาผีปู่ย่า - ตายาย เป็นการแสดงความเคารพต่อบรรพบุรุษ และติดต่อสื่อสารกับญาติพี่น้องที่เสียชีวิตไปแล้ว เพื่อถามทุกข์สุข ทั้งของคนเป็นและคนตาย โดยในประเพณีนี้มีเมนูอาหารที่สำคัญในพิธีได้แก่ "ขนมป๊าย" และ "ขนมจอง" ซึ่งทำสำหรับเลี้ยงผีหิ้งในพิธีมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ รวมไปถึงเมนูหลังประกอบพิธี อย่าง “ยำไก่ผีศาล” ที่นำไก่ต้มที่ไหว้ในพิธีมาประกอบเมนู นอกจากนี้ในวันงานทั้ง 2 วัน ก็มีเมนูพื้นบ้านที่น่าสนใจและหารับประทานได้ยาก ที่เจ้าบ้านทำเลี้ยงแขกในงาน เช่น แกงไก่กล้วยพระ, ขนมจีน - น้ำยาปลาฟักทอง, ยำลูกสำรอง, ขนมแป้งจี่ติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน อาหารในประเพณีการละเล่นผีหิ้ง วันเสาร์ที่ 7 กันยายน 2567 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

อาหารในประเพณีการละเล่นผีหิ้ง

<h4>รายการทุกทิศทั่วไทย ประจำวันที่ 5 ก.ย. 67</h4><ul><li>เอาใจคนชอบสัตว์เลี้ยง กับคาเฟนกแก้วมาคอว์ สัตว์เลี้ยงของบ้าน มาสร้างจุดขาย สีสันในคาเฟ ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี</li><li>ชวนชิม ลงสรงไก่บ้าน วิธีกินคล้ายชาบูสุกี้หม้อไฟในปัจจุบัน เป็นเมนูโบราณกว่า 200 ปี ของจังหวัดพิจิตร นิยมทำแค่ที่อำเภอบึงนาราง</li><li>พาไปดูชาวตำบลเกาะยาวน้อง จังหวัดพังงา นำตัวอ่อนปลิงทะเล ทดลองเลี้ยงในบ่อดิน เป็นวิสาหกิจชุมชนปลิงทะเลมีดีเกาะยาวน้อย สร้างอาชีพให้กับชาวบ้านบนเกาะ นำไปขายสร้างมูลค่า</li></ul>ติดตามชมได้ในรายการทุกทิศทั่วไทย ออกอากาศทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 15.30 - 16.00 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/Live"></a><a href="http://www.thaipbs.or.th/Live">www.thaipbs.or.th/Live</a><ul>
</ul>

ทุกทิศทั่วไทย

ลงสรงไก่บ้านอาหารกว่า 200 ปี จ.พิจิตร

บุกตะลุยขึ้นเขา พาไปรู้จักกับพืชเครื่องเทศโบราณอย่าง "ลูกจันทน์เทศ" ที่ ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมเข้าครัวปรุงเมนูพื้นถิ่น "แกงเนื้อหน่อกระวาน" และเมนูของหวาน "วุ้นหยดน้ำลูกจันทน์เทศ" <a href="https://www.thaipbs.or.th/program/stories/loWkye" target="_blank">คลิกดูสูตรและวิธีทำ</a> 
<ul>
	<li>เกร็ดความรู้ </li>
</ul>"จันทน์เทศ" เป็นพืชเครื่องเทศมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว นิยมใช้ประโยชน์ในส่วนของเมล็ดและรกหุ้มเมล็ด โดยส่วนของเมล็ด หรือ "ลูกจันทน์" มีกลิ่นหอมฉุน รสชาติขม ฝาด เปรี้ยว เผ็ดร้อน และในส่วนของรกหุ้มเมล็ด หรือ "ดอกจันทน์" มีกลิ่นหอมฉุนเช่นกัน ใช้เป็นเครื่องเทศ นำมาประกอบเมนูอาหาร เช่น แกงกะหรี่ แกงมัสมั่น หรือใช้ปรุงอาหารที่ทำจากเนื้อแพะ เนื้อแกะเพื่อดับกลิ่นคาว โดยจันทน์เทศเป็นเครื่องเทศที่มีการใช้ประโยชน์จากทั่วโลกมาอย่างยาวนานกว่า 2,000 ปี ในประเทศไทยสามารถพบได้มากทางภาคตะวันออก และทางภาคใต้ของไทย โดยเฉพาะที่นครศรีธรรมราช
ติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน ลูกจันทน์เทศ วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม 2567 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

ลูกจันทน์เทศ

บุกเข้าดงลุยค้นหา "ยอดบวบป่า" กับพี่น้องชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์ ต.ยางน้ำกลัดเหนือ อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี พร้อมเข้าครัวปรุงเมนู "งบยอดบวบป่า" และเมนู "แกงป่ายอดบวบ" <ul><li>เกร็ดน่ารู้</li></ul>"บวบป่า" เป็นบวบชนิดที่ขึ้นเองทั่วไปในป่า ขึ้นเองตามธรรมชาติ ในพื้นที่รกร้างโล่งเตียน หรือริมน้ำ และมักจะขึ้นดีในพื้นที่โล่งมีแสงส่องถึง แตกยอดงามช่วงฤดูฝน โดยส่วนของยอดและผลมีรสชาติขมกว่าบวบทั่วไปพี่น้องชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์บ้านลิ้นช้าง นำยอดบวบป่ามาประกอบเมนูงบไฟและกินจิ้มน้ำพริก โดยส่วนของผลบวบป่า ชาวบ้านมีภูมิปัญญาในการนำมาสระผม ช่วยลดรังแค ฆ่าเหา และทำให้ผมนุ่มขึ้น และส่วนของ ใยบวบ สามารถนำมาใช้ประโยชน์ขัดตัวได้อีกด้วย ติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน ยอดบวบป่า วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม 2567 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

ยอดบวบป่า

ไปทำความรู้จักกับพริกสายพันธุ์พื้นบ้าน ชื่อว่า "พริกนา" ที่ ต.ถ้ำกระต่ายทอง อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร พร้อมเข้าครัวปรุงเมนูพื้นบ้านประจำครัว "น้ำพริกพริกนา กินคู่ หนังไก่ทอด" และเมนู "ผัดน้ำพริกเผาปลาดุก"<ul><li>เกร็ดน่ารู้</li></ul>"พริกนา" พริกพื้นบ้านที่ผลมีขนาดใหญ่คล้ายพริกหนุ่ม เอกลักษณ์ของพริกนา คือ ผิวย่น เปลือกสีเขียวเข้มเป็นมัน รสชาติเผ็ดร้อนและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ยิ่งโดนไฟยิ่งมีกลิ่นหอมไม่เหม็นเขียว พริกนานี้มีการส่งต่อเมล็ดพันธุ์และภูมิปัญญาการปลูกมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ประมาณ 4 - 5 อายุคน สันนิษฐานที่มาของชื่อพริกนา ว่ามาจากพื้นที่การปลูก ที่ปลูกกันตามหัวไร่ปลายนา โดยชาวบ้านที่อำเภอพรานกระต่าย ใช้ประโยชน์จากพริกนาอย่างหลากหลาย ตั้งแต่ ยอดอ่อนพริก, พริกระยะแก่สีเขียว, พริกระยะสุกสีแดง และมีภูมิปัญญาการถนอมอาหาร โดยนำพริกนาสดไปย่างสลับกับตากให้แห้ง แล้วจึงเก็บไว้ประกอบอาหารในครัวเรือน เมนูพื้นบ้านประจำครัว คือ น้ำพริกพริกนา เป็นต้นติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน พริกนา วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม 2567 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

พริกนา

บุกตะลุยข้ามลำห้วยไปค้นหา "พริกพราน" กับพี่น้องชาวกะเหรี่ยงโปว์ ที่บ้านลิ้นช้าง ต.ยางน้ำกลัดเหนือ อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี พร้อมเข้าครัวปรุงเมนูพื้นบ้าน "น้ำพริกกะทิ" และเมนู "แกงป่ากบย่าง" เกร็ดน่ารู้<ul><li>"พริกพราน" มีชื่ออื่นเรียกว่า มะข่วง, กำจัด, กำจัดต้น และ พริกหอม เป็นพืชเครื่องเทศ สกุลมะแข่น เอกลักษณ์ คือ ผลมีรสเผ็ดซ่า รับประทานแล้วชาลิ้น และมีกลิ่นหอมฉุน </li><li>พริกพราน หรือ มะข่วง พบในเขตร้อน หรือพื้นที่เขตอบอุ่นของโลก ขึ้นและเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ ร้อนชื้น ความสูงประมาณ 400 - 500 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ในประเทศไทยจึงพบได้ในเขตพื้นที่ภาคตะวันตกติดเทือกเขาตะนาวศรี และในภูมิประเทศเขาลูกโดดในเขตจังหวัดลพบุรี - เพชรบูรณ์ ทางภาคเหนือพบขึ้นในเขตจังหวัดพะเยา, แพร่ และ เชียงใหม่ เป็นต้น </li><li>ในพื้นที่อำเภอหนองหญ้าปล้อง อำเภอเขาย้อย และอำเภอแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี มีการปลูกพริกพรานเป็นจำนวนมาก โดยกลุ่มชาติพันธุ์กระเหรี่ยงและลาวโซ่งที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ได้เพาะปลูกไว้สำหรับใช้เป็นอาหารและยาสมุนไพร และยังสามารถขายสร้างรายได้ให้ผู้ปลูก โดยราคาขายพริกพรานแบบสด อยู่ที่กิโลกรัมละ 50 - 70 บาท ส่วนผลแห้งขายที่ราคากิโลกรัมละ 300 บาท</li></ul>ติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน พริกพราน วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม 2567 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

พริกพราน

ติดตามเรื่องราวของพืชสวนครัวสารพัดประโยชน์ "มะกรูดอินทรีย์" ที่ตำบลบางประมุง อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ พร้อมเข้าครัวปรุงเมนูโบราณ "แกงชักส้ม" และเมนูของหวานสูตรเด็ด "มะกรูดลอยแก้ว"<ul><li>เกร็ดความรู้ </li></ul>"มะกรูดพันธุ์พื้นบ้าน" มีลักษณะเปลือกบาง เมื่อผลแก่จัดผิวจะเรียบ ข้อดีคือมีน้ำเยอะ รสเปรี้ยวแหลม และมีกลิ่นหอมสดชื่น มะกรูดเป็นไม้ผลพื้นบ้านที่มากประโยชน์ โดยทั่วไปนิยมใช้ส่วนของผิวมะกรูดเป็นส่วนผสมในพริกแกง ผลและใบใส่ในอาหารไทยหลากหลายเมนู ตัวอย่างเช่น แกงเทโพ และแกงชักส้ม และในพื้นที่ ตำบลบางประมุง อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ มีการรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน นำผลมะกรูดมาแปรรูปอย่างหลากหลาย เช่น น้ำมะกรูดสดพร้อมดื่ม, น้ำมะกรูดผสมอินทผาลัม หรือไซรัปน้ำมะกรูด เป็นต้นติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน มะกรูดอินทรีย์ วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม 2567 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

มะกรูดอินทรีย์

ไปค้นหาและเรียนรู้เรื่องราวผักพื้นบ้านอย่าง "ผักแตก" ที่ตำบลท่ามะไฟหวาน อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ พร้อมเข้าครัวปรุงเมนู "แกงไข่มดแดงปลาแห้งใส่ผักแตก" และเมนูสูตรเด็ด "ผัดผักแตกไฟแดง กินคู่ แจ่วบอง" ขั้นตอนและรสชาติแต่ละเมนูจะเป็นอย่างไร ติดตามรับชมพร้อมกันนะ <ul><li>เกร็ดน่ารู้</li></ul>"ผักแตก" หรือ มะแตก, กระทงลาย, กระทุงลาย เป็นผักพื้นบ้านพื้นถิ่น พบได้ทุกภาคในประเทศไทย ตามชายป่าเบญจพรรณ ป่าโปร่ง ป่าดิบแล้ง ป่าดิบชื้น และป่าดิบเขา มีลักษณะเป็นเถาเลื้อย ส่วนของผล เมื่อสุกแก่ เปลือกจะแตกอ้าออกมา ชาวบ้านที่ ต.ท่ามะไฟหวาน อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ นิยมกินส่วนของยอดอ่อนและผลอ่อน นำมาใส่แกงกับไข่มดแดง หรือนำไปลวกจิ้มแจ่วบองได้ นอกจากนี้ มีภูมิปัญญาด้านสมุนไพร โดยนำส่วนของเถาต้นผักแตก มาตากแห้ง ต้มกินเป็นยาบำรุงกำลัง แก้ปวดเมื่อย และเหมาะสำหรับสตรีที่ต้องให้นมบุตร ติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน ผักแตก วันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม 2567 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

ผักแตก

ชวนล่องเรือลงบึง เรียนรู้การใส่เบ็ดปลา เพื่อตามหา "ปลาฉลาด" ที่ บึงละหาน ต.ละหาน อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ พร้อมเข้าครัวปรุงเมนูพื้นถิ่น "ปลาฉลาดส้มฟัก" และเมนู "แกงสายบัวลูกชิ้นปลาฉลาด" กระบวนการและหน้าตาแต่ละเมนูจะเป็นอย่างไร ห้ามพลาด<ul><li>เกร็ดน่ารู้</li></ul>"ปลาฉลาด" หรือ "สลาด" เป็นปลาน้ำจืดชนิดหนึ่ง อยู่ในวงศ์เดียวกันกับปลากราย โดยจัดเป็นปลาที่เล็กที่สุดในสกุลนี้ พบในแม่น้ำแ ละแหล่งน้ำนิ่งทั่วประเทศไทย เป็นปลาที่มีตัวขนาดเล็ก เนื้อคล้ายปลากราย เหนียวหนึบ นิยมนำเนื้อไปทอดมัน หรือทำลูกชิ้น โดยชาวบ้านดอนละนาม ที่ทำประมงริมบึงละหาน มีภูมิปัญญาในการหาปลาฉลาด ด้วยการ "ใส่เบ็ดปลา" ซึ่งตัวเบ็ดนั้นทำจากลำต้นอ้อที่ตัดได้ตามริมบึง และใช้เหยื่อเป็นลูกครอกปลาช่อน ซึ่งการใส่เบ็ดลำอ้อนี้หาดูได้ยากแล้ว เนื่องจากเป็นวิธีการที่ทำได้อย่างถูกกฎหมายในฤดูน้ำแดงเท่านั้นติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน ปลาฉลาด วันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม 2567 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

ปลาฉลาด

พาไปเรียนรู้สมุนไพรพื้นบ้านมากสรรพคุณ อย่าง "ย่านางแดง" ที่ ตำบลสำราญ อำเภอสามชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมเข้าครัวปรุงเมนู "ตำเมี่ยงข่าย่านางแดง" และเมนู "แกงเปรอะหน่อไม้ใส่ย่านางแดง" หน้าตาและรสชาติแต่ละเมนูจะเป็นอย่างไร ติดตามรับชมพร้อมกัน<ul><li>เกร็ดความรู้ </li></ul>"ย่านางแดง" เป็นพืชเถาเลื้อย ส่วนของดอกเป็นช่อกระจะมีสีแดงสวยงาม มีสรรพคุณทางยาสูง มีฤทธิ์เย็น เป็นยาอายุวัฒนะ บำรุงข้อ ปวดเมื่อย บำรุงกำลัง แก้ผมหงอก เป็นต้น คนโบราณนิยมนำส่วนใบอ่อนของย่านางแดง มาห่อกินกับตำเมี่ยงหรือลาบ ช่วยแก้อาการท้องบิด อาหารเป็นพิษ และล้างพิษได้ติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน ย่านางแดง วันเสาร์ที่ 29 มิถุนายน 2567 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

ย่านางแดง

ชวนเข้าครัวกับแขกรับเชิญคุณชุติมา ชื่นหัวใจ เดินทางมาจากอำเภองาว จังหวัดลำปาง นำผักเฉพาะถิ่นที่คนงาวนิยมกิน ทั้งอีแหล้ ผักป่าที่มีลักษณะคล้ายชะอมแต่ไม่มีกลิ่นฉุน และยอดกวาว นำมานึ่งกินกับน้ำพริกมะเขือส้ม ที่ทำได้ง่าย ๆ และนำไข่ผำ หรือผำ พืชน้ำอีกหนึ่งชนิดที่เป็นซูเปอร์ฟู้ด เพราะมีคุณค่าทางอาหารสูง มาทำแกงไข่ผำ พร้อมเคล็บลับแกงไข่ผำให้อร่อย ไม่เหม็นคาว
สูตรเด็ดจากรายการ : แกงไข่ผำ
<ul><li>ไข่ผำ 2 ถ้วย</li><li>ตะไคร้ซอยบาง 3 ท่อน</li><li>พริกจินดาแดง 3 - 5 เม็ด</li><li>หอมแดง 10 ลูก</li><li>กระเทียมไทยปอกเปลือก 15 - 20 กลีบ</li><li>ปลาร้า 1 - 2 ช้อนโต๊ะ</li><li>น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ</li><li>ใบมะกรูดซอย</li></ul>วิธีทำ <ol><li>ล้างผำให้สะอาด พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ</li><li>โขลกเครื่องแกง โดยใส่เกลือ กระเทียม ตะไคร้ หอมแดง พริก ตำให้ละเอียด ใส่ปลาร้า โขลกให้เข้ากัน</li><li>นำผำที่สะเด็ดน้ำแล้วใส่หม้อขึ้นตั้งไฟความร้อนปานกลาง ใส่เครื่องแกงคนให้เข้ากัน ใส่น้ำล้างครกเล็กน้อย คนให้เข้ากันจนน้ำเริ่มแห้ง ใส่ใบมะกรูดซอย ปรุงรสเพิ่มด้วยน้ำปลา ชิมรสตามชอบ ปิดไฟ ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟ</li></ol><img src="https://thaipbs-program.s3-ap-southeast-1.amazonaws.com/content/images/gallery/1/Sg/RG/1SgRGVMAALwi-default.jpg" class="img-responsive" alt="" style="width: 100%; margin: auto; display: block;">
สูตรเด็ดจากรายการ : น้ำพริกมะเขือส้ม
<ul><li>ผักอิแหล้ และยอดกวาว</li><li>กระเทียมไทยปอกเปลือก 15 - 20 กลีบ</li><li>หอมแดงหั่นชิ้น 5 - 8 ลูก</li><li>พริกแห้ง 10 - 15 เม็ด</li><li>มะเขือส้มผ่าครึ่ง 10 - 15 ลูก</li><li>ปลาร้าโม่ 2 - 3 ช้อนโต๊ะ</li></ul>วิธีทำ <ol "=""><li "="">นำผักอีแหล้และยอดกวาวไปนึ่งให้สุก</li><li "="">ตั้งหม้อใส่ปลาร้า เติมน้ำเล็กน้อยบนไฟอ่อน รอให้เดือดใส่มะเขือส้ม ต้มไปเรื่อย ๆ จนมะเขือสุกนิ่ม ปิดไฟ</li><li "="">นำพริกแห้ง กระเทียม หอมแดง นำไปคั่วในกระทะให้สุก เทใส่ครก ใส่เกลือเล็กน้อย โขลกให้เข้ากันพอแหลก ใส่มะเขือส้มต้มกับปลาร้า คลุกในครกให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟกับผักอีแหล้และยอดกวาว</li></ol><img src="https://thaipbs-program.s3-ap-southeast-1.amazonaws.com/content/images/gallery/1/Sg/RG/1SgRGWebDuyb-default.jpg" class="img-responsive" alt="" style="width: 100%; margin: auto; display: block;">
ติดตามได้ในรายการกินอยู่คือ วันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน 2567 เวลา 16.30 - 17.00 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live">www.thaipbs.or.th/Live</a>

กินอยู่คือ

ผักพื้นถิ่นเมืองงาว

บุกตะลุยเข้าป่าชุมชน ตามหา "ดอกดิน" หรือ ดอกกระเจียวขาว ที่ตำบลเจริญสุข อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมเข้าครัวปรุงเมนูพื้นถิ่น "ซุบดอกดิน" และเมนู "แกงกะทิไก่บ้านดอกดิน" หน้าตาและรสชาติแต่ละเมนูจะเป็นอย่างไร ห้ามพลาดเกร็ดความรู้ "ดอกดิน" หรือ กระเจียวขาว เป็นพืชล้มลุกในวงศ์ขิง มีลักษณะเด่น คือ ส่วนของกลีบดอกมีสีขาว กลีบปากแฉกลึก มีสันนูนสีเหลือง มีกลิ่นหอม เย็น เป็นเอกลักษณ์ มีรสชาติเฝื่อน หวาน มีความกรอบ ฉ่ำน้ำ และส่วนของดอกจะโผล่งอกขึ้นมาจากดินก่อนลำต้น โดยชาวบ้านที่บ้านเจริญสุข ตำบลเจริญสุข อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ นิยมนำมาปรุงเมนูซุบดอกดิน แกงกะทิไก่บ้านดอกดิน และนำมาลวกจิ้มแจ่วบอง ซึ่งจะมีให้กินเพียงปีละ 1 ครั้ง ในช่วงต้นฤดูฝน ประมาณเดือนพฤษภาคม - กรกฎาคม ของทุกปีติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน ดอกกระเจียวขาว วันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน 2567 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

ดอกกระเจียวขาว

พาไปเรียนรู้และขุดหา "มันป่า" ที่ ต.หนองอิรุณ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี พร้อมเข้าครัวปรุงเมนูพื้นบ้าน "แกงหอยจุ๊บมันป่า" และเมนูของหวาน "ข้าวหลามเดินทาง" กระบวนการและหน้าตาแต่ละเมนูจะเป็นอย่างไร ห้ามพลาด<ul><li>เกร็ดน่ารู้</li></ul>"มันป่า" เป็นมันที่มีความหลากหลายทางสายพันธุ์สูง มันป่าชนิดนี้มีชื่อเรียก ที่หลากหลาย เช่น มันนกบ้าน, มันนกใหญ๋ และ มันภูเขา เป็นมันที่อยู่ในป่า และในพื้นที่บริเวณภูเขา ใช้หัวหรือเหง้าใต้ดินมาประกอบอาหาร โดยลักษณะหัวหรือเหง้าใต้ดิน มีเปลือกสีน้ำตาลเข้ม เนื้อสีขาว เนื้อของมันป่ามีความหนึบ มีกลิ่นหอม ส่วนของหัวมีรูปร่างไม่แน่นอน บางกอหัวเกิดเป็นกลุ่ม มีได้หลายหัวต่อ 1 กอ ขนาดหัวประมาณขวดน้ำหรือราว ๆ แขน ยาวประมาณ 50 - 60 เซนติเมตร สามารถขยายพันธุ์ง่าย เติบโตได้ดีในทุกพื้นที่ติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน มันป่า วันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน 2567 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

มันป่า

พาลงคลองลุยโคลนไปค้นหา "ปลาไหลงู" ที่ ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี พร้อมเข้าครัวปรุงเมนูพื้นบ้าน "ผัดกะเพราพริกแห้งปลาไหลทะเล" และ "แกงเผ็ดสลัดไดใส่ปลาไหลทะเล" หน้าตาและรสชาติจะเป็นอย่างไร ห้ามพลาด<ul><li>เกร็ดความรู้ </li></ul>"ปลาไหลงู" หรือที่คนในพื้นที่ ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี เรียกว่าปลาไหลทะเลนั้น มีลักษณะเฉพาะ คือ ลำตัวยาวคล้ายงู มีครีบหู ตัวสีทูโทน ด้านบนเป็นสีน้ำตาล ส่วนบริเวณท้องมีสีขาวหรือสีเหลือง หนังไม่หนา ลำตัวมีเมือกมาก แต่ไม่ค่อยมีกลิ่นคาว ซึ่งที่ ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี นั้น มีภูมิปัญญาการแทงปลาไหลทะเลสืบทอดส่งต่อมาตั้งแต่โบราณ ว่ากันว่าวิธีนี้ทำมาอย่างยาวนาน ร่วม 100 ปีติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน ปลาไหลงู วันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม 2567 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

ปลาไหลงู

เข้าครัวกับแขกรับเชิญคุณอรัญญา ม่วงชาติ ที่เดินทางมาจากชุมชนโคกอีโด่ย อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว นำวัตถุดิบตามฤดูกาลที่มีอยู่ในป่าชุมชนทั้ง ไข่มดแดง เห็ดขอนขาว ผักหวานป่า และเห็ดกระด้างมาทำอาหารพื้นถิ่นที่เรียบง่ายทั้ง แกงผักหวานใส่เห็ดขอนขาว และไข่มดแดง ที่มีรสชาติหวานธรรมชาติจากผักหวานป่า และลาบเห็ดกระด้าง รสจัดจ้าน สูตรเด็ดจากรายการ : ลาบเห็ดกระด้าง<ul><li>เห็ดกระด้างสด 2 ถ้วย</li><li>ปลาทูนึ่งแกะเนื้อ 2 ตัว</li><li>น้ำมะขามเปียก 1 - 2 ช้อนโต๊ะ</li><li>ข้าวคั่ว 1 - 2 ช้อนโต๊ะ</li><li>พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ</li><li>น้ำปลา 1 - 2 ช้อนโต๊ะ</li><li>หอมแดงซอย</li><li>พริกกะเหรี่ยงซอย</li><li>ผักชีใบเลื่อยซอย</li><li>ต้นหอม ผักชีซอย</li></ul>วิธีทำ <ol><li>ตั้งหม้อใส่น้ำบนไฟกลาง รอให้เดือด ใส่เห็ดกระด้างลงไปต้มจนสุก ตักขึ้นมาพักไว้ให้เย็น</li><li>นำเห็ดกระด้างมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ และสับให้ละเอียดพร้อมกับเนื้อปลาทูนึ่ง</li><li>ในชามผสมใส่น้ำมะขามเปียก ตามด้วยเห็ดและปลาทูที่สับไว้ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ใส่ข้าวคั่ว พริกป่น น้ำปลา ค่อย ๆ ผสมให้เข้ากัน ตามด้วยหอมแดงซอย พริกกะเหรี่ยงซอย ผักชีใบเลื่อยซอยและต้นหอมผักชีซอย คลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ตักใส่จานเสิร์ฟ</li></ol><img src="https://thaipbs-program.s3-ap-southeast-1.amazonaws.com/content/images/gallery/1/S4/bT/1S4bTZpXZFJ0-default.jpg" class="img-responsive" alt="" style="width: 100%; margin: auto; display: block;">
สูตรเด็ดจากรายการ : แกงผักหวานใส่ไข่มดแดง<ul><li>ผักหวานป่า 1 ถ้วย</li><li>ไข่มดแดง 1/2 ถ้วย</li><li>เห็ดขอนขาว 1 ถ้วย</li><li>ตะไคร้หั่นท่อน 2 - 3 ต้น</li><li>หอมแดง 4 - 5 ลูก</li><li>กระเทียมไทยปอกเปลือก 10 - 15 กลีบ</li><li>น้ำปลาร้า 2 - 3 ช้อนโต๊ะ</li><li>พริกกะเหรี่ยงบุบ 3 - 4 เม็ด</li><li>ใบแมงลัก</li></ul>วิธีทำ<ol><li>โขลกตะไคร้ หอมแดง กระเทียม พอหยาบ ๆ ตักใส่ถ้วยพักไว้</li><li>ตั้งหม้อใส่น้ำบนไฟกลาง รอให้เดือด จากนั้นใส่เครื่องโขลกลงไปต้มจนหอมสุก ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า ตามด้วยเห็ดขอนขาว พอเห็ดเริ่มสุก ใส่ไข่มดแดงและผักหวานป่าคนให้เข้ากัน จากนั้นใส่พริกสด ใบแมงลัก กดให้จมน้ำแกง ปิดไฟ ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟ</li></ol><img src="https://thaipbs-program.s3-ap-southeast-1.amazonaws.com/content/images/gallery/1/S4/bU/1S4bU1twRXFA-default.jpg" class="img-responsive" alt="" style="width: 100%; margin: auto; display: block;">
ติดตามได้ในรายการกินอยู่คือ วันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม 2567 เวลา 16.30 - 17.00 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live">www.thaipbs.or.th/Live</a>

อาหารจากป่าชุมชนโคกอีโด่ย

ลุยเข้าป่าชุมชน ตามหาผักพื้นบ้านอย่าง "ผักลิ้นแลน" ที่ ตำบลไพล อำเภอลำทะเมนชัย จังหวัดนครราชสีมา พร้อมเข้าครัวปรุงเมนู "หมกผักลิ้นแลน กินคู่ ปลาร้าบอง" และ "แกงเลียงน้ำย่านางใส่ผักลิ้นแลน" ขั้นตอนและหน้าตาแต่ละเมนูจะเป็นอย่างไร ติดตามรับชมพร้อมกัน<ul><li>เกร็ดความรู้ </li></ul>"ผักลิ้นแลน" เป็นผักพื้นบ้าน ที่พบได้ทั่วไปในป่าชุมชนโคกโสกขี้หนู ตำบลไพล อำเภอลำทะเมนชัย จังหวัดนครราชสีมา เป็นพืชเถาเลื้อยที่จะแตกยอดช่วงเดือน เมษายน-พฤษภาคม ยอดอ่อนมีลักษณะเป็นแฉก 2 - 3 แฉก คล้ายกับลิ้นของตัวแลนหรือตะกวด ชาวบ้านจึงเรียกว่า "ผักลิ้นแลน" ส่วนที่นิยมรับประทานคือ ยอดอ่อน โดยยอดอ่อนสด มีรสชาติขมอ่อน ๆ มีความมัน และมีกลิ่นหอมคล้ายถั่วฝักยาว เมื่อนำยอดผักไปปรุงสุก จะมีรสชาติหวานมันและขมเล็กน้อย ชาวบ้านในพื้นที่นิยมนำไปหมกไฟรับประทานคู่กับปลาร้าบองติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน ผักลิ้นแลน วันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม 2567 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

ผักลิ้นแลน

บุกเข้าป่าตะลุยค้นหาผลไม้ป่าพื้นบ้านอย่าง "ลูกคุย" ที่ตำบลทับทัน อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ พร้อมเข้าครัวปรุงเมนู "ลาบเนื้อลูกคุย" และเมนูขนมพื้นบ้าน "ขนมโกรจ" <ul><li>เกร็ดความรู้ </li></ul>ลูกคุย, ลูกยาง หรือ ตุมกุย ผลไม้พื้นบ้านรสชาติหวานอมเปรี้ยว ที่มีให้รับประทานเพียงปีละ 1 ครั้ง ในช่วงเดือนมีนาคม - เมษายน ของทุกปี เอกลักษณ์ของลูกคุย คือ ที่เปลือกผลมียางสีขาวขุ่น นอกจากนี้ทุกส่วนของลำต้น เช่น ใบ หรือ กิ่งก้านก็มียางด้วยเช่นกัน ส่วนที่ใช้รับประทานคือ ผล โดยส่วนใหญ่นิยมรับประทานผลระยะสุก ผลสุกมีสีเหลือง หรือเหลืองอมส้ม รสชาติหวานอมเปรี้ยวติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน ลูกคุย วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม 2567 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

ลูกคุย

ล่องเรือในแม่น้ำบางปะกง เรียนรู้ภูมิปัญญาพื้นบ้าน "รุนเคย บางปะกง" ที่ตำบลบางพระ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมเข้าครัวปรุงเมนู "สำรับเคยแม่น้ำบางปะกง" และเมนูพื้นบ้าน "ยำแตงกวาเคย" <ul><li>เกร็ดความรู้</li></ul>"เคย" คือ สัตว์ทะเลน้ำเค็ม ตัวคล้ายกุ้งแต่มีขนาดเล็กกว่า โดยเคยในแม่น้ำบางปะกง จะมากับน้ำเค็มในช่วงฤดูแล้งของทุกปี ซึ่งบริเวณที่พบเคย จะอยู่ในพื้นที่ของปากแม่น้ำบางปะกง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา จนถึงพื้นที่ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ชาวบ้านริมแม่น้ำบางปะกงมีภูมิปัญญาโบราณ ในการหาเคยด้วยวิธีการ "รุนเคย" และนำมาแปรรูปทำกะปิ แบบพื้นบ้าน จุดเด่นคือกะปิที่ได้จะเค็มและหวานจากเนื้อเคย สีกะปิจะเป็นสีชมพูสวย ส่วนของตัวเคยสดสามารถนำมาประกอบอาหารเมนูต่าง ๆ เช่น แกงส้ม, ชุบแป้งทอด เป็นต้นติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน รุนเคย บางปะกง วันเสาร์ที่ 27 เมษายน 2567 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

รุนเคย บางปะกง

ชวนไปแช่น้ำดับร้อน ตกปลาจากคันไม้ไผ่ ขุดหลุมปิ้งปลาข้างตลิ่ง ตามแบบวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวกะเหรี่ยง ที่ตำบลยางหัก อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี แถมยังมีอาหารพื้นบ้านที่ปรุงรสง่าย ๆ แต่รสชาติไม่ธรรมดา อย่าง "แกงป่ามะแว้งปลาหมอคางดำ" และ "แกงแดง" มาให้ได้ชิมอีกด้วย ปิดท้ายด้วยอาหารจานพิเศษจากเชฟบุ๊ค "ปลาหมอคางดำอบขมิ้น" ที่อร่อยครบจบในจานเดียว
สูตรเด็ดจากรายการ : แกงแดง
<ul><li>พริกจินดาแห้ง</li><li>หอมแดง</li><li>กระเทียม</li><li>กะปิ</li><li>ปลาหมอคางดำ</li><li>น้ำเปล่า</li><li>น้ำมัน</li></ul>วิธีทำ ตำพริกจินดาแห้ง หอมแดง กระเทียม ตำเพียงหยาบ ๆ ตั้งกระทะใส่น้ำมันแล้วนำพริกแกงไปผัดให้มีกลิ่นหอม ตามด้วยกะปิ ใส่ปลาตามลงไป ผัดให้ปลาหมอคางดำสุก ก็ใส่น้ำเติมลงไป รอจนเดือดและให้ปลาสุก<img src="https://thaipbs-program.s3-ap-southeast-1.amazonaws.com/content/images/gallery/1/RW/Il/1RWIl4VpsGHq-default.jpg" class="img-responsive" alt="" style="width: 100%; margin: auto; display: block;">
สูตรเด็ดจากรายการ : แกงป่ามะแว้งปลาหมอคางดำ 
<ul><li>พริกกะเหรี่ยง</li><li>ข่า</li><li>ตะไคร้</li><li>หอมแดง</li><li>กระเทียม</li><li>มะแว้ง</li><li>กะปิ</li><li>ปลาหมอคางดำ</li></ul>วิธีทำ ตำพริกกะเหรี่ยง ข่า ตะไคร้ หอมแดง กระเทียม ใบมะกรูด พริกพรานให้เข้ากัน เตรียมหม้อเอาไว้ ใส่มะแว้งลงไปบี้ให้เละ แล้วเติมน้ำเปล่าลงไป ตามด้วยพริกแกงที่ตำเสร็จแล้ว และกะปิคนให้เข้ากัน นำไปตั้งไฟรอน้ำเดือด ใส่ปลาหมอคางดำลงไป แล้วรอปลาสุก<img src="https://thaipbs-program.s3-ap-southeast-1.amazonaws.com/content/images/gallery/1/RW/Il/1RWIl5ZHiHYF-default.jpg" class="img-responsive" alt="" style="width: 100%; margin: auto; display: block;">
สูตรเด็ดจากรายการ : ปลาหมอคางดำอบขมิ้น 
<ul><li>ขมิ้น</li><li>หอมแดง</li><li>กระเทียม</li><li>เกลือ</li><li>ปลาหมอคางดำ</li><li>ตะไคร้</li><li>ใบมะกรูด</li></ul>วิธีทำ ตำขมิ้น หอมแดง กระเทียม เกลือ ตำพอหยาบ ๆ นำมาใส่อ่างผสมและใส่เกลือเพิ่ม พร้อมกับนำตัวปลามาคลุกกับขมิ้นให้เข้ากัน เติมน้ำในกระทะ ใส่ตะไคร้และใบมะกรูดลงไป พอน้ำเดือดแล้วนำปลาที่คลุกขมิ้นลงไป ปิดฝาอบเอาไว้ให้ปลาสุก<img src="https://thaipbs-program.s3-ap-southeast-1.amazonaws.com/content/images/gallery/1/RW/Il/1RWIl6c64Voy-default.jpg" class="img-responsive" alt="" style="width: 100%; margin: auto; display: block;">


ติดตามชมรายการ Foodwork วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2567 เวลา 17.05 - 17.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live"></a><a href="http://www.thaipbs.or.th/live">www.thaipbs.or.th/Live</a>

Foodwork

แช่น้ำตกปลาคันไม้ไผ่ ตามแบบวิถีชาวกะเหรี่ยง

ชวนเข้าครัวทำอาหารเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับร่างกาย ในสภาวะที่ฝุ่น PM 2.5 นั้นรุนแรงเกิดขึ้นทุกปี ที่จะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายในระยะยาว มาทำอาหารที่ส่งผลดีต่อสุขภาพอย่าง ห่อหมกปลาแบบใต้ที่เครื่องแกง เผ็ดร้อน มีส่วนผสมจากขมิ้นเหลือง ที่มีสารสำคัญช่วยต้านการอักเสบ และทำต้มจิ๋วไก่ใส่มันเทศหลากชนิด ที่ได้ประโยชน์จากมันเทศ และเครื่องสมุนไพร
สูตรเด็ดจากรายการ : ห่อหมกปลา<ul><li>ปลาอินทรีแล่เอาเฉพาะเนื้อ 100 กรัม</li><li>ปลาน้ำดอกไม้แล่เอาเฉพาะเนื้อ 100 กรัม</li><li>ไข่ไก่ 1 ฟอง</li><li>หัวกะทิ 1/2 - 1 ถ้วย</li><li>น้ำปลา 1 - 2 ช้อนโต๊ะ</li><li>น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ</li><li>ใบชะพลูฉีก</li><li>ใบยอฉีก</li><li>ใบมะกรูดซอย</li><li>พริกขี้หนูแห้งเม็ดเล็ก 1/2 ถ้วย</li><li>กระเทียมไทยปอกเปลือก 5 - 8 กลีบ</li><li>หอมแดง 10 - 12 ลูก</li><li>ตะไคร้ซอย 2 ซ้อนโต๊ะ</li><li>ข่าซอย 1 ซ้อนโต๊ะ</li><li>ผิวมะกรูด 1/2 ลูก</li><li>รากผักซี 2 ราก</li><li>ขมิ้นเหลืองปอกเปลือก 2 แง่งเล็ก</li><li>พริกไทยดำเม็ด 1/2 ช้อนชา</li><li>เกลือเล็กน้อย</li><li>กะปิ 1/2 ช้อนโต๊ะ</li></ul>วิธีทำ <ol><li>โขลกเครื่องแกงใต้ เริ่มจากเกลือและพริกไทยดำ โขลกให้เข้ากัน จากนั้นใส่ผิวมะกรูด รากผักชี พริกแห้ง ข่า ตะไคร้ กระเทียม หอมแดง ขมิ้นเหลือง โขลกให้เข้ากันจนละเอียด จากนั้นใส่กะปิ โขลกให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วยพักไว้</li><li>นำเนื้อปลาลงครกโขลกให้เข้ากัน ใส่น้ำแข็ง 1 - 2 กัอน เพื่อให้เนื้อปลาเหนียวนุ่ม จากนั้นใส่พริกแกง 2 - 3 ช้อนโต๊ะ โขลกให้เข้ากัน ใส่ไข่ไก่ คนให้เข้ากัน ค่อย ๆ เติมหัวกะทิ ปรุงรสด้วยน้ำตาลมะพร้าว น้ำปลา และใบมะกรูดซอย คนให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วยเล็ก ๆ นึ่งจนสุกเพื่อชิมรสชาติ ปรุงรสชาติเพิ่มตามชอบ</li><li>เตรียมใบตอง นำใบยอ ใบชะพลู และส่วนผสมห่อหมก วางบนใบตอง จับปลายใบตองทั้งสองข้างห่อเป็นทรงสูง กลัดด้วยไม้กลัด นำลงนึ่งในลังถึง ปิดฝา นึ่งนานประมาณ 12 - 15 นาทีจนห่อหมกสุก ปิดไฟ นำห่อหมกออกจากเตา จัดเสิร์ฟ รับประทานร้อน ๆ</li></ol><img src="https://thaipbs-program.s3-ap-southeast-1.amazonaws.com/content/images/gallery/1/RW/IZ/1RWIZu4sBWCV-default.jpg" class="img-responsive" alt="" style="width: 100%; margin: auto; display: block;">


สูตรเด็ดจากรายการ : ต้มจิ๋วไก่
<ul><li>มันเทศหลากสี หลากชนิด ปอกเปลือก หั่นชิ้นพอคำ 100 - 150 กรัม </li><li>พริกขี้หนูโขลกหยาบ 10 - 15 เม็ด</li><li>น่องไก่และสะโพกไก่ สับทั้งกระดูก 100 กรัม</li><li>ใบเตยมันปม 1 ใบ</li><li>หอมแดงบุบ 10 - 15 ลูก</li><li>น้ำมะขามเปียก 1-2 ช้อนโต๊ะ</li><li>น้ำปลา 2 - 3 ช้อนโต๊ะ</li><li>มะนาว 1 - 2 ช้อนโต๊ะ</li><li>ใบโหระพา</li><li>ใบกะเพรา</li></ul>วิธีทำ<ol><li>ตั้งหม้อใส่น้ำเล็กน้อย ใส่เนื้อไก่ลงไปรวนจนสุก ปิดไปชฟ พักไว้</li><li>โขลกหอมแดงเผา กระเทียมเผาให้ละเอียด จากนั้นใส่พริกแห้งคั่วโขลกให้เข้ากัน ใส่ผิวมะกรูด ข่า ตะไคร้ โขลกจนละเอียด จากนั้นใส่เนื้อไก่รวนลงไป โขลกให้เครื่องทั้งหมดเข้ากัน ตักใส่หม้อ นำไปตั้งไฟอ่อน ใส่หัวกะทิเล็กน้อย ผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า ผัดให้จนเข้ากัน สามารถเติมน้ำกะทิเพิ่มได้ถ้าแห้งไป ใส่ใบมะกรูดซอย ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง ปิดไฟ ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟกับผักสดหลากชนิด</li></ol><img src="https://thaipbs-program.s3-ap-southeast-1.amazonaws.com/content/images/gallery/1/RW/IZ/1RWIZtgprkrh-default.jpg" class="img-responsive" alt="" style="width: 100%; margin: auto; display: block;">
ติดตามได้ในรายการกินอยู่คือ วันเสาร์ที่ 20 เมษายน 2567 เวลา 16.30 - 17.00 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live">www.thaipbs.or.th/Live</a>

อาหารสร้างภูมิคุ้มกันจาก PM 2.5

พาออกทะเลลุยเลน พร้อมเรียนรู้ภูมิปัญญาการ "ถีบกั้ง" ที่ ตำบลชำราก อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด พร้อมเข้าครัวปรุงเมนู "ยำกั้งลูกคุย" และเมนูพื้นบ้าน "แกงแดงกะทิสดกั้งตั๊กแตนผักออมแอม" <ul><li>เกร็ดความรู้</li></ul>ภูมิปัญญาหาการหากั้ง ด้วยวิธีการ "ถีบกั้ง" ในพื้นที่บ้านปลายนา ตำบลชำราก อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด เป็นภูมิปัญญาโบราณที่สืบทอดวิธีการมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ โดยชาวบ้านจะใช้กระดานถีบไปบนเลน และใช้เท้าถีบลงไปที่รูของกั้ง และใช้มือล้วงตัวกั้งขึ้นมา โดยกั้งที่พบได้มากในพื้นที่ คือ "กั้งตั๊กแตนหางจุด" หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "กั้งแม็คโคร" มีลักษณะเด่น คือ ขาเดินส่วนปลาย และแพนหางมีสีเหลือง สันบนหัว ลำตัวและหางมีสีเข้ม มีจุดสีดำ 1 คู่ที่กลางหาง ชาวบ้านนิยมนำมานึ่งกินคู่น้ำพริกเกลือ หรือนำมาทอดกระเทียมติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน ถีบกั้งตั๊กแตนหางจุด วันเสาร์ที่ 20 เมษายน 2567 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

ถีบกั้งตั๊กแตนหางจุด

บุกตะลุยป่าชายเลน ตามหา "เพรียงเรือ" ที่ ตำบลชำราก อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด พร้อมเข้าครัวปรุงเมนู "สะลอมาจู" และเมนูสูตรเด็ด "ยำเพรียงเครื่องเปรี้ยว" หน้าตาและรสชาติแต่ละเมนูจะเป็นอย่างไร ห้ามพลาดเด็ดขาด<ul><li>เกร็ดความรู้</li></ul>เพรียงเรือ หรือเจาะไม้ เป็นสัตว์ในกลุ่มหอยสองฝา ที่มีรูปร่างแปลกแตกต่างจากหอยสองฝาโดยทั่วไป มีลำตัวนิ่มยาวคล้ายหนอน พบได้ทั่วไปทั้งทะเลฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน พบได้ทั้งในแหล่งน้ำกร่อยและแหล่งน้ำเค็ม มักเจาะอาศัยอยู่ในต้น โกงกางและต้นตะบูนที่ยืนต้นตายหรือล้มจมอยู่ในน้ำ ชาวบ้านตำบลชำราก อำเมืองตราด จังหวัดตราด และตำบล อื่น ๆ ในอำเภอเมืองตราด มีภูมิปัญญาในการนำส่วนของตัวเพรียงมากิน ตั้งแต่โบราณ สืบทอดมาสู่ปัจจุบัน ได้แก่ เพรียงสด จิ้มน้ำพริกเกลือติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน เพรียงเรือ วันเสาร์ที่ 13 เมษายน 2567 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

เพรียงเรือ

พาไปขุดหอยทะเลสองฝาที่ขึ้นชื่อของบ้านคันนา ต.ห้วงน้ำขวาง อ.เมืองตราด จ.ตราด มีชื่อว่า "หอยอินิ" พร้อมนำไปเข้าครัวปรุงเมนูพื้นบ้าน "สำรับหอยอินิ" และเมนูสูตรเด็ด "หลนหอยอินิดอง" <ul><li>เกร็ดความรู้ </li></ul>"หอยอินิ" หรือหอยหวานของบ้านคันนา เป็นหอยทะเล 2 ฝา ที่มีเปลือกด้านใน มีลายและสีคล้ายกับแสงพระอาทิตย์ตกดิน เป็นหอยเนื้อรสชาติหวาน จนชาวบ้านในพื้นที่นิยมเรียกว่า "หอยหวาน" หอยชนิดนี้อาศัยอยู่ในดินทรายผสมหิน ซึ่งพื้นที่แบบนี้จะโผล่พื้นมาช่วงน้ำทะเลแห้ง ชาวบ้านเรียกกันว่า "โขดหอย" ซึ่งชาวบ้านที่บ้านคันนาใช้วิธีการขุดหาแบบพื้นบ้าน มีอุปกรณ์เฉพาะที่น่าสนใจ ได้แก่ คราดมือ ใช้สำหรับขุดและกะลามะพร้าวที่ใช้สำหรับช่วยวิดน้ำ มีเมนูดั้งเดิมยอดนิยม คือ หอยอินิต้มเค็มหวาน หลนหอยอินิดอง เป็นต้นติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน หอยอินิ วันเสาร์ที่ 6 เมษายน 2567 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

หอยอินิ

ปกติกินถั่วพูก็เน้นกินส่วนฝักอ่อนกันเป็นหลัก แต่ที่ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี กินต่างออกไป เพราะชาวบ้านที่นี่นิยมกินรากหรือส่วนที่เป็นหัวของถั่วพูพันธุ์ท้องถิ่น โดยการนำไปต้มเป็นรากถั่วพูต้ม เนื้อเหนียวหนึบ แถมยังมีให้กินแค่ปีละครั้ง กลายเป็นที่ต้องการของตลาดและเป็นรายได้ให้คนในชุมชน ติดตามชมรายการไทยบันเทิง ย้อนหลังได้ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/program/ArtandCultureThaiPBS/episodes/100615" target="_blank" rel="noopener noreferrer" data-auth="NotApplicable" data-linkindex="0">www.thaipbs.or.th/program/ArtandCultureThaiPBS/episodes/100615</a>

ไทยบันเทิง

อิ่มมนต์รส : "รากถั่วพู" ถั่วพูกินรากของคนโพธาราม ราชบุรี

พาไปค้นหากล้วยสายพันธุ์ไทยโบราณอย่าง "กล้วยหักมุก" ที่ ต.เหมืองใหม่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม พร้อมเข้าครัวปรุงเมนู "แกงคั่วกล้วยหักมุกซุกกุ้งอัมพวา" และเมนูสูตรเด็ด "กล้วยหักมุกคลุกมะพร้าว"เกร็ดน่ารู้ "กล้วยหักมุก" เป็นกล้วยสายพันธุ์ไทยโบราณ มีลักษณะเด่น คือ ส่วนของผลมีเหลี่ยมชัดเจน เปลือกหนา เนื้อสีเหลือง โดยผลกล้วยหักมุกในระยะดิบแก่ มีเปลือกสีเขียวอ่อน สามารถนำไปทำเมนูกล้วยหักมุกทอด หรือนำไปใส่แกงคั่วได้ ส่วนระยะผลสุก นิยมนำไปย่าง ให้รสชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย มีกลิ่นหอม ติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน กล้วยหักมุก วันเสาร์ที่ 16 มีนาคม 2567 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

กล้วยหักมุก

พาล่องเรือไปในลำคลอง ตามหา "ปลากระแห" ที่ ต.บางกะดี อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี พร้อมเข้าครัวปรุงเมนูพื้นบ้าน "ปลากระแหต้มเค็มหวาน" และเมนูสูตรเด็ด "ผัดพริกแล่นใบปลากระแหใส่เม็ดบัว" กระบวนการและรสชาติแต่ละเมนูจะเป็นอย่างไรโปรดติดตาม<ul><li>เกร็ดความรู้ </li></ul>"ปลากระแห" เป็นปลาน้ำจืดชนิดหนึ่งในวงศ์ปลาตะเพียน มีลักษณะคล้ายปลาตะเพียนทอง มีลักษณะเด่นคือ มีครีบและหางสีส้มแดงสวยงาม และมีลายสีดำ ทำให้มีชื่ออื่นว่า "ตะเพียนหางแดง" สามารถพบได้ทั่วไปในแม่น้ำลำคลองทั่วทุกภาคของประเทศไทย โดยชาวบ้านริมคลองบางหลวงเชียงราก มีภูมิปัญญาในการหาปลากระแหได้หลากหลายวิธี ทั้งตกเบ็ด ลอยข่าย และทอดแหติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน ปลากระแห วันเสาร์ที่ 9 มีนาคม 2567 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

ปลากระแห

ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอนพิเศษ พาไปเรียนรู้เรื่องราว "อาหารแห่งวัฒนธรรมชุมชนไทยเบิ้งโคกสลุง" ที่ ต.โคกสลุง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี พร้อมเข้าครัวปรุงเมนู "ลาบปลากาเครื่องดำเครื่องสด" และเมนู "หลามปลา" เรื่องราวของมรดกทางภูมิปัญญาอาหารพื้นบ้านจะเป็นอย่างไร โปรดติดตามติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน อาหารแห่งวัฒนธรรมชุมชนไทยเบิ้งโคกสลุง (ตอนพิเศษ) วันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

อาหารแห่งวัฒนธรรมชุมชนไทยเบิ้งโคกสลุง (ตอนพิเศษ)

ไปเรียนรู้ภูมิปัญญาการใช้ประโยชน์จาก "ต้นอ้อ" ที่ ต.บ้านไร่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี พร้อมเข้าครัวปรุงเมนู "แหนมต้นอ้อผัดไข่" และเมนู "ลาบแหนมต้นอ้อ" กระบวนการและหน้าตาแต่ละเมนูจะเป็นอย่างไร โปรดติดตาม<ul><li>เกร็ดความรู้ </li></ul>"ต้นอ้อ" หรือ "ต้นแขม" เป็นพืชในวงศ์หญ้า ขึ้นเป็นกอขนาดใหญ่ สูงได้ถึง 6 เมตร ชาวบ้านอำเภอบ้านไร่ นำส่วนต่าง ๆ ของต้นอ้อมาใช้ประโยชน์ เช่น ใช้ลำต้นอ้อมาสานทำเสื่อหรือฝาบ้าน ใช้ดอกอ้อมาทำไม้กวาด และที่สำคัญ คือ มีภูมิปัญญาในการนำลำต้นอ้อ มาเป็นกระบอกสำหรับบรรจุแหนม เกิดเป็นแหนมต้นอ้อที่เป็นเอกลักษณ์ และพบเพียงแห่งเดียวในอำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ข้อดีของลำอ้อที่นำมาใช้ในการบรรจุแหนมคือ ความเปรี้ยวจากลำอ้อ ทำให้แหนมเปรี้ยวเร็วขึ้น และมีรสชาติอร่อยติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน ต้นอ้อ วันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง <a href="http://www.thaipbs.or.th/live" target="_blank">www.thaipbs.or.th/Live</a>

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง "อาหารพื้นบ้าน"