สัปดาห์ก่อน ครม. มีมติแต่งตั้ง "คณะที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี" 5 คน นอกจากข้อสังเกตที่ถูกนำไปเทียบเคียงเป็น "บ้านพิษณุโลกโมเดล" สมัยน้าชาติ พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ ยังกลายเป็นข้อสังเกตว่า ทั้งหมดคือผู้ที่เคยขับเคลื่อนงานร่วมกับอดีตนายกฯ "ทักษิณ ชินวัตร" คนรุ่นเก่า จะให้คำแนะนำที่ทันยุค-ทันสมัยหรือไม่ ไปฟังคำตอบจาก พงศ์เทพ เทพกาญจนา ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี .
วันแรกของการแถลงนโยบาย หัวหน้าพรรคประชาชน ชี้ว่า 1 ปีที่ผ่านมาของรัฐบาลเพื่อไทย สูญเปล่า ก่อนเสนอให้แก้รัฐธรรมนูญ-ปฏิรูประบบราชการ และภาษี ขณะที่ นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ย้ำถึงการขับเคลื่อนนโยบาย จะอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง พร้อมสัญญากลางสภาถึงความตั้งใจบริหารราชการแผ่นดินด้วยความซื่อสัตย์-สุจริต ทำให้คนไทย "มีกิน-มีใช้-มีเกียรติ-มีศักดิ์ศรี"
นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร กำลังเจอกับโจทย์เดียกันที่อดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ต้องเผชิญ นั่นคือคำร้องเรียนที่เกี่ยวกับความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งหากศาลพิจารณาข้อกล่าวหาแล้วพบงว่ามีความผิด ก็อาจมีโทษถึงขั้นพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จุดหนึ่งที่ต่างกันระหว่างทั้งสองคน คือ เศรษฐา ทำงานมาเกือบปี ถึงโดนยื่นร้องเรียน แต่กับ นายกฯ แพทองธาร ยังไม่ทันเริ่ม โดนซะแล้ว ติดตามการวิเคราะห์จาก ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส ในช่วงประจักษ์วิเคราะห์
แค่เริ่มต้นรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ก็ต้องเจอกับบรรดานักร้องตั้งแต่เริ่มต้น แม้จะคัดกรองคุณสมบัติด้านจริยธรรมอย่างเข้มข้น แต่ไม่ได้หมายความว่า รัฐบาลจะมีความปลอดภัย ความเสี่ยงด้านกฎหมาย ของรัฐบาลชุดนี้มีอะไรบ้าง วิเคราะห์กันต่อ รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก คณะนิติศาสตร์ วิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย
วานนี้ (20 ส.ค. 67) เป็นกำหนด "เดดไลน์" ให้พรรคร่วมรัฐบาลส่งชื่อรัฐมนตรีตามโควต้าเดิมของแต่ละพรรคให้กับพรรคเพื่อไทย เพื่อพิจารณาและส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีและกฤษฏีกา ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ข้อมูลล่าสุด ส่งมาหลายพรรคการเมืองแล้ว ทั้งพรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคประชาชาติ พรรคชาติไทยพัฒนา และมีรายงานว่า พรรคประชาธิปัตย์ ได้โควตารัฐมนตรีเข้าร่วมรัฐบาลในครั้งนี้ด้วย
ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า แถลงเปิดใจกับสื่อฯ 3 รอบ ยืนยันไม่ทะเลาะขัดแย้งกับ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แต่ประกาศขอเป็นอิสระ มีจุดยืนเป็นของตัวเอง พร้อมส่งรายชื่อแคนดิเดตนั่งเก้าอี้รัฐมนตรี "ครม.แพทองธาร 1" แข่งกับ พลเอกประวิตร ขอให้รอฟังข่าวดีในวันนี้ (21 ส.ค. 67) ขณะที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อไทย ว่า การจัดโผ ครม. ในส่วนของพรรคเพื่อไทย จะมีการคุยกันในวันนี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะจบทั้งหมด ส่วนกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ มีปัญหาเรื่องการเสนอชื่อรัฐมนตรี ขอให้เป็นเรื่องภายในและ พลเอกประวิตร ไม่ได้ติดต่อพูดคุยเรื่องการส่งรายชื่อ แต่ส่งดอกไม้มาแสดงความยินดีเท่านั้น
ศิริกัญญา ตันสกุล สส. พรรคประชาชน ที่เกาะติดเรื่องโครงการดิจิทัลวอลเล็ต มาตั้งแต่สมัยพรรคก้าวไกล ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อโครงการนี้ โดยเฉพาะข้อเสนอทางออก เพื่อให้เกิดการดำเนินการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ศิริกัญญา กล่าวว่า ถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงจากแจกเงินระบบดิจิทัลเป็นเงินสด อาจจะตรงกับความต้องการพฤติกรรมของผู้ใช้และประชาชนทั่วไป และจะลดเสียงวิจารณ์ลงได้ ก็ต้องดูเรื่องที่มาของเงิน ว่าจะสามารถแจกได้เท่าไหร่หากต้องเป็นเงินสดจริง ส่วนเรื่องที่ผู้นำรัฐบาลยังให้ความชัดเจนเรื่องนโยบายนี้ไม่ได้นั้น ศิริกัญญา บอกว่าเข้าใจได้ เพราะยังไม่มี ครม. ยังไม่มีการแถลงนโยบาย และยังไม่ได้เข้าสู่การพิจารณาของ ครม. จึงต้องให้โอกาสและให้เวลารัฐบาลได้เตรียมตัว
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ จะเสร็จภายในสัปดาห์หน้า ขณะเดียวกันมีกระแสข่าวว่า ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า จะหลุดจากเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เนื่องจากพรรคเพื่อไทย เกรงว่าจะมีปัญหาคุณสมบัติ นางสาวแพทองธาร ย้ำถึงความรอบคอบ ที่จะต้องตรวจสอบคุณสมบัติ ของ ครม. เพราะเป็นความรับผิดชอบร่วมกัน ดังนั้น การจัดตั้ง "ครม.แพทองธาร 1" จึงจำเป็นต้องถอดบทเรียนจาก คดีการแต่งตั้ง "ครม.เศรษฐา 1/1"
3 รัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทย "สุทิน คลังแสง - พิชัย ชุณหวชิร และจักรพงษ์ แสงมณี" ส่อหลุดเก้าอี้ "ครม.แพทองธาร 1" แต่ต้องจับตา "พลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ" จะได้ไปต่อหรือไม่ หลังมีกระแส "นายทักษิณ ชินวัตร" ส่งสัญญาณ ต้องไม่มีคนใน "ตระกูลวงษ์สุวรรณ" ร่วมเป็นรัฐมนตรี
ที่อาคารวอยซ์สเปซ คนในตระกูลชินวัตร และนักการเมืองต่างแห่แสดงความยินดีกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร โดยเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เตรียมอัญเชิญพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ขณะที่นางสาวแพทองธาร เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ยังรู้สึกตื่นเต้นอยู่ไม่ต่างจากนายทักษิณ