เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยเนปาล
สิ่งที่่น่าวิตกในเนปาลขณะนี้ นอกจากความช่วยเหลือที่ยังเข้าไปไม่ถึงบางพื้่นที่ที่ห่างไกล และสภาพอากาศที่เลวร้าย ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการลำเลียงความช่วยเหลือแล้ว ยังมีความเสี่ยงจากโรคระบาดที่อาจจะเกิดขึ้นในสถานที่พักพิงชั่วคราว ซึ่งขาดสุขอนามัยที่ดี
การลำเลียงและแจกจ่ายความช่วยเหลือในแถบพื้นที่ห่างไกลใกล้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวต้องเผชิญอุปสรรคจากสภาพอากาศที่เลวร้าย ทางการเนปาลและทีมบรรเทาทุกข์จากนานาชาติต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงความช่วยเหลือเข้าไป เนื่องจากถนนที่ลัดเลาะไปตามภูเขายังคงถูกตัดขาดจากดินที่ถล่มลงมาปิดกั้นเส้นทาง ขณะที่รัฐบาลเนปาลต้องเผชิญเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากผู้ประสบภัยที่ให้ความช่วยเหลือล่าช้า จนถึงขณะนี้ หมู่บ้านห่างไกลบางแห่งยังคงไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ
สภาพความเป็นอยู่ของผู้ประสบภัยส่วนใหญ่ยังคงเลวร้าย โดยเฉพาะในเขตสินธุปาล ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด ผู้ประสบภัยในพื้นที่ยังคงต้องนอนกลางแจ้ง มีรายงานว่าในเขตสินธุปาลมีผู้เสียชีวิตถึง 2 พันคน จากจำนวนประชากรทั้งหมดกว่า 3 แสนคน ขณะที่มีความวิตกกันว่า อาจจะมีโรคระบาดเกิดขึ้นในสถานที่พักพิงชั้วคราว 21 แห่งในกรุงกาฐมาณฑุ เนื่องจากขาดสุขอนามัยที่ดี
ส่วนการกู้ภัยในกรุงกาฐมาณฑุ เมื่อวานนี้ (30เม.ย.2558) มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น เมื่อทีมกู้ภัยของเนปาลและนานาชาติช่วยผู้รอดชีวิต 2 คนขึ้นมาจากซากปรักหักพัง เป็นเด็กชายอายุ 15 ปี และสตรีอายุ 24 ปี ท่ามกลางเสียงโห่ร้องแสดงความดีใจจากกลุ่มคนที่มาให้กำลังใจ โดยทั้งคู่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของอาคารบ้านเรือนในกรุงกาฐมาณฑุมานานถึง 5 วัน นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.8 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
เด็กชาย เปิดเผยว่า รอดชีวิตมาจากได้ เพราะดื่มน้่ำจากเสื้อผ้าเปียกชุ่มและกินน้ำมันเนยประทังชีวิต ส่วนสตรีที่รอดชีวิต ทำงานเป็นแม่บ้านของโรงแรมเล็กๆ ติดอยู่ใต้ซากหักพังพร้อมกับศพผู้เคราะห์ร้ายอีก 3 คน โดยหนึ่งในนี้่เป็นลุงของเธอ
ยอดผู้ชีวิตล่าสุดใกล้ทะลุ 6,000 คนแล้ว โดยตัวเลขอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 5,858 คน และได้รับบาดเจ็บอีก 11,000 คน นายกรัฐมนตรีของเนปาลเชื่อว่ายอดผู้เสียชีวิตน่าจะสูงถึง 1 หมื่นคน เนื่องจากข้อมูลความเสียหายและความสูญเสียในพื้่นที่ห่างไกลยังเข้ามาไม่ถึง
ด้านสำนักข่าวเอพีเผยแพร่ภาพถ่ายทางอากาศแสดงความเสียหายที่เกิดขึ้นในเมืองภักตะปูร์ เมืองหลวงของเนปาลในอดีต โดยศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของเมือง ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดเก่าหลายแห่งที่มีอายุหลายร้อยปี ได้รับความเสียหายอย่างหนัก และยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะสามารถบูรณะให้กลับมาเหมือนเดิมได้หรือไม่