ใช้เครื่องจักรหนักสลับเดินค้นหาผู้ติดค้างใต้ตึก สตง.ถล่ม

ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา (4 เม.ย.2568) เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงเดินหน้าค้นหาผู้สูญหายในเหตุการณ์อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม โดยใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ ประกอบด้วย หัวขุดเจาะ หัวตัดถ่าง เร่งรื้อถอนซากปรักหักพังของอาคารเพื่อค้นหาผู้สูญหายอย่างเข้มข้น

โดยเฉพาะโซน A หรือบริเวณด้านหน้า เน้นขุดเจาะตรงแผ่นปูนที่ทับซ้อนกันหลายชั้น ให้แตกเป็นก้อนหินขนาดเล็ก ก่อนจะดึงตัดเหล็กเส้นและค่อยๆ เจาะเข้าไปให้ลึกที่สุด สลับกับฉีดน้ำลดฝุ่นที่ฟุ้งกระจายทั่วบริเวณ เช่นเดียวกับโซน D ได้ใช้เครื่องขุดเจาะตรวจสอบหาช่องโพรงและปล่องลิฟต์ บันไดหนีไฟทั้ง 2 จุด ซึ่งวิศวกรประเมินว่าอาจเป็นจุดที่มีโครงสร้างแข็งแรงและอาจมีผู้ติดค้างอยู่บริเวณนั้น

ขณะที่ฝั่งโซน B และ C เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังได้ใช้เครื่องจักรหนักและเดินเท้าสำรวจ ขุดเจาะเข้าไปได้ลึกถึง 4-5 เมตร โดยจะมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยและสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอีกชุด ช่วยใช้กล้องส่องตรวจสิ่งต้องสงสัยหรือหาความเป็นไปได้ว่ามีผู้ต้องสงสัยส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือหรือไม่

หากตรวจพบจะให้เครื่องจักรขนาดใหญ่ยุติการรื้อถอนชั่วคราว แล้วให้ชุดกู้ภัยเข้าค้นหา พร้อมสุนัข K9 ดมกลิ่นตามพิกัดที่ระบุ ซึ่งภารกิจค้นหาจะดำเนินการลักษณะนี้สลับกันไป แม้จะเข้าไปตามโพรงได้หลายจุด แต่ยังไร้สัญญาณชีพของผู้ติดค้าง

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ร่วมสังเกตการณ์และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอยู่ภายในตลอดทั้งคืนและยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่มเติม จึงทำให้ข้อมูลของผู้เสียชีวิตที่ถูกนำออกมาได้ คงอยู่ที่ 15 คนและมีผู้สูญหายที่อยู่ระหว่างติดตาม 79 คน โดยมีผู้ประสบภัยในเหตุการณ์นี้รวม 103 คน

ส่วนร่างผู้เสียชีวิต 2 คนที่ผู้ว่าฯ กทม.รายงานว่าพบอยู่ภายในซากอาคารช่วงโซน B ขณะนี้ยังไม่สามารถนำออกมาได้ เนื่องจากร่างถูกทับด้วยแผ่นปูนและเหล็กเส้นจำนวนมาก

อ่านข่าว

กทพ.ปิดจราจรขึ้น-ลงด่านดินแดง 5-7 เม.ย.รื้อถอนเครนถล่ม

ปรับแผนค้นหาผู้ติดค้างตึกถล่ม ใช้เครื่องจักรใหญ่เจาะเน้นโซน C , D

กขค.บี้ “ไชน่า เรลเวย์ - ซิน เคอ หยวน” แจงปมฮั้วประมูล - ต้นทุนราคาสินค้า