ผู้ส่งออกหวั่นนโยบายเร่งระบายข้าวทำราคาข้าวตก
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวภายหลังกระทรวงพาณิชย์ประกาศระบายข้าว ที่เริ่มตั้งแต่ ส.ค.-ธ.ค. ปีนี้ โดยเชื่อว่าสาเหตุที่เร่งระบายข้าวไม่กำหนดปริมาณในช่วงนี้ เนื่องจากปัญหางบประมาณที่นำมาใช้ในการรับจำนำ รวมถึงปัญหาโกดังเก็บข้าวที่เริ่มไม่เพียงพอ พร้อมกับประเมินว่าการเร่งระบายข้าว จะส่งผลกระทบต่อราคาข้าวของไทย โดยขณะนี้ประเทศผู้ซื้อข้าวชะลอซื้อข้าวแล้ว เพื่อรอดูสถานการณ์ราคาข้าว เพราะหากข้าวไทยราคาลดลง ประเทศคู่แข่งอย่างเวียดนาม อินเดีย ก็จะลดราคาข้าวลงมาด้วย ซึ่งอาจจะต่ำกว่าตันละ 400 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 12,000 บาท
นอกจากนี้ นายชูเกียรติ ยังให้ความเห็นอีกว่า การแก้ปัญหาสต็อกข้าวของรัฐบาลล่าช้าเกินไป จนมีข้าวค้างสต็อกสูง ทั้งที่ก่อนหน้านี้สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เคยเสนอให้ทยอยระบายข้าวเป็นล็อต เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อราคาข้าว เพราะผู้ประกอบการการบางรายจะกดราคารับซื้อข้าวของรัฐในราคาต่ำกว่าความเป็นจริงมาก และก่อให้เกิดการทุจริต
ทั้งนี้เมื่อวานนี้(1 ส.ค.) คณะอนุกรรมการระบายข้าว เห็นชอบกรอบระยะเวลาระบายข้าว ในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี และนาปรัง ซึ่งจะเริ่มระบายข้าวตั้งแต่เดือน ส.ค.-ธ.ค. เบื้องต้นจะทะยอยระบายด้วยวิธีเปิดประมูล และขายในลักษณะรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี
ด้านนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่าจะไม่ระบายข้าวครั้งละมากๆ เพื่อไม่ให้ราคาข้าวลดต่ำ และจะไม่ให้ราคาที่อนุมัติขาย ต่ำกว่าราคากลางที่กำหนดไว้ พร้อมเน้นย้ำความโปร่งใสในการดำเนินการ
สำหรับโครงการรับจำนำข้าวทั้งนาปีและนาปรังที่ผ่านมา มีปริมาณข้าวเปลือกเข้าโครงการ ประมาณ 17 ล้านตัน สามารถสีเป็นข้าวสารได้ประมาณ 10 ล้านตัน ซึ่งขณะนี้กำลังประสบกับปัญหาโกดังเก็บข้าวไม่เพียงพอ จนทำให้องค์การคลังสินค้าต้องเปิดโกดังเพิ่ม เพื่อรองรับปริมาณข้าวในโครงการรับจำนำ