คุมเข้มการรักษาความปลอดภัย อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

ฝ่ายความมั่นคงเพิ่มความเข้มมาตรการรักษาความปลอดภัยพื้นที่เศรษฐกิจชั้นในของอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาหลังมีรายงานข่าวเป็นเป้าหมายการก่อเหตุรุนแรง โดยมีการตั้งด่านตรวจเข้มเส้นทางสายหลักเข้าสู่ตัวเมือง แต่จากการตรวจสอบของไทยพีบีเอสพบว่ายังมีช่องว่างโดยเฉพาะเส้นทางสายรอง ซึ่งเจ้าหน้าที่แทบจะไม่ตรวจตรา

รถจักรยานยนต์และรถยนต์ทุกคัน จะถูกพนักงานรักษาความปลอดภัยตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนนำลงไปจอดบริเวนลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าภายในตัวเมืองหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยเฉพาะรถยนต์จะต้องมีการตรวจสอบบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทางของนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นมาตรการดูแลตัวเองของผู้ประกอบการหลังพื้นที่เศรษฐกิจของอำเภอหาดใหญ่ถูกระบุเป็นเป้าหมายการก่อเหตุรุนแรงในช่วงนี้

ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงประกาศเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยตัวเมืองหาดใหญ่อย่างเข้มงวดโดยเฉพาะพล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ที่คาดโทษเอาผิดกับตำรวจเจ้าของพื้นที่หากปล่อยให้รถยนต์ประกอบระเบิดหลุดรอดเข้าไปก่อเหตุได้

การวางมาตรการรักษาความปลอดภัยตัวเมืองหาดใหญ่ ฝ่ายความมั่นคง แบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วน คือพื้นที่ชั้นในซึ่งเป็นย่านธุรกิจการค้า จะให้ตำรวจและฝ่ายปกครองร่วมกันดูแล โดยประสานงานกับเครือข่ายภาคประชาชนที่มีการจัดตั้งศูนย์วิทยุเครื่องแดงซึ่งมีสมาชิกกว่า 1,200 คนคอยแจ้งข่าวสาร

ส่วนพื้นที่รอบนอกซึ่งเป็นเส้นทางเข้าสู่ตัวเมือง กำลังผสมตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองจะตั้งด่านตรวจสกัดรถต้องสงสัยที่จะเข้าสู่ตัวเมืองหาดใหญ่ แต่จากการตรวจสอบของไทยพีบีเอสพบว่ายังมีช่องว่าง ซึ่งก็คือ เส้นทางเข้าสู่ตัวเมืองหาดใหญ่มีทั้งหมด 45 เส้นทาง โดยเป็นเส้นทางสายหลัก 7 สาย และเส้นทางสายรองอีก 38 สาย ซึ่งเส้นทางสายหลักเจ้าหน้าที่จะตั้งด่านตรวจเข้มทุก 2 ชั่วโมง ส่วนเส้นทางสายรองนั้นจะมีการตั้งด่านตรวจที่ทิ้งช่วงนานพอสมควรในแต่ละครั้งและในบางสายแทบจะไม่มีเจ้าหน้าที่ผ่านมาตรวจตราเลย

ซึ่งถือเป็น 1 ในช่องว่าง ให้ผู้ที่ต้องการหลบเลี่ยงการตรวจตราของเจ้าหน้าที่หันมาใช้เส้นทางสายรองเหล่านี้ เข้าสู่ตัวเมืองหาดใหญ่ได้อย่างสะดวก ซึ่งความไม่รัดกุมของฝ่ายความมั่นคง ตลอดระยะ 8 ปีที่ผ่านมา ต้องแลกมาด้วยชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมาก หลังเกิดเหตุระเบิดพื้นที่เศรษฐกิจชั้นในของอำเภอหาดใหญ่มาแล้วถึง 5 ครั้ง