ส.ว.เสียงแตกเลือก ปธ.วุฒิสภาคนใหม่ ที่จะเลือกในวันที่ 14 ส.ค.นี้
วันอังคารที่ 14 สิงหาคมนี้ ถูกกำหนดให้เป็นวันที่สมาชิกวุฒิสภา ทั้ง 147 คน จะต้องลงมติเลือกผู้รับหน้าที่ประธานวุฒิสภาคนใหม่ แทน พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ที่พ้นจากตำแหน่งด้วยคำพิพากษาคดีค้างเก่า "ขี้นเงินเดือนให้กับตนเอง" ซึ่งขณะนี้มีรายชื่อผู้ถูกคาดการณ์ว่าจะได้รับเสนอชื่อ รวม 5 คน คือ
1.นายนิคม ไวยรัชพานิช
2.นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์
3.นายชูชัย เลิศพงศ์อดิศร
4.นายประเสริฐ ชิตพงษ์
5.นายพิเชต สุนทรพิพิธ
แคนดิเดท ง 5 ต่างมีเสียงสนับสนุนในกลุ่มที่ชัดเจน โดยนายนิคม มีความใกล้ชิดกับ นายสุชาติ ตันเจริญ อดีตนักการเมืองกลุ่มบ้านริมน้ำ ที่มีเสียงสนับสนุน
ขณะที่นายเกชา มีสถานะเป็นน้องชายของนางกอบกุล นพอมรบดี ภรรยาส.ส.พรรคภูมิใจไทย และมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ จึงทำให้มีคะแนนเสียงสนับสนุนจากเพื่อนส.ว. ในกลุ่มภาคตะวันตก และภาคอีสานบางส่วน ขณะเดียวกันก็อยู่ระหว่างการทาบทามคะแนนจากเพื่อนส.ว.ที่เคยสนับสนุนนายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.จังหวัดนนทบุรี มาเทคะแนนให้ หลังประกาศไม่ลงชิงตำแหน่งแล้ว
ส่วนนายชูชัย ส.ว.เชียงใหม่ ที่มีความใกล้ชิดกับนางเยาวภา และนายสมชาย วงษ์สวัสดิ์ รวมถึงนายพินิจ จารุสมบัติ จึงทำให้น่าจะได้รับการสนับสนุนจากส.ว.ภาคเหนือ และภาคอีสานตอนบน
ด้วยจำนวนผู้เข้าชิงตำแหน่งที่มีมาก จึงทำให้คะแนนเสียงที่จะออกมาอาจไม่เป็นเอกภาพ อย่างส.ว.สายเลือกตั้ง 76 เสียง เห็นชัดเจนว่า คะแนนเสียงสนับสนุนตอนนี้ ถูกเฉลี่ยออกไปถึง 4 กลุ่มด้วยกัน ซึ่งแต่ละกลุ่มมีเสียงสนับสนุนไม่ถึง 30 เสียง ไม่ต่างจาก ส.ว.ในกลุ่มสรรหา ที่มีอยู่ 71 เสียง ก็ไม่มีความเป็นเอกภาพที่ชัดเจนถึงการสนับสนุนบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ขณะเดียวกันเจตนาทางการเมืองยังต่างกันอีกด้วย โดยส่วนหนึ่งสนับสนุนรัฐบาล แต่ส่วนหนึ่งเน้นการตรวจสอบรัฐบาล และยังมีกลุ่มที่วางตัวเป็นกลาง
มีรายงานว่า คะแนนเสียงที่แตก กำลังกลายเป็นเงื่อนไขให้นายนิคม ตัดสินใจไม่ลาออกจากตำแหน่งรองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ระหว่างเข้าสู่กระบวนการเลือก และอาจเป็นไปได้ว่าในช่วงเวลาก่อนถึงวันเลือก ส.ว.แต่ละกลุ่มอาจมีการประชุมนอกรอบ เพื่อตรวจสอบคะแนน และต่อรองแบ่งสรรปันส่วนตำแหน่ง
สำหรับขั้นตอนการลงคะแนนเลือกตั้งประธานวุฒิสภา ผู้ได้รับการเสนอชื่อต้องมีผู้รับรองไม่น้อยกว่า 10 คน และแต่ละคนต้องแสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุม ก่อนจะมีการลงมติเลือกโดยทางลับ ซึ่งผู้ที่จะได้รับเลือกเป็นประธานวุฒิสภา ต้องเป็นผู้ที่มีคะแนนเสียงสูงสุด และเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกที่มาประชุม