ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"ดีเอสไอ" ตรวจสอบผู้มีอิทธิพลเบื้องหลังไฟไหม้ป่าพรุควนเคร็งสูญกว่า 30,000 ไร่

11 ส.ค. 55
14:14
20
Logo Thai PBS
"ดีเอสไอ" ตรวจสอบผู้มีอิทธิพลเบื้องหลังไฟไหม้ป่าพรุควนเคร็งสูญกว่า 30,000 ไร่

กรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงพื้นที่ตรวจสอบกลุ่มผู้มีอิทธิพล บุกรุกพื้นที่ป่าพรุควนเคร็ง จ.นครศรีธรรมราช เนื้อที่กว่า 30,000 ไร่ หลังได้รับการเรียนเรียน ขณะเดียวกับพบว่า ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ป่าพรุถูกลักลอบเผาไปแล้ว กว่า 100 จุด สร้างความเสียหายกว่า 7,000 ไร่ โดยเฉพาะในช่วงนี้ถูกลักลอบเผาไม่ต่ำกว่าวันละ 10 จุด

<"">
<"">

เปลวไฟและหมอกควันยังลุกไหม้ ปกคลุม ป่าพรุควนเคร็ง ต่อเนื่องนานกว่า หนึ่งสัปดาห์ แม้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการดับไฟป่าลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือ ชุดเสือไฟจังหวัดนครศรีธรรมราช นครราชสีมา และเสือไฟจังหวัดอุทัยธานี กว่า 60 คน จะระดมกำลังเร่งดับไฟ แต่พบว่า ในแต่วันจะถูกชาวบ้านลอบวางเพลิง ไม่ต่ำกว่า 10 จุด กระจายอยู่ในพื้นที่ 5 อำเภอ จึงทำให้การปฏิบัติหน้าที่เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะมีข้อจำกัดทั้งด้านกำลังพลและอุปกรณ์การดับไฟที่มีไม่เพียงพอ

สถานการณ์ลอบวางเพลิง ในเขตป่าพรุควนเคร็ง จ.นครศรีธรรมราช มีขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงหน้าแล้ง เพราะชาวบ้านต้องการบุกรุกที่เพื่อปลูกปาล์มน้ำมัน แต่ปีนี้ (2555) มีแนวโน้มรุนแรงเหมือนกับเช่นในปี 2553 ล่าสุดพบว่า ในช่วง 2 เดือน ถูกลอบวางเพลิงไปแล้วกว่า 100 จุด สร้างความเสียหายแล้วกว่า 7,000 ไร่

นายสุทัศน์ ม่วงเกิด เจ้าหน้าที่ชุดเสือไฟจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ประสบการณ์ในการดับไฟที่เคยไปมาทั่วประเทศพบว่า พรุควนเคร็งแตกต่างจากพื้นที่อื่นตรงที่พื้นดินเต็มไปด้วยรากไม้ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี และเกิดขึ้นจากน้ำมือมนุษย์ไม่ได้เกิดจากภัยธรรมชาติ ภารกิจครั้งนี้จึงไม่มีวันสิ้นสุด

มีรายงานว่า เจ้าหน้ากรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ลงพื้นที่ป่าพรุควนเคร็ง ใน ต.ทางพูน อ.เฉลิมพระเกียรติ และ ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ ทำการรังวัดที่ดินเพื่อหาหลักฐาน หลังได้รับการร้องเรียนว่า มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลลอบเข้าแผวถางป่าเพื่อปลูกปาล์มน้ำมัน พื้นที่กว่า 30,000 ไร่ เบื้องต้นมีการเรียกพยานไปสอบปากคำ ก่อนได้รับเบาะแสว่า มีนักการเมืองท้องถิ่น ระดับนายกองค์การบริหารส่วนตำบลทั้งสอบได้และสอบตกอย่างน้อย 3 คน เป็นเจ้าของ

ทั้งนี้การออก สปก. ในเขตป่าพรุควนเคร็ง จ.นครศรีธรรมราช เป็นส่วนหนึ่งทำให้ผืนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ กว่า 300,000 ไร่ ถูกบุกรุกแผวถางอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันเหลือป่าอยู่เพียง 120,000 ไร่ และมีแนวโน้มลดลงในทุกปี


ข่าวที่เกี่ยวข้อง