"แสวง" ยัน กกต.ไม่นิ่งเฉยคดีฮั้วเลือก สว. ตั้งคณะกรรมการ 3 ชุดดำเนินการ เผยชงศาลฎีกาฟันแล้ว 3 คดี จากคำร้อง 220 เรื่อง พิจารณาเสร็จ 109 เรื่อง ชี้ ม.49 ให้รับโอนคดีได้แต่ไม่เปิดช่องให้มอบหน่วยงานอื่นทำ หากมั่นใจกฎหมายให้อำนาจก็เดินหน้ารับเรื่องได้
หลังจากดีเอสไอรับคดีฮั้วเลือก สว. 2567 เป็นคดีพิเศษ ความผิดฐานฟอกเงิน จากนี้จะเกิดอะไรต่อไป จะเป็นมวยล้มต้มคนดูหรือไม่ในมุมมอง “คมสัน โพธิ์คง” นักวิชาการอิสระด้านกฎหมาย มองว่าอยู่ที่พยานหลักฐานที่ดีเอสไอมีแล้ว เชื่อว่าหากพบการกระทำผิดจริง เผือดร้อนจะกลับไปที่ กกต.
สว.กลุ่มกฎหมาย เตรียมเสนอญัตติให้ "วุฒิสภา" พิจารณาปัญหาการทำหน้าที่ของ "กระทรวงยุติธรรม-กรมสอบสวนคดีพิเศษ" ปมปล่อยทุนเทา-ให้สิทธิพิเศษ "ผู้ต้องหาบางคนรักษาตัวนอกเรือนจำ ส่งให้รัฐบาลปรับปรุงแก้ไข ขณะที่ มีเอกสารหลุด 1,200 รายชื่อ โดยอ้างอิง "กรมสอบสวนคดีพิเศษ" เตรียมเรียกสอบในฐานะพยาน "คดีฮั้วเลือกตั้ง สว. ปี 2567"
ถึงตอนนี้ สรุปได้ว่า "ดีเอสไอ" มีอำนาจในการสอบฮั้วเลือก สว.ปี 2567 ยึดตามกฎหมายอาญาและกฎหมายฟอกเงินในมือ ซึ่งจะแยกส่วนกับอำนาจหน้าที่ของ กกต. ที่จะต้องวินิจฉัย-ชี้ขาด "การเลือก สว." เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ตามกฎหมายการได้มาซึ่ง สว. หรือไม่ แต่นอกเหนือจากอำนาจหน้าที่ของทั้งดีเอสไอ และ กกต. แล้วนั้น ต้องบอกว่า.."ฮั้ว"..หรือ "ไม่ฮั้ว" เลือก สว. ชุดนี้ มีเกมวัดพลังทางการเมืองกันเกิดขึ้น ซึ่งไม่ใช่จากพรรคการเมือง หรือขั้วการเมืองฝ่ายตรงข้าม แต่หมายถึงฝ่ายเดียวกัน แค่ต่างค่าย..นั่นคือ ค่ายสีแดงกับค่ายสีน้ำเงินเป็นนัยอยู่ด้วย