ฟุตบอลคอมมิวนิตี้ชิลด์ ที่สนามวิลล่าพาร์ค แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีก พบกับเชลซี แชมป์เอฟเอคัพ ครึ่งแรกเป็นเชลซีที่ออกนำไปก่อนจากการหลุดเข้าไปยิงของ เฟร์นาโด ตอร์เรส ในนาทีที่ 39 แต่หลังจากนั้นเชลซีต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ไปเสียบสกัด อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม
ครึ่งหลังแมนซิตี้ ซึ่งได้เปรียบตัวผู้เล่นก็มาได้ประตูตีเสมออย่างรวดเร็วจากการยิงเสียบเสาแรกอย่างเฉียบขาดของยาย่า ตูเร่ ในนาทีที่ 53 นาทีที่ 64 คาร์ลอส เตเวซ ยิงจากนอกกรอบเขตโทษบอลพุ่งเข้าประตูไปอย่างสวยงามให้แมนซิตี้พลิกมานำ 2-1 ถัดมาเพียงแค่นาทีเดียว โคลารอฟ เปิดบอลให้ ซาเมียร์ นาสรี่ ยิงจ่อๆ เข้าไป แมนซิตี้นำห่าง 3-1
ช่วง 10 นาทีสุดท้าย เชลซีไล่มาเป็น 2-3 จากการตามซ้ำของ ไรอัน เบอร์ทรานด์ ตัวสำรอง จบเกม แมนซิตี้ ชนะเชลซี 3-2 ก่อนที่ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกจะเปิดฤดูกาลในสัปดาห์หน้า
ส่วนฟุตบอลเยอรมัน ซูเปอร์คัพ ที่สนามอัลลิอันซ์ อารีน่า โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ดับเบิ้ลแชมป์ฟุตบอลเยอรมนีฤดูกาลที่แล้วพบกับ บาเยิร์น มิวนิค เพียงแค่ 11 นาที บาเยิร์น ได้ประตูนำห่างก่อนถึง 2-0 จาก มาริโอ มานซูคิช และ โทมัส มุลเลอร์ส
ครึ่งหลังดอร์ทมุนด์ตีไข่แตกได้จากโรเบิร์ต เลวานดอวสกี้ ในช่วง 15 นาทีสุดท้าย แต่ไล่ไม่ทัน จบเกม บาเยิร์น ชนะ ดอร์ทมุนด์ 2-1 คว้าแชมป์ซูเปอร์คัพไปครอง และเป็นชัยชนะ 5 นัดรวดต่อดอร์ทมุนด์ในรายการนี้
ขณะที่ฟุตบอลพรีเมียร์ดัตช์ ฮอลแลนด์ เปิดฤดูกาลไปแล้ว นัดเปิดสนาม อาแจ็กซ์ อัมเตอร์สดัม แชมป์เก่า ลงเล่นในบ้านของตัวเองทำได้แค่เสมอกับ อาแซ่ด อัล์คม่าร์ไป 2-2 เกมนี้ เกรกอรี่ ฟาน เดอ วีล ยิงให้อาแจ็กซ์นำก่อนตั้งแต่ 9 นาทีแรก
แต่ครึ่งหลังอัล์คม่าร์ได้สองประตูแซงนำภายในเวลาห่างกันแค่ 3 นาทีจาก โจซี่ย์ อัลติดอร์ นาที 48 และนาที 50 ก่อนที่ โคลเบนน์ ซิคธอร์สัน จะยิงประตูตีเสมอให้อาแจ็กซ์รอดพ้นความพ่ายแพ้ ก่อนหมดเวลา 7 นาที จบเกม เสมอกันไป 2-2