วันนี้ ( 24 พ.ย.2567) นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หอการค้าไทย รวบรวมประเด็นและข้อเสนอแนะจากงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ และทำเป็น สมุดปกขาว เพื่อนำเสนอแนวทางในการพาประเทศไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
ด้วยแนวทางสำคัญประกอบด้วย 2 แกนหลัก คือ การเชื่อมโยง (Connect for Growth) เพื่อเสริมสร้างเครือข่ายธุรกิจให้แข็งแกร่ง และ การนำนวัตกรรมมาใช้เพื่อพัฒนาประเทศให้ตอบโจทย์ความยั่งยืนในระยะยาว (Innovating for Sustainability) โดยส่งมอบสมุดปกขาวต่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
หอการค้าฯตั้งเป้าหมายสำคัญเพื่อให้เศรษฐกิจไทยสามารถเติบโตได้เต็มศักยภาพ โดยหวังให้ GDP ไทยในปีหน้าสามารถเติบโตไม่น้อยกว่า 3%
สำหรับประเด็นและข้อเสนอแนะที่หอการค้าฯ นำเสนอในสมุดขาว เพื่อพิจารณาใช้เป็นแนวทางในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจแก่รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบไปด้วย ข้อเสนอเพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะเร่งด่วน 3 ข้อเสนอหลัก คือ
1. การสร้างความเชื่อมั่นทั้งในและต่างประเทศ โดยภาคเอกชนเห็นว่ารัฐบาลควรมีมาตรการลดภาระค่าครองชีพประชาชนและต้นทุนของผู้ประกอบการ การควบคุมราคาสินค้าพื้นฐานและบริการที่จำเป็น การตรึงราคาค่าไฟฟ้า – น้ำมันดีเซล การผลักดันให้มีการจัดตั้ง กรอ.พลังงาน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รับมอบสมุกปกขาวจากนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในงานประชุมหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่42
การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำให้เป็นไปตามกลไกคณะกรรมการไตรภาคี การกระจายงบประมาณไปยังภูมิภาคอย่างทั่วถึง และการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยโครงการคูณสอง เพื่อเพิ่มกาลังซื้อในระบบเศรษฐกิจ นอกจากนั้น ยังขอให้รัฐบาลสานต่อการขับเคลื่อนการยกระดับเมือง 10 จังหวัดนำร่อง ที่ดำเนินไปก่อนหน้านี้
2. การสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน SMEs แก้ไขปัญหาหนี้ ที่ประชาชนและ SMEs กำลังเผชิญอยู่ ซึ่งหัวใจสำคัญของการแก้หนี้ คือ รัฐบาลจำเป็นต้องใช้นโยบายการเงิน การคลัง ควบคู่กัน พร้อมกับการกระจายรายได้เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ
การพักและยืดการชำระหนี้ ทั้ง บ้าน รถ และ SMEs โดยเฉพาะไม่ยึดรถกระบะ ที่เป็นเครื่องมือทำมาหากินของประชาชน การลดดอกเบี้ย และการปลดล็อกการเข้าถึงสินเชื่อก็เป็นเรื่องจำเป็นในขณะนี้
สมุดปกขาวที่หอการค้าไทยยื่นเสนอต่อรัฐบาล
นอกจากนี้ ภาคเอกชนเห็นว่ารัฐบาลควรเร่งสร้างความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ เพื่อให้สินค้าไทยสามารถแข่งขันกับสินค้านำเข้าจากต่างประเทศได้ ดูแลการค้าให้เป็นธรรม ไม่เป็นตลาดที่ดัมพ์สินค้าไร้คุณภาพ ซึ่งจะทำลายตลาดระยะยาวของประเทศ
ไทยต้องเลือกการลงทุนที่มีคุณภาพ ที่มีการจ้างงานในประเทศ มีการใช้ local content ในท้องถิ่นให้มากที่สุด
3. การวางยุทธศาสตร์ประเทศเพื่อการเติบโตในอนาคตอย่างยั่งยืนโดยเฉพาะ การเร่งดึงดูดการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ หอการค้าฯ ได้ เสนอให้จ.ปราจีนบุรี ให้เป็นหนึ่งในพื้นที่ EEC ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มมูลค่าการลงทุนใน EEC ได้อีกมหาศาล การรักษาโมเมนตั้มภาคธุรกิจที่ไทยยังแข่งขันได้ ทั้งในด้าน Food, Tourism, Wellness และโอกาสการเป็นศูนย์กลางด้าน Logistics & Connectivity และ Education Hub
ประธานหอการค้ากล่าวอีกว่า การเร่งดึงดูดอุตสาหกรรมใหม่ New S-Curve ด้าน AI, Digital, EV Car และ Green Energy การเจรจากับเพื่อนบ้านเพื่อยกระดับจุดผ่านแดนทางการค้า การบริหารจัดการน้ำไม่ให้เกิดท่วมและแล้งซ้ำซาก และ การปรับปรุงนโยบายด้านแรงงานให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศ
นอกจากนี้ ยังมี 6 ประเด็น ปลุกเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ได้แก่ การค้าและการลงทุน โอกาสและความท้าทาย ,เกษตรและอาหาร : คลังอาหารของไทยและโลก ,ท่องเที่ยวและบริการ : แหล่งรายได้สำคัญของประเทศ ,การพัฒนาเพื่อความยั่งยืนขับเคลื่อนธุรกิจสีเขียว ,ขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานยกระดับการแข่งขันของประเทศ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาค : สร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน
ในอนาคตหากมีการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจขนานใหญ่ โดยเฉพาะการแก้หนี้ และ กระจายรายได้อย่างทั่วถึงก็มีโอกาสที่ GDP ไทย จะกลับมาเติบโตเต็มศักยภาพได้ถึง 5% ต่อปี
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและเอกชนทำให้ประเทศพัฒนาไปอย่างก้าวไกล ต้องชื่นชมในความมุ่งมั่นของทุกคนในการเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยได้เติบโตพัฒนาไปอย่างก้าวหน้าและมีความต่อเนื่องและเพื่อให้ผู้บริหารภาครัฐในหลายๆระดับได้เห็นภาพ
การเชิญผู้บริหารของภาครัฐมาร่วมงานจะทำให้ผู้บริหารภาครัฐได้มีการซึมซับวิสัยทัศน์ของภาคเอกชนและใช้อำนาจหน้าที่ ในการอำนวยความสะดวกส่งเสริมสนับสนุนและเป็นเครื่องจักรที่จะช่วยให้ภาคเอกชนได้ร่วมกันพัฒนาบ้านเมืองโดยมีภาครัฐคอยอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ภาครัฐพร้อมที่จะให้การสนับสนุนภาคเอกชนอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือในเรื่องของการบริหารการปกครอง และช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ได้ เป็นกลไกในการสนับสนุนอย่างเต็มที่เพราะถือว่ามีความจำเป็นในยุคที่ประเทศไทยต้องการฟื้นฟูเศรษฐกิจมั่นใจว่าผู้ว่าราชการจังหวัดทุกท่านจะตระหนักถึงความสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สำคัญจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศมั่นคงอย่างยั่งยืนและยืนอยู่บนเวทีโลกได้อย่างภาคภูมิ หากเอกชนมีปัญหาสามารถแจ้งต่อผู้ว่าราชการจังหวัดได้โดยตรง
อ่านข่าว:
โอนเงิน 10,000 บาท ซ้ำรอบ 2 ไม่สำเร็จ 43,699 คน