“นิคม” ได้รับคะแนนจากส.ว.มากกว่ากึ่งหนึ่งนั่งแท่นปธ.วุฒิฯคนใหม่

“นิคม ไวยรัชพาณิชย์” ได้รับเลือกจาก ส.ว.ด้วยคะแนนมากกว่ากึ่งหนึ่งให้เป็นประธานวุฒิสภาคนใหม่โดยประกาศที่จะทำหน้าที่ผู้นำของวุฒิสภา ด้วยความเป็นธรรมและเป็นกลางทางการเมืองพร้อมออกตัวการอภิปรายในอดีตเกิดขึ้นจากเจตนาที่จะหาทางออกให้รัฐสภาจากความขัดแย้งที่เกิดขึ้น

ตามขั้นตอนการเลือกประธานวุฒิสภา แทน พล.อ.ธีรเดช มีเพียร อดีตประธานวุฒิสภาที่ต้องพ้นจากตำแหน่งด้วยเหตุขาดคุณสมบัติ เพราะต้องคำพิพากษาคดีค้างเก่าระหว่างเป็นผู้ตรวจการแผ่นดินที่ขึ้นเงินเดือนให้ตนเองนั้น นายนิคม ไวยรัชพาณิช ได้รับเลือกด้วยคะแนน 77 คะแนนในรอบที่ 2 ขณะที่นายพิเชต สุนทรพิพิธ ผู้ได้รับการเสนอชื่ออีกคน ได้ 69 คะแนน โดยมีข้อสังเกตว่า คะแนนที่นายนิคมได้เพิ่มขึ้นจากรอบแรก มาจากคะแนนของนายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ ที่ตกรอบแรกไป เพราะได้ 35 คะแนน

โดยรอบแรก นายนิคม ได้ 46 คะแนน แต่นายพิเชต ได้คะแนนมาถึง 63 คะแนน ส่วน นางสุนันท์ สิงห์สมบุญ ผู้ที่เป็นส.ว.หญิงได้ 2 คะแนน แต่คะแนนของผู้ได้รับเลือก แม้จะสูงสุด และทิ้งห่างอย่างเห็นได้ชัด แต่กลับไม่ถึงกึ่งหนึ่งตามข้อบังคับจึงต้องเลือกใหม่ และเมื่อนำผู้ได้รับเลือกด้วยคะแนนอันดับ 1 และ 2 คือ นายนิคมและนายพิเชตเพียง 2 คน จึงเป็นข้อสังเกตได้ว่า เกิดจากตั้งใจให้เหลือตัวเลือกน้อยลง และแนวโน้มที่คาดการณ์ก็เป็นจริง คือมีการเทคะแนนให้คนใดคนหนึ่ง โดยมีรายงานว่า 31 คะแนนที่นายนิคมได้ ส่วนใหญ่มาจาก ส.ว.สายใต้ 25 เสียง ซึ่งพลิกกลับจากการสนับสนุนสายสรรหามาเป็นสายเลือกตั้ง และเสียงส่วนน้อย 6 เสียง ยังคงให้นายพิเชต

นายนิคม ไวยรัชพานิช เกษียณอายุราชการจากการเป็นปลัดกรุงเทพมหานคร แล้วลงสมัครรับเลือกตั้งส.ว.จังหวัดฉะเชิงเทรา ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 นายนิคม มีศักดิ์เป็นน้าชายของ นายสุชาติ ตันเจริญ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย หัวหน้ากลุ่มบ้านริมน้ำ และการได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ว.ก็มีกระแสว่าได้ฐานทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยมาสนับสนุน และหากพิเคราะห์จากท่าทีของการพิจารณาร่างกฎหมาย หรือการอภิปรายที่หลายครั้งนายนิคม แสดงทัศนะที่ชื่นชมรัฐบาล จนกลายเป็นที่มาว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยกำลังก้าวเข้ามาคุมเสียงในวุฒิสภา แต่คำว่า "ส.ว.เลือกตั้ง" ที่พ่วงท้ายชื่อของนายนิคม กลับเป็นเงื่อนไขสำคัญให้การพิสูจน์ผลงานในฐานะผู้แทนประชาชน