ตร.พร้อมประจำโรงสีข้าววันนี้ เพื่อตรวจสอบการจำนำข้าว ขณะที่ดีเอสไอลงพื้นที่สอบเหตุทุจริตที่สกลนคร
เจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ และตำรวจภูธรจ.สกลนคร สอบปากคำเกษตรกร 146 คน ในพื้นที่อ.พรรณานิคม อ.อากาศอำนวย และอ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร ที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ที่ลานรับซื้อกลุ่มเกษตรกรช้างมิ่ง อ.พรรณานิคม ซึ่งถูกลูกจ้างองค์การคลังสินค้า หรือ อคส. และตัวแทนเกษตรกรรวม 3 คน ร่วมกันทุจริต ด้วยการลดค่าความชื้น ลดน้ำหนักข้าว และออกใบประทวนปลอม สร้างความเสียหาย คิดเป็นมูลค่า 1.6 ล้านบาท
โดยพ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทรขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง ดีเอสไอ ระบุว่า จากการสอบปากคำและตรวจเอกสารหลักฐาน ทำให้เชื่อได้ว่ามีเจ้าหน้าที่ของ อคส.และเกษตรกรบางกลุ่ม ร่วมกันสวมสิทธิเกษตรกร และปลอมแปลงเอกสาร ซึ่งจะขยายผลหาตัวผู้กระทำผิดคนอื่น นอกเหนือจากผู้ต้องหา 3 คน ที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว
และวันนี้ (16 ส.ค.55) ดีเอสไอ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่ ออกสำรวจตรวจสอบโรงสีที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำในพื้นที่จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจเอกสารและสังเกตการณ์ขั้นตอน และ กระบวนการรับจำนำข้าว
ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ (15 ส.ค.55) ที่จ.บุรีรัมย์ ชุดสายตรวจเฉพาะกิจ กรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ พร้อมคณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการรับจำนำข้าวระดับจ.บุรีรัมย์ ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างข้าว เพื่อส่งไปทดสอบคุณภาพ และตรวจปริมาณข้าวในโกดังกลางทั้ง 9 แห่ง ในเขตอ.เมือง และอ.ประโคนชัย ที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อป้องกันการทุจริต แต่ไม่พบความผิดปกติ
และเมื่อวานยังเป็นวันแรก ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดส่งตำรวจ 5 นาย ประกอบด้วย รองผู้บังคับการ 1 นาย สารวัตร 1 นาย และเจ้าหน้าที่ระดับชั้นประทวน 3 นาย เข้าประจำโรงสีทั่วประเทศ ที่เปิดรับจำนำข้าวรอบพิเศษ ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันนี้จนถึง15 กันยายน 2555 โดยเจ้าหน้าที่ระบุถึงภาระกิจว่า เป็นภาระกิจเร่งด่วนที่ต้องเข้ามาดูแลขั้นตอนรับจำนำ เช่น การวัดน้ำหนัก ตรวจความชื้น เพื่อไม่ให้โรงสีเอาเปรียบเกษตรกร