วันนี้ (16 ส.ค.) รัฐสภา ที่ประชุมเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 วงเงิน 2.4 ล้านล้านบาทในขณะนี้ยังอยู่วรรค 2 ที่มาตรา 5 ว่าด้วย งบประมาณของสำนักนายกรัฐมนตรี โดย ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งข้อสังเกตการจัดสรรงบประมาณจำนวน 500 ล้านบาทเพื่อดำเนินการสร้างภาพลักษณ์ของประเทศ โดยตั้งข้อสังเกตถึงผลลัพธ์และประสิทธิผลของการดำเนินงาน
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ในสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์มีการเกลี่ยงบประมาณมาเพื่อใช้ในลักษณะเดียวกัน คือ งบประมาณในโครงการไทยเข้มเเข็ง ไทยสามัคคีและรักประเทศไทยในช่วงที่ประสบปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจและปัญหาทางการเมือง
ขณะที่ นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ตั้งข้อสังเกตถึงการเดินทางไปเยือนต่างประเทศของนายกรัฐมนตรีและคณะด้วยการเช่าเครื่องบินเหมาลำ จำนวน 15 ล้านบาทในการปฏิบัติภารกิจที่ประเทศอินเดียและสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณ โดยหากเทียบกับรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ใช้เงินเพียง 5 ล้านบาท
โดยนางฐิติมา ฉายแสง ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมาธิการวิาสามัย พิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯปี56 ชี้แจงว่า คุ้มค่าเพราะถือว่าเป็นการสร้างภาพลักษณ์ของประเทศ และคุ้มค่าเนื่องจากประชากรของประเทศอินเดียกว่า 1,000 ล้านคน ได้รู้จักนายกรัฐมนตรีของไทย
นอกจากนี้มีความเคลื่อนไหวนอกสภา นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เปิดเผยผลการหารือความร่วมมือกรณีแก้ไขปัญหาราคายางพาราระหว่าง 3 ประเทศคือ ไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซียว่า ได้กำหนดมาตรการร่วมกันในการปรับลดปริมาณการส่งออกยางพาราลง 300,000 ตัน โดยคำนวณการปรับลดตามปริมาณการส่งออก ปริมาณพื้นที่เพาะปลูกและการตัดต้นยางพาราเก่าทิ้งร่วม 100,000 ไร่ ซึ่งจะลดปริมาณลดยางพาราในตลาด 150,000 ตัน ซึ่งจะลดปริมาณยางพาราลงกว่า 450,000 ตัน