ภาคเอกชน เห็นพ้องดำเนินธุรกิจควบคู่การสร้างโอกาส-อาชีพให้ชุมชน 
พระพรพล ปสันโน พระจากวัดพระรามเก้ากาญจนาภิเษก กล่าวถึงหลักธรรมในงานเสวนา "คุณธรรมนำธุรกิจ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน" ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ว่า องค์กรธุรกิจแต่ละองค์กร ไม่ควรดำเนินธุรกิจเพียงเพื่อผลกำไรเท่านั้น แต่ควรนึกถึงการทำเพื่อสังคมส่วนรวม หรือรับผิดชอบต่อสังคม (ซีเอสอาร์) เนื่องจากการที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจนั้น มาจากลูกค้าที่บริโภคสินค้า และบริการ
นอกจากนี้การสร้างภาพลักษณ์ในองค์กรนั้นต้องทำจากภายใน ด้วยการโน้มน้าวพนักงาน และทุกคนในองค์กรในการเห็นความสำคัญของการให้ที่สำคัญนั้นการให้ไม่ควรให้แบบสำเร็จรูป หรือใช้เงินเพื่ออย่างเดียว แต่ควรเป็นการสร้างองค์ความรู้ให้ประชาชนมีการต่อยอดได้ด้วย
ด้านนายอรรถการ ตฤษณารังสี กรรมการผู้จัดการ บริษัทอะไหล่รถยนต์แห่งหนึ่ง กล่าวว่า การทำซีเอสอาร์นั้น ควรทำตอบแทนสังคมในสิ่งที่ตนเองถนัด เช่น บริษัทตนเองมีความรู้และความเชี่ยวชาญในการเครื่องยนต์ ก็สามารถแบ่งความรู้ให้แก่ประชาชน ด้วยการเปิดการอบรมเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว นอกจากนี้ การออกมายอมรับข้อผิดพลาดที่เกิดจากผลิตภัณฑ์ของตัวเองต่อสังคม ก็ถือเป็นการทำซีเอสอาร์เช่นกัน
ส่วนนายกฤษณา โสภา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัทเกี่ยวกับอาหารรายใหญ่ของประเทศ ระบุว่า คนและการปลูกฝังวัฒนธรรมในองค์กร คือ สิ่งสำคัญที่จะทำให้การทำซีเอสอาร์ประสบความสำเร็จ นอกจากนี้แล้ว ตนไม่เห็นความสำคัญในการทุ่มเงินเพื่อทำซีเอสอาร์ แต่ควรรู้จักมองว่า ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตนั้น สามารถสร้างขยะให้แก่โลกได้อย่างไร แล้วจึงจัดการส่วนนั้น ให้มีประโยชน์เกิดขึ้นกับสังคม เช่น การนำกล่องกะทิ หรือกล่องนมที่ได้รับบริจาคมาทำเป็นโต๊ะเรียน หรือสร้างอาคารเรียน และ การนำเศษอาหารมาหมักชีวภาพ เพื่อทำให้เกิดพลังงาน
ขณะที่นายอรุษ โสภา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด สถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในจ.นครปฐม กล่าวยืนยันว่า การทำซีเอสอาร์นั้นไม่จำเป็นต้องใช้เงิน แต่เป็นการสร้างโอกาส และรายได้ รวมไปถึงช่องทางในการสร้างอาชีพให้แก่ชุมชน เนื่องจาก แหล่งท่องเที่ยวที่บริหารอยู่นั้น เน้นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และนำคนในท้องถิ่นมาให้บริการ เช่น เป็นพนักงาน สอนชาวต่างชาติรำไทย แม้กระทั่งการเปิดพื้นที่ขายสินค้าเกษตรให้แก่ชาวบ้านด้วย