พายุเทมบิงช่วยทุเลาปัญหาแล้งน้ำในภาคอีสาน หลังมีฝนตกหนัก ขณะที่หลายจ.ภาคเหนือยังคงสร้างพนังกั้นน้ำ
ฝนที่ตกหนักในหลายพื้นที่ของจ.ยโสธร จากอิทธิพลของพายุเทมบิง ส่งผลให้นาข้าวเริ่มมีน้ำหล่อเลี้ยงต้นข้าวที่กำลังจะแห้งตายก่อนหน้านี้ หลังประสบปัญหาภาวะฝนทิ้งช่วงติดต่อกันหลายเดือน
เช่นเดียวกับนาข้าวในอ.เมืองศรีสะเกษ ที่เริ่มมีน้ำหล่อเลี้ยงเช่นกัน หลังเกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน จนชาวนาต้องเร่งระบายน้ำออกจากนาข้าว เพื่อป้องกันต้นข้าวถูกน้ำท่วมเสียหาย ขณะที่ป้องกันและบรรเทาสาธรณภัยจ.ศรีสะเกษ แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ติดแหล่งน้ำ และที่ลาดเชิงเขาให้เฝ้าระวังพายุฝน และน้ำป่าไหลหลากในช่วงปลายสัปดาห์นี้
ส่วนภาวะฝนทิ้งช่วง ยังคงส่งผลกระทบต่อนาข้าวในอ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์กว่า 60,000 ไร่ ที่กำลังจะแห้งตายเพราะขาดน้ำ หลังระดับน้ำในลำน้ำปาว มีระดับต่ำที่สุดในรอบ 20 ปี ซึ่งเกษตรกรคาดการณ์ว่า หากยังไม่มีฝนตกลงมาในพื้นที่ในช่วงเดือนนี้ ข้าวที่ปลูกไว้จะเสียหายทั้งหมด
ขณะที่นายคณิต เอี่ยมระหงษ์ ผู้ว่าราชการจ.บุรีรัมย์สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงพื้นที่การเกษตรกรได้รับความเสียหาย หลังประกาศพื้นที่ภัยพิบัติแล้งแล้ว 11 อำเภอ นาข้าวเสียหายไปแล้วเกือบ 1 ล้านไร่
ส่วนภาคเหนือหลายจังหวัดยังคงเร่งวางมาตรการรับมือน้ำท่วม เช่น จ.น่าน เจ้าหน้าที่เร่งก่อสร้างพนังกั้นน้ำน่าน และถนนยกระดับริมแม่น้ำน่าน ระยะทางกว่า 14 กิโลเมตร เพื่อป้องกันน้ำท่วมซ้ำซาก ในเทศบาลนครเมืองน่าน แต่ฝนที่ตกลงมา ก็ทำให้การก่อสร้างค่อนข้างล่าช้า ทำให้หลายชุมชนที่ถูกน้ำท่วมซ้ำซากทุกปี ต้องขนทรัพย์สินไปไว้ในที่ปลอดภัย
ขณะที่ชาวนาที่อาศัยอยู่ในพื้นที่สูง หรือ พื้นที่ดอนในจ.พิจิตร กลับต้องสูบน้ำใต้ดิน เพื่อใช้เป็นน้ำต้นทุนในการทำนา เนื่องจากฝนที่ตกลงมาระยะนี้ ไม่เพียงพอในการทำนา เช่นเดียวกับอีกหลาย ๆ จังหวัด ที่มีการเตรียมพร้อมรับมือก่อนที่จะถึงหน้าน้ำหลาก ทั้งการขุดลอกแม่น้ำ รวมทั้งซ่อมแซมสะพานที่ชำรุด จากน้ำท่วมปีที่แล้ว ให้มีความแข็งแรงมากขึ้น