พรุ่งนี้ จับตาวุฒิสภาเริ่มกระบวนการถอดถอน "สุเทพ" กรณีแทรกแซงข้าราชการ

26 ส.ค. 55
15:34
15
Logo Thai PBS
พรุ่งนี้ จับตาวุฒิสภาเริ่มกระบวนการถอดถอน "สุเทพ" กรณีแทรกแซงข้าราชการ

วาระสำคัญที่ของการประชุมวุฒิสภาวันพรุ่งนี้ ( 27 ส.ค.) คือการพิจารณาถอดถอนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ออกจากตำแหน่ง หลัง ป.ป.ช. ร้องต่อกรณีการใช้อำนาจหน้าที่แทรกแซงฝ่ายข้าราชการ ขณะที่ขั้นตอนการพิจารณาถอดถอนของวุฒิสภานั้นยังต้องใช้ระยะเวลาพิจารณาหลายขั้นตอนด้วยกัน ซึ่งประธานวุฒิสภาคนใหม่ได้ย้ำถึงความเป็นธรรม และ เป็นกลางในการพิจารณาตามข้อบังคับของกฏหมาย

 

<"">
 
<"">

หลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งประธานวุฒิสภาเมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา นายนิคม ไวยรัชพานิช เปิดใจถึงการทำหน้าที่ที่จะยึดหลักนิติรัฐและนิติธรรม โดยไม่ฝักใฝ่ฝ่ายการเมืองหรือปล่อยวางให้ฝ่ายการเมืองครอบงำ และ พร้อมจะเดินหน้าสร้างเอกภาพในองค์กร

แต่เมื่อถูกถามถึงวาระที่ค้างอยู่อาจรอพิสูจน์ความเป็นธรรมและเป็นกลางทางการเมือง กรณีกลุ่ม นปช.ยื่นถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และ ป.ป.ช.ยื่นเรื่องให้พิจารณาถอดถอนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ด้วยเหตุกระทำผิดรัฐธรรมนูญ เพราะใช้อำนาจหน้าที่รองนายกรัฐมนตรีก้าวก่ายแทรกแซงการทำงานของกระทรวงวัฒนธรรม ประธานวุฒิสภา ยืนยันว่า ที่จะดูแลควบคุมการประชุมให้เป็นไปตามข้อบังคับและกฎหมาย และย้ำที่จะความเป็นธรรมกับผู้ถูกร้องและผู้ร้อง

เช่นเดียวกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปตย์ที่ต้องการเห็นการทำหน้าที่ของวุฒิสภาพิจารณากรอบกติกาเป็นไปตามข้อเท็จจริง ซึ่ง นายสุเทพ พร้อมแล้วที่จะเดินทางไปชี้แจงวันพรุ่งนี้ ( 27 ส.ค.)

วุฒิสภาเรียกประชุมวันพรุ่งนี้มีวาระสำคัญพิจารณาเรื่องที่วุฒิสภาต้องดำเนินกระบวนการถอดถอนนายสุเทพ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีโดยขั้นตอนจะมีการเชิญ ป.ป.ช. และ ผู้ถูกกล่าวหา คือนายสุเทพ  หารือกำหนดแถลงเปิดสำนวน ซึ่งเบื้องต้นได้กำหนดไว้เป็นวันที่ 7 กันยายนนี้

นอกจากนี้ยังจะตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อซักถามจำนวน 5 คนด้วย หลังการซักถามจะมีการยื่นแถลงคำปิดคดีหากยื่นคำแถลงการณ์ปิดสำนวนด้วยวาจาประธานวุฒิสภาต้องนัดประชุมเพื่อรับฟังคำแถลงการณ์ ซึ่งกำหนดไว้เป็นวันที่ 17  กันยายน แต่ถ้าปิดสำนวนด้วยหนังสือก็ไม่ต้องนัดประชุมอีก และ ในวันที่ 18  กันยายนจะเป็นวันลงมติว่าจะถอดถอนหรือไม่ ทั้งนี้รัฐธรรมนูญมาตรา 274 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า มติที่ให้ถอดถอนผู้ใดออกจากตำแหน่ง ให้ถือเอาคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 5 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่อยู่ของวุฒิสภา หรือ 89 คน


ข่าวที่เกี่ยวข้อง