วันนี้ (19 ก.ย.2567) ราชตฤณมัยสมาคมฯ โดยบริษัท รอยัล สปอร์ต คอมเพล็กซ์ จำกัด แถลงข่าวระบุว่า จะเดินหน้าก่อสร้างสนามม้าแห่งใหม่บนพื้นที่ 3,000 ไร่ ในเขตหนองจอก ก่อนขยายเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หลังจากร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร มีผลบังคับใช้
ในการแถลงข่าวยังมีการลงนามร่วมกับกลุ่มแคปปิตัลทรัสต์ รับมอบสิทธิในบัญชีพร็อพเทรด 100 ล้านสิทธิ โดยระบุเป้าหมายเพื่อให้คนไทยเรียนรู้ด้านการลงทุน
ก่อนหน้านี้ ราชตฤณมัยสมาคมฯ ลงนามเดินหน้าโครงการร่วมกับ บริษัท พาวเวอร์ออลเน็ตเวิร์ค บริษัทลูกของกลุ่ม Foxconn จากฮ่องกง และมีแผนลงนามกับผู้เชี่ยวชาญด้านกีฬาม้าแข่งจากประเทศเกาหลีใต้
พ.อ.พันธุ์ธัช แสงโชติ ว่าที่เลขาธิการราชตฤณมัยสมาคมฯ เปิดเผยว่า ในวันที่ 21 ก.ย.นี้ จะมีการลงนามกับกลุ่มทุนรายใหญ่ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการจัดการแข่งขันม้า และสปอร์ตคอมเพล็กซ์ ตั้งเป้าหมายสร้างที่หนองจอง
เราจะไม่รอให้ พ.ร.บ.ผ่านก่อน แต่เราจะสร้างก่อน ตั้งเป้าหมายสร้างที่หนองจอง เพราะดูแล้วคลองเตยน่าจะใช้เวลานาน
ส่วนกลุ่มทุนใหญ่ที่มีจุุดแข็งด้านเมืองการบินอู่ตะเภา ยังแสดงความสนใจโครงการนี้เช่นกัน เพราะเมืองการบินอู่ตะเภา เนื้อที่ 6,500 ไร่ มีเป้าหมายพัฒนาเป็นศูนย์กลางการบินและเมืองธุรกิจสำคัญของภูมิภาคอยู่แล้ว ดังนั้นการลงทุนในเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์โดยมีผู้ร่วมลงทุน จึงเป็นแนวทางที่น่าสนใจ และหากร่างกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ การมีกาสิโนรวมอยู่ด้วย ก็อาจกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักลงทุนอีกทางหนึ่ง
นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินกรุงเทพฯ กล่าวว่า ได้เตรียมความพร้อมสาธารณูปโภค ถนน ระบบน้ำและระบบไฟ เพื่อให้ผู้สนใจเข้ามาเช่าพื้นที่ประกอบธุรกิจต่าง ๆ ทั้งโรงแรม ศูนย์การค้า ส่วนประกอบของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ทั้งการแสดงโชว์ สเตเดียม ร้านค้า ร้านอาหาร
เทียบร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรฉบับ กมธ.กับ สศค.
เมื่อมาดูร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ขณะนี้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ได้จัดทำร่าง พ.ร.บ.ขึ้นมาใหม่ และผ่านขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นไปเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา จากนี้กระทรวงการคลังจะส่งกลับไปให้ ครม.พิจารณาแก้ไขเป็นรายมาตราต่อไป
ประเด็นนี้เป็นที่จับตาของภาคประชาชน เพราะมีหลายจุดที่ถูกตัดตอนและแก้ไขเปลี่ยนแปลงไปจากร่างเดิมของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจรฯ หลายจุด เริ่มตั้งแต่การเพิ่มอำนาจคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร หรือที่เรียกว่า ซุปเปอร์บอร์ด ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ให้กำหนดจำนวนใบอนุญาต, เสนอแนะอัตราภาษีที่เกี่ยวข้องกับกาสิโน, กำหนดสัดส่วนพื้นที่ของกาสิโน และหากมีกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการ ก็ยังเสนอให้ ครม.แก้กฎหมายได้
ส่วนการอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งร่างเดิมของ กมธ.ระบุให้ใช้ระบบประมูล ก็ถูกปรับเปลี่ยนเป็นระบบอนุญาต ซึ่งให้อำนาจซุปเปอร์บอร์ด เป็นผู้พิจารณาอีกเช่นกัน ขณะที่อายุใบอนุญาตเพิ่มจาก 20 ปี เป็น 30 ปี
นอกจากนี้ ยังเปิดช่องให้ผู้ประกอบการให้สินเชื่อกับผู้เล่นพนันในสถานประกอบการกาสิโนได้
ส่วนประเด็นสำคัญที่ถูกตัดออกจากร่างเดิมของ กมธ. คือ การรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงกับพื้นที่ตั้งของสถานบันเทิงครบวงจร ประเด็นนี้ไม่มีในร่างของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เช่นเดียวกับหมวด 8 ที่ระบุถึงกองทุนป้องกันและฟื้นฟูผลกระทบจากการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งถูกตัดทิ้งทั้งหมวด โดยส่วนนี้ถูกโยกไปอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการนโยบายฯ ที่จะเป็นผู้กำหนดมาตรการว่าจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากน้อยเพียงใดไหน
นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดการพนัน กล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ในระยะเวลานาน เชื่อว่าในระยะถัดไป การบังคับใช้กฎหมายอาจไม่เข้มงวดเท่าช่วงแรก ซึ่งในอนาคตอาจมีภาพทั้งกาสิโนขนาดใหญ่ในกรุงเทพฯ หรือเมืองท่องเที่ยวสำคัญ รวมทั้งกาสิโนขนาดกลางและขนาดเล็กในท้องถิ่นต่าง ๆ ก็เป็นที่น่ากังวลว่ากฎหมายเปิดช่องขนาดนี้ เรียกว่าเป็นกฎหมาย "บ่อนบนดิน"
เครือข่ายเยาวชนฯ ค้านกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร
ขณะที่เครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน และเครือข่ายเด็กมีภูมิ พร้อมตัวแทนผู้ปกครอง ยื่นหนังสือถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผ่านนายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาของรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้หยุดเดินหน้าร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พร้อมตั้งคำถามว่า นโยบายสถานบันเทิงครบวงจรเป็นประโยชน์ในการดึงรายได้เข้าประเทศ หรือเป็นการเปิดช่องว่างให้กับกลุ่มนายทุน
อ่านข่าว : เยาวชนยื่นนายกฯ "ค้านกาสิโน" ชี้ในฐานะแม่ให้คิดถึงอนาคตลูก
ร่าง พ.ร.บ. เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ วาระซ่อนเร้น “กาสิโนถูกกฎหมาย”