ระหว่างเดินทางเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายชาดา ไทยเศรษฐ์ แถลงปฏิเสธที่จะนำศพบุตรชาย นายฟารุต ไทยเศรษฐ์ ผ่าพิสูจน์วิถีกระสุน หลังจากนายมั่น พูลทรัพย์ ผู้ต้องหาเข้ามอบตัวและระบุว่าจำเป็นต้องยิงตอบโต้ เพื่อป้องกันตัว เพราะถูกยิงก่อน
นายชาดา ยังได้กล่าวขอบคุณตำรวจทุกนายที่ร่วมติดตามคนร้าย โดยมั่นใจว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง แต่ผู้ที่เข้ามอบตัวไม่ได้พูดความจริงทั้งหมด เพราะมีผู้ที่กระทำความผิดร่วมด้วย และด้วยเหตุนี้จึงขอความเห็นใจจากสังคม เพราะคำรับสารภาพกำลังทำให้ตกเป็นจำเลยของสังคม
ขณะเดียวกันวันนี้(5 ก.ย.)เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานกลาง นำเครื่องสแกน 3 มิติ จำลองเหตุการณ์เพื่อตรวจหาวิถีกระสุน/ชนิดของปืนที่ใช้ก่อเหตุยิงบุตรชายนายชาดา ก่อนจะนำข้อมูลไปประมวลผลสรุปในสำนวนคดี นอกจากนี้ ตำรวจภูธรหมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พร้อมอาสมัครกว่า 100 คน กระจายกำลังค้นหาอาวุธปืนของกลางขนาด 9 มม. แต่ยังหาไม่พบ โดยพลตำรวจโท ภาณุ เกิดลาภผล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ระบุว่า สาเหตุที่ยังหาปืนของกลางไม่พบ เพราะผู้ต้องหาอาจจะจำตำแหน่งที่โยนทิ้งผิด /ชาวบ้านเก็บไป หรือเป็นการให้การไม่หมด ส่วนคำให้การที่ยังไม่สอดคล้องกันของพยาน คงต้องรอผลการตรวจวิถีกระสุนมาประกอบสำนวน ก่อนสรุปคดีให้เสร็จสิ้นภายในเดือนนี้(ก.ย.)