เปลี่ยนแผนทดสอบระบายน้ำ กทม. ฝั่งตะวันออกเป็นระบายน้ำที่ท่วมขังจากฝนตก
เครื่องผลักดันน้ำในคลองลาดพร้าวจากแผนงานเดิมที่ต้องเตรียมไว้เพื่อทดสอบ และคำนวนประสิทธิภาพการระบายน้ำ ถูกเปลี่ยนจากเพื่อทดสอบประสิทธิภาพ แต่กลับต้องทำงานจริง เพื่อเร่งระบายน้ำท่วมขัง หลังจากมีฝนตกหนักต่อเนื่องคืนที่ผ่านมา(6 ก.ย.) และปริมาณน้ำฝนที่วัดได้ คืนที่ผ่านมา มีมากถึง 30 และ 50 มม.
ผศ.รอยล จิตรดอน ประธานคณะทำงานทดสอบประสิทธิภาพการระบายน้ำในพื้นที่ปลายน้ำยืนยันว่า ประสิทธิภาพของเครื่องผลักดันน้ำ ทั้ง 10 เครื่อง และระบบเซ็นเซอร์ต่างๆที่ติดตั้งไว้ สามารถระบายภายใต้สถานการณ์จริงได้ดี ช่วยให้คลองลาดพร้าวระบายน้ำได้อย่างรวดเร็ว 10 ซม. ภายในครึ่งชั่วโมง และทำให้ประตูระบายน้ำคลองสอง ระบายน้ำเร็ว จาก 1 ม. เหลือ 0.8 ม.
แม้จะยกเลิกการทดสอบระบายน้ำในฝั่งตะวันออก แต่เครื่องผลักดันน้ำของกรุงเทพมหานครที่ประตูระบายน้ำคลองลาดพร้าว ยังเร่งความเร็วระบายน้ำในคลอง ลงสู่อุโมงค์รับน้ำคลองแสนแสบตลอดทั้งวัน จนกว่าระดับในคลองลาดพร้าวจะเข้าสู่ภาวะปกติ
ชาวชุมชนที่อาศัยอยู่ริมคลองลาดพร้าว ออกมาเฝ้าสังเกตการณ์ระดับน้ำในคลองลาดพร้าวที่เพิ่มสูงขึ้นทันที เพราะกังวลใจว่า ถ้าฝนตกหนักอีกในช่วงเย็นวันนี้ ปริมาณน้ำในคลองลาดพร้าวอาจสูงขึ้น และยังมีชาวชุมชนหลายคน
ส่วนการทดสอบการระบายน้ำฝั่งตะวันออก มติที่ประชุม กบอ.เห็นว่า การทดสอบระบายน้ำในสถาการณ์จริงเมื่อคืนวานนี้ มีประสิทธิภาพจึงยังไม่กำหนดวันทดสอบรอบ 2
ขณะเดียวกันผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครระบุว่าหาก กบอ.จะมีการทดสอบประสิทธิภาพระบายน้ำครั้งต่อไป ควรทดสอบหลังจากเดือน ต.ค.เพราะ ในช่วงเดือน ก.ย.จะมีฝนตกหนัก และเดือน ต.ค. ระดับน้ำทะเลหนุนสูง นอกจากนี้ กทม.ขอให้มีการทดสอบระบบระบายน้ำของกรมชลประทานด้วยโดยเฉพาะบริเวณคลองสุวรรณภูมิ เพื่อให้การทดสอบเต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น