ยังไม่ได้ข้อสรุปสร้างแนวกั้นน้ำรัศมี 120 เมตร กู้คืนพื้นที่เศรษฐกิจ จ.สุโขทัย

ปฏิบัติการกู้คืนพื้นที่เศรษฐกิจชั้นในของเทศบาลเมืองสุโขทัยธานีจังหวัดสุโขทัย ยังเดินหน้าต่อไป โดยมีภารกิจสำคัญในการซ่อมแซมคันกั้นน้ำที่ริมแม่น้ำยมที่เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง ส่งผลให้น้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่ จนถึงวันนี้นับเป็นวันที่ 4 แล้ว นอกเหนือไปจากแนวทางการซ่อมแซมยังมีแนวคิดที่จะสร้างแนวป้องกันน้ำในรัศมี 120 เมตร จากจุดคันกั้นน้ำที่เกิดความเสียหาย แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากหากมีการเลือกใช้แนวทางนี้จะต้องมีบ้านเรือนจำนวนหนึ่งถูกน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร

กล่องตาข่ายบรรจุหินถูกนำมาวางล้อมรอบแนวคันกั้นน้ำริมแม่น้ำยมที่ได้รับความเสียหายเพื่อชะลอความแรงของน้ำที่ทะลักเข้าเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี จังหวัดสุโขทัย ซึ่งตามแผนปฏิบัติการกู้คืนพื้นที่เศรษฐกิจเมืองสุโขทัย จะวางแนวกล่องตาข่ายเพื่อลดความแรงของน้ำ ก่อนจะใช้ถุงทรายอุดรูรั่วเพื่อป้องกันน้ำอีกชั้นหนึ่ง

ความพยายามของเจ้าหน้าที่ตลอดทั้งวันยังคงเดินหน้าต่อไป เนื่องจากคันกั้นน้ำที่เกิดพังเสียหายกินบริเวณกว้างประกอบกับปริมาณน้ำในแม่น้ำยมที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้น และ ไหลเชี่ยวแรง ทำให้การซ่อมแซมด้วยวิธีนี้ยังไม่ได้ผล 100 เปอร์เซ็นต์

มีข้อเสนอในการแก้ปัญหาคันกั้นน้ำที่เสียหายด้วยการสร้างแนวป้องกันน้ำใหม่ในรัศมี 120 เมตรจากจุดที่เสียหาย ซึ่งจะช่วยกั้นน้ำไม่ให้ไหลเข้าเขตเทศบาลเมืองได้ แต่แนวทางนี้ยังคงมีปัญหาอยู่ว่า หากดำเนินการจะมีบ้านเรือนประชาชนในจุดที่ก่อสร้างได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ซึ่งอาจทำให้น้ำท่วมบ้านและอาคารพาณิชย์สูงกว่า 2 เมตร

แม้จะมีความพยายามอย่างต่อเนื่องในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานีอย่างต่อเนื่อง นับจนถึงวันนี้เป็นวันที่ 4 และยังมีการประเมินว่า 1-2 วันนี้ สถานการณ์น้ำน่าจะลดระดับลง แต่สำหรับชาวบ้านยังไม่มั่นใจกับการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น และเกรงว่าน้ำจะท่วมขังนาน ขณะนี้จึงเริ่มมีการสำรองอาหารและเครื่องใช้จำเป็นเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว

นอกจากแนวทางการซ่อมแซม และสร้างคันกั้นน้ำใหม่ ขณะนี้กรมชลประทานได้เร่งระบายน้ำในแม่น้ำยมไปยังคลองสาขาต่างๆ เพื่อลดระดับน้ำในแม่น้ำยมไม่ให้ไหลทะลักเข้าพื้นที่เศรษฐกิจชั้นใน ซึ่งแน่นอนว่าพื้นที่ที่ถูกผันน้ำไปจะได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน เช่น ตำบลปากแดง ตาลเตี้ย และบ้านสวน ซึ่งถูกคาดการณ์ว่าจะเป็นพื้นที่แรกๆ ที่ได้รับผลกระทบต่อจากบริเวณนี้

สำหรับสถานการณ์ในขณะนี้จากประชากรในเทศบาลเมืองสุโขทัยธานีทั้งหมด 17,000 คน ได้รับความเดือดร้อนแล้ว 12,000 คน หรือ ประมาณ 4,000 ครอบครัว มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 1,000 ล้านบาท