น้ำเหนือไหลบ่า ชาวบ้านใน จ.พิษณุโลกเร่งขนย้ายข้าวของ
สถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือหลายจังหวัดยังน่าเป็นห่วง โดยมวลน้ำเหนือที่ไหลจาก จ.สุโขทัย มาตามแม่น้ำยมสายเก่า เริ่มส่งผลกระทบกับพื้นที่ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก จนชาวบ้านต้องขนย้ายสิ่งของไปไว้บริเวณริมถนน โดยมวลน้ำใน อ.พรหมพิราม จะหลากเข้าท่วมพื้นที่ ต.บ้านกร่าง อ.เมืองพิษณุโลก และต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำต่อไป
ขณะที่หลายลุ่มน้ำในภาคเหนือ ยังต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดแม่น้ำวัง ซึ่งจะไหลไปสมทบกับแม่น้ำปิงที่ จ.ตาก และรวมเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาที่ จ.นครสวรรค์ เริ่มล้นพนังคันดิน เข้าท่วมชุมชนริมน้ำ 3 หมู่บ้านใน ต.แม่สลิด ต.บ้านตาก จ.ตาก บ้านเรือนได้รับผลกระทบกว่า 400 หลัง นาข้าวกว่า 4,000 ไร่จมอยู่ใต้น้ำ
เช่นเดียวกับลำคลองสาขาต่างๆ ที่มีระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะคลองบางพระหลวง คลองสาขาของแม่น้ำยม ซึ่งจะไหลไปรวมกับแม่น้ำปิง เป็นแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ ต.ปากน้ำโพ อ.เมืองนครสวรรค์เช่นกัน ขณะนี้น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนแล้วกว่า 20 หลัง บ้านต้องขนย้ายทรัพย์สินไปไว้บนเชิงสะพานคลองบางพระหลวง
ขณะที่จังหวัดภาคกลาง ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ซึ่งรับมวลน้ำมาจากภาคเหนือ ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ตามเส้นทางระบายน้ำมีปริมาณสูงขึ้น เจ้าหน้าที่ต้องติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ เพื่อระบายน้ำที่ทะลักจากท่อเข้าท่วมตัวเมืองอ่างทอง ขณะที่ ต.จำปาหล่อ อ.เมืองอ่างทอง และ ต.โผงเผง อ.ป่าโมก มีผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมแล้วกว่า 100 หลัง
นอกจากนี้ยังทำให้ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขต จ.พระนครศรีอยุธยาสูงขึ้นอีก 30 ซม. และล้นตลิ่งเข้าท่วมนาข้าวใน อ.บางบาลและ อ.ผักไห่ โดยวันนี้(12 ก.ย.) จ.พระนครศรีอยุธยา จะประชุมหาแนวทางช่วยเหลือ หลังจากเมื่อวานได้ประกาศให้ 6 อำเภอ เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินน้ำท่วมแล้ว
ขณะที่ผู้โดยสารรถไฟสายเหนือที่เดินทางจากกรุงเทพมหานครไปยัง จ.เชียงใหม่ สามารถใช้บริการได้ตามปกติแล้ว หลังรางรถไฟที่ถูกน้ำป่าซัดชำรุด บริเวณสถานีขุนตาน-สถานีทาชมภู ต.ทาชมภู อ.แม่ทา จ.ลำพูน ได้รับการซ่อมแซมเสร็จแล้ว อย่างไรก็ตามการเดินรถในระยะแรก ยังประสบปัญหาล่าช้าเล็กน้อย เนื่องจากขบวนรถไฟต้องชะลอความเร็ว เมื่อผ่านจุดที่เพิ่งได้รับการซ่อมแซม