เฝ้าระวังเหตุน้ำท่วม หลังการซ่อมแซมประตูระบายน้ำบางโฉมศรีไม่คืบหน้า
ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่แม้จะมั่นใจแนวทางการรับมือน้ำท่วม แต่ยังเรียกร้องให้กรมชลประทาน เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงโดยเฉพาะถนนเลียบคลองมหาราช เพราะหากแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น จุดนี้อาจเป็นพื้นที่ล่อแหลม และส่งผลให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยปีที่ผ่านมา (2554) ได้
เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งก่อสร้างโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำบริเวณประตูระบายน้ำบางโฉมศรี ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ที่ขณะนี้ดำเนินการไปแล้วกว่าร้อยละ 25 ซึ่งช้ากว่าแผนที่กำหนดไว้ เพราะต้องใช้เวลานานหลายเดือนเพื่อนำตระกร้าแกลเบี้ยน ที่วางไว้ชะลอน้ำในจุดที่ชำรุดกว่า 84 เมตรออกทั้งหมด
การก่อสร้างในระยะเวลา 2 ปี ภายใต้งบประมาณกว่า 500 ล้านบาท จะรื้อโครงสร้างประตูระบายน้ำเดิมที่มีอายุมากกว่า 50 ปีทิ้ง แล้วปรับรูปแบบในลักษณะท่อลอด หรือไซฟ่อน ลอดคลองส่งน้ำชัยนาท - อยุธยา หรือ คลองมหาราช ขนาด 4 ประตู ระบายน้ำได้สูงสุด 160 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มากกว่าเดิมที่ 145 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยกรมชลประทาน ได้เตรียมแผนรองรับผลกระทบจากการก่อสร้าง เช่น สร้างคลองส่งน้ำให้กับพื้นที่เกษตรกรรมกว่า 370,000 ไร่ได้มีน้ำใช้ พร้อมสร้างระบบป้องกันน้ำท่วม
นายชยันต์ เมืองสง ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างที่ 9 กรมชลผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างที่ 9 กรมชลประทาน บอกว่า ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ รวมถึงคันดินที่ยกไว้สูงกว่าระดับน้ำที่เคยท่วมเมื่อปีที่แล้ว (2554) เป็นการสร้างความมั่นใจว่าจะสามารถป้องกันน้ำท่วมได้ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่ไม่ต้องกังวล
แม้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้กับบริเวณประตูระบายน้ำจะค่อนข้างมั่นใจในมาตรการป้องกันน้ำท่วมของกรมชลประทาน แต่บทเรียนน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตรเมื่อปลายปีที่แล้ว (2554) ทำให้พวกเขายังไม่นำของใช้ลงมาจากชั้น 2 ของบ้าน โดยนายชูชาติ พวงอินทร์ ชาวบ้าน ต.ท่างาม อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรีชาวบ้าน ยังตั้งข้อสังเกตว่า ถนนเลียบคลองมหาราช ที่ตัดผ่านแนวสันของประตูระบายน้ำบางโฉมศรี ที่มีสภาพเก่า อาจเป็นจุดเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง หากปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับสูงขึ้น