เจ้าหน้าที่ระดมกำลังช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม จ.สระแก้ว
เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองอรัญประเทศ ตำรวจตระเวนชายแดน กองกำกับการที่ 12 และ ทหารจากกรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ ยังคงนำเรือ และรถขนาดใหญ่เข้าช่วยเหลือชาวบ้าน เขตเทศบาลเมืองอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เนื่องจาก ชุมชน 11 แห่ง จากทั้งหมด 18 แห่ง ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร และน้ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะที่ชุมชนบ้านอรัญ ที่ระดับน้ำในบางจุดท่วมสูงเกือบ 2 เมตร เนื่องจากเป็นชุมชนที่รับน้ำจากคลองพรหมโหด ซึ่งรับน้ำป่าจากอำเภอวัฒนานคร และ จากตำบลหนองสังข์ และตำบลหันทราย ทำให้กระแสน้ำไหลเชี่ยวแรง การช่วยเหลือชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จึงค่อนข้างยากลำบาก
ส่วนที่บริเวณหมู่ 5 ตำบลบ้านใหม่หนองไซ ระดับน้ำยังคงทรงตัว เฉลี่ยที่ 1 เมตร ถึง 1 เมตร 50 เซนติเมตร ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้าน ส่วนใหญ่รู้สึกวิตกกังวล เนื่องจากฝนที่ยังตกในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว อาจทำให้น้ำจากตำบลหนองสังข์ และตำบลหันทรายไหลเข้ามาสมทบ ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำที่ท่วมขังเพิ่มสูงขึ้น โดยภาพรวมขณะนี้มีผู้เดือดร้อนแล้วกว่า 20,000 คน บางจุดมีการตัดกระแสไฟฟ้าเพราะน้ำท่วมสูงถึงหม้อแปลง
ส่วนที่บริเวณตลาดเทศบาลตำบลกบินทร์ อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นย่านชุมชนค้าขายได้ถูกน้ำจากแควหนุมาน เอ่อล้นตลิ่ง และไหลเข้าท่วมถนนเส้นทางหลัก ตั้งแต่ชุมชนซอยไปรษณีย์ จนถึงบริเวณตลาดสดเทศบาล และปริมาณน้ำเริ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ร้านค้าต่างๆ ในบริเวณตลาดสด ต่างซื้ออิฐบล็อกมาก่อกำแพงกั้นบริเวณด้านหน้าร้าน เพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าท่วม พร้อมทั้งขนย้ายทรัพย์สินภายในร้านไว้ในที่สูง ขณะที่เทศบาลตำบลกบินทร์ได้จัดเจ้าหน้าที่ช่วยกันกรอกกระสอบทราย พร้อมช่วยชาวบ้านขนย้ายสิ่งของบ้านเรือนที่อยู่
สำหรับสาเหตุน้ำท่วมในพื้นที่เทศบาลตำบลกบินทร์ในครั้งนี้ เป็นน้ำที่ไหลมาจากแควใสน้อยใสใหญ่ อำเภอนาดี ที่รับน้ำมาจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ขณะเดียวกัน มีน้ำจากจังหวัดสระแก้ว ที่ไหลมาตามแควพระปรงเข้ามาสมทบ ประกอบการระบายน้ำทำได้ล่าช้า ทำให้น้ำในแควหนุมานไม่สามารถระบายได้ทัน น้ำจึงท่วมตลาดเทศบาลเร็ว และมากขึ้น
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดชลบุรียังคงทรงตัวอยู่ที่ 50 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร เนื่องจากพื้นที่อำเภอพนัสนิคม และ อำเภอพานทอง มีลักษณะเป็นที่ราบลุ่ม แอ่งกระทะ ทำให้น้ำที่ไหลมาจากพื้นที่สูงในอำเภอบ่อทอง และอำเภอเกาะจันทร์ ท่วมขังในพื้นที่ ถนน 30 สาย สัญจรไม่ได้ ประชาชนกว่า 100 หลังคาเรือน รวมเกือบ 400 คน ได้รับความเดือดร้อน ทางจังหวัดต้องเร่งนำอาหาร และน้ำดื่มไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ขณะเดียวกัน ได้นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 2 เครื่อง เร่งสูบน้ำ ระบายลงสู่แม่น้ำบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยคาดว่าหากฝนไม่ตกหนักลงมาอีก ก็จะสามารถระบายน้ำได้หมดภายใน 15 วัน