เมื่อวันที่ 11 เม.ย.2568 CNN รายงานว่า สมาคมคณาจารย์แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พร้อมด้วยองค์กรระดับชาติของสมาคมคณาจารย์มหาวิทยาลัยอเมริกัน (AAUP) ลุกขึ้นสู้ด้วยการยื่นฟ้องรัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์ อย่างดุเดือด ประกาศสงครามในศาลเพื่อปกป้องเงินทุนรัฐบาลเกือบ 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่ฮาร์วาร์ดได้รับทุกปี
คดีนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่เป็นการต่อสู้เพื่อเสรีภาพทางวิชาการและสิทธิในการพูด ที่กำลังถูกเหยียบย่ำอย่างไม่เคยมีมาก่อน คณาจารย์ระบุว่ารัฐบาลกำลังจ้องทำลายรากฐานของการศึกษา และพวกเขาจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด
ทุกอย่างเริ่มขึ้นเมื่อต้นเดือน เม.ย. เมื่อฮาร์วาร์ดได้รับจดหมายจากคณะทำงานรัฐบาลกลาง ที่พยายามบีบมหาวิทยาลัยให้ยอมจำนน จดหมายฉบับนี้สั่งให้ฮาร์วาร์ดยกเลิกโครงการด้านความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการยอมรับความแตกต่าง (Diversity, Equity, and Inclusion หรือ DEI) ห้ามนักศึกษาสวมหน้ากากในที่ชุมนุมประท้วง และให้ความร่วมมือเต็มที่กับกระทรวงความมั่นคงแห่งชาติในการกวาดล้างด้านตรวจคนเข้าเมือง พร้อมปฏิบัติตามกฎระเบียบทุกข้อแบบไม่ให้ขยับตัวได้
ตามรายงานของ The Harvard Crimson และสื่ออื่น ๆ ข้อเรียกร้องนี้ถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของแผนการอันโหดร้ายของทรัมป์ที่ต้องการปราบปรามการต่อต้านยิวในมหาวิทยาลัย หลังจากเหตุประท้วงเดือดทั่วสหรัฐฯ ที่เชื่อมโยงกับสงครามอิสราเอล-ฮามาสในกาซา
คณาจารย์ที่ยื่นฟ้องระบุว่า การกระทำของรัฐบาลทรัมป์เป็น "ภัยคุกคามที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน" ต่อความเป็นอิสระของมหาวิทยาลัยและสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของทั้งคณาจารย์และนักศึกษา คำฟ้องระบุชัดเจนว่ารัฐบาลกำลังพยายามบีบบังคับให้ฮาร์วาร์ดยอมรับการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่ขัดต่อหลักการพื้นฐานของสถาบันการศึกษา โดยใช้เงินทุนรัฐบาลเป็นเครื่องมือกดดัน ซึ่งเปรียบได้กับการ "จ่อปืนที่ศีรษะ" ของมหาวิทยาลัย

ที่มา : Harvard University
ที่มา : Harvard University
คดีนี้ยังอ้างว่ารัฐบาลละเมิดรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ฉบับแก้ไขครั้งที่ 1 ซึ่งรับรองเสรีภาพในการพูด และหัวข้อที่ 6 ของกฎหมายสิทธิพลเมือง (Title VI of the Civil Rights Act) ซึ่งห้ามการเลือกปฏิบัติในโครงการที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลกลางบนพื้นฐานของเชื้อชาติ สีผิว หรือชาติกำเนิด
นอกจากนี้ คำฟ้องยังเตือนว่าการตัดเงินทุนดังกล่าว "กำลังจะเกิดขึ้นในทันที" โดยอ้างถึงกรณีที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบียถูกตัดเงินสนับสนุน 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐไปก่อนหน้านี้ ซึ่งทำให้โคลัมเบียต้องปรับนโยบายครั้งใหญ่ เช่น การยกเลิกกฎการจ้างงานที่เน้นความหลากหลาย และการเปลี่ยนแปลงหลักสูตรบางส่วนเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของรัฐบาล การกระทำนี้ถูกมองว่าเป็นการยอมจำนนต่อแรงกดดัน ซึ่งฮาร์วาร์ดไม่ต้องการให้เกิดขึ้นกับสถาบันของตน
เราจะสู้สุดใจเพื่อปกป้องเกียรติยศและอุดมการณ์ของสถาบันที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้
จดหมายจากคณะทำงานของรัฐบาลถูกส่งมาเพียงไม่กี่วันหลังจากที่กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ และสำนักงานบริหารงานทั่วไปของสหรัฐฯ ประกาศตรวจสอบเงินสนับสนุนจำนวน 8,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และสัญญามูลค่ากว่า 255 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่เกี่ยวข้องกับฮาร์วาร์ดและหน่วยงานในเครือ
คณาจารย์ที่ยื่นฟ้องยืนยันว่า การกระทำของรัฐบาลไม่ได้เพียงคุกคามเงินทุนเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบร้ายแรงต่อการวิจัยและการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยแล้ว คำฟ้องระบุว่า การตรวจสอบนี้ทำให้งานวิจัยบางส่วนต้องหยุดชะงัก รวมถึงโครงการที่ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับข้อกล่าวหาเรื่องการต่อต้านยิวหรือการละเมิดสิทธิมนุษยชน เช่น งานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์ที่อาจช่วยชีวิตผู้คนได้
รัฐบาลพยายามบังคับให้ฮาร์วาร์ดเปลี่ยนหลักสูตรและวาระการวิจัย ให้สอดคล้องกับอุดมการณ์ที่ทรัมป์ชื่นชอบ พวกเราเรียกว่านี่คือ การกดขี่ทางความคิด ที่ยอมรับไม่ได้
ก่อนหน้าการประกาศตรวจสอบเงินทุนเพียงไม่กี่วัน คณาจารย์เกือบ 800 คนของฮาร์วาร์ดได้ส่งจดหมายถึงสภามหาวิทยาลัยและคณะกรรมการกำกับดูแลของฮาร์วาร์ด เรียกร้องให้สถาบันต่อต้านข้อเรียกร้องของรัฐบาลทรัมป์ และออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีมหาวิทยาลัยทั่วสหรัฐฯ
อลัน การ์เบอร์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ออกมาแสดงความเห็นหลังได้รับแจ้งเรื่องการตรวจสอบว่า หากเงินทุนถูกตัดจริง จะส่งผลให้งานวิจัยที่ช่วยชีวิตผู้คนต้องหยุดชะงัก และกระทบต่อการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมที่สำคัญของชาติ
นอกจากนี้ แอนดรูว์ มานูเอล เครสโป ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายของฮาร์วาร์ดและที่ปรึกษากฎหมายของสมาคมคณาจารย์ฮาร์วาร์ด กล่าวในแถลงการณ์ว่า รัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขครั้งที่ 1 ไม่ยินยอมให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้ตำแหน่งเพื่อปิดปากผู้วิจารณ์หรือกดขี่การแสดงออกที่พวกเขาไม่เห็นด้วย
คดีนี้จึงไม่ใช่แค่การต่อสู้เพื่อเงินทุนของฮาร์วาร์ดเท่านั้น แต่ยังเป็นการปกป้องหลักการของเสรีภาพทางวิชาการและสิทธิในการแสดงออก ซึ่งเป็นรากฐานของระบบการศึกษาในสหรัฐฯ การต่อสู้ในชั้นศาลครั้งนี้อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่กำหนดความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับสถาบันการศึกษาในอนาคต
อ่านข่าวอื่น :
“สงครามการค้า” ฉุดเศรษฐกิจโลก ดัน ดัชนีเชื่อมั่นฯทองคำ ไตรมาส 2 พุ่ง 18.99%
"ทรัมป์" ยกเว้นรีดภาษีสมาร์ตโฟน-คอมพิวเตอร์-อิเล็กทรอนิกส์