ครม.รับทราบการยุบสภาฯ ทำความเข้าใจแนวทางปฏิบัติ

การเมือง
10 พ.ค. 54
08:23
10
Logo Thai PBS
ครม.รับทราบการยุบสภาฯ ทำความเข้าใจแนวทางปฏิบัติ

ครม.รับทราบการยุบสภาฯ ขณะที่นายกรัฐมนตรียืนยันต่อที่ประชุมว่าฝ่ายกัมพูชาจะต้องถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ก่อนที่จะ ส่งผู้สังเกตการณ์จากประเทศอินโดนีเซียเข้าไปในพื้นที่

นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ว่า ที่ประชุม ครม.ได้รับทราบเรื่องพระราชกฤษฎีกายุบสภาเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ได้มีการหารือเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติงานใน ภาพรวมเกี่ยวกับหน้าที่ของแต่ละฝ่ายหลังจากยุบสภา โดยหลังจากนี้จะมีการเรียกประชุม ครม.เป็นครั้งคราวเพื่อพิจารณาในวาระที่ สำคัญซึ่งในวันพุธที่ 18 พฤษภาคม จะมีการเรียกประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับวาระที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอมา เรื่องแนวทางการส่งผู้สังเกตการณ์เข้าไปในพื้นที่บริเวณชายแดนไทยกัมพูชา ซึ่งในวันนี้นายกรัฐมนตรีได้ ยืนยันในที่ประชุมว่าฝ่ายกัมพูชาจะต้องถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ก่อนที่จะ ส่งผู้สังเกตการณ์จากประเทศอินโดนีเซียเข้าไปในบริเวณดังกล่าว

นาย ปณิธาน ยังเปิดเผยด้วยว่า นายกรัฐมนตรีอาจมีการนัดหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ก่อนวันอังคารหน้าเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับระเบียบและข้อบังคับ ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง  เช่นการใช้รถประจำตำแหน่ง

ด้าน นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าที่ประชุม ครม.รับทราบข้อเสนอและผลการประชุมของ ครม.ชุดเล็ก โดยเห็นชอบให้กำหนดราคาปุ๋ยเคมี 6 สูตร และเห็นชอบให้มีการเปลี่ยนชื่อโครงการเป็นโครงการส่งเสริมการใช้ปุ๋ยเพื่อลด ต้นทุนการผลิตของเกษตรกร นอกจากนี้ ยังเห็นชอบในการชดเชยส่วนต่างให้กับเกษตรกรในอัตรากิโลกรัมละ 1.50 บาท รวมทั้งเห็นชอบอนุมัติกรอบวงเงินในการดำเนินโครงการจำนวน 3,901 ล้านบาท

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้มอบหมายให้นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับติดตามช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย หรือ คชอ. ดูแลแก้ไขปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้นจากภัยธรรมชาติ

นายวัชระ ยังกล่าวด้วยว่า ที่ประชุม ครม.ได้รับทราบรายงานตามที่ พล.ต.อ.วิเชียร  พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรื่องสรุปตัวเลขปัญหาอาชญากรรมในรอบเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยมีการแยกเป็น 3 กลุ่มคดี ได้แก่คดีอุจฉกรรจ์ ลดลงร้อยละ 23.25 คดีประทุษร้ายร่างกายลดลงร้อยละ 19.65 คดีประทุษร้ายทรัพย์ลดลงร้อยละ 15.14 โดยได้ข้อสรุปว่าการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในภาพรวมมีประสิทธิภาพ เพราะตัวเลขอาชญากรรมลดลง


แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง