หลายจังหวัดภาคใต้เฝ้าระวังน้ำท่วม
ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ถนนแยกผังเมืองสาย ก. และสี่แยกโรงพยาบาลป่าตอง เขตเทศบาลเมืองป่าตอง อำเภอกระทู้ จังหวัดภูเก็ต ระดับน้ำสูงเฉลี่ย 50 เซนติเมตร - 1 เมตร ทำให้การสัญจรไปมาเป็นไปด้วยความยากลำบาก สำหรับบริเวณนี้เป็นจุดที่เกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก และเพิ่งผ่านเหตุการณ์น้ำท่วมไป เมื่อ 2 เดือนก่อน ส่วนในย่านธุรกิจของเมืองภูเก็ต โดยเฉพาะบริเวณถนนถลาง ขณะนี้มีการนำกระสอบทรายไปวางเพื่อป้องกันน้ำทะเลหนุน และน้ำจากคลองบางใหญ่เอ่อล้นเข้าท่วม
ส่วนในจังหวัดกระบี่ น้ำจากเทือกเขาพนมเบญจา ตำบลทับปริก อำเภอเมือง ไหลลงสู่คลองทับปริก และเพิ่มปริมาณขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้สวนปาล์มน้ำมัน และสวนยางพาราของชาวบ้านกว่า 100 ไร่ ล่าสุดมีการประกาศเตือนประชาชนใน 8 อำเภอ รวม 39 ตำบล เฝ้าระวังดินโคลนถล่ม และน้ำป่าไหลหลากแล้ว
ขณะที่จังหวัดสตูล นายกฤษติพงษ์ คงแข็ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กล่าวว่า ได้รับหนังสือด่วนที่สุดแจ้งการเตือนภัยจากกรมอุตุนิยมวิทยา ถึงสถานการณ์ฝนตกหนัก และคลื่นลมแรง โดยเบื้องต้นขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาที่ราบลุ่ม และใกล้ทางน้ำไหลผ่าน โปรดระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งขอให้ติดตามรายงานสภาพอากาศจากหน่วยงานภาครัฐอย่างใกล้ชิดด้วย โดยได้มีการติดตั้งธงชาติให้ติดสถานการณ์ฝนตกหนักอย่างใกล้ชิด
ส่วนที่จังหวัดพังงา ยังมีฝนตกหนักตลอดวันทั้งวัน ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสำนักป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดได้แจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ติดกับลำคลอง และอาศัยอยู่ติดกับเชิง ให้ระวังน้ำท่วมฉับพลัน ดินโคลนถล่ม ส่วนในทะเลคลื่นสูง 2-3 เมตร
ด้านนายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย หรือ กบอ. กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคใต้ ยังคงต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากร่องมรสุม และความกดอากาศต่ำกำลังเคลื่อนตัวพาดผ่านทางภาคใต้ของไทย ซึ่งจะส่งผลกระทบให้เกิดฝนตกหนัก และมีความกังวลว่าจะเกิดพายุไต้ฝุ่น ในลักษณะเดียวกับพายุเกย์ที่เคยเกิดขึ้นที่จังหวัดชุมพร เมื่อปี 2532 ซึ่งทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ และสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับบ้านเรือนของประชาชน