ฟุตบอลโตโยต้าลีกคัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ที่สนามลีโอ สเตเดี้ยม บางกอกกล๊าส เอฟซี พบ แชมป์เก่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ครึ่งแรกผ่านไป 24 นาที จากจังหวะฟรีคิกของ จักรพันธ์ แก้วพรม บอลมาเข้าทาง ชินโนะซึเกะ ฮอนดะ ยิงเข้าไปให้บุรีรัมย์ขึ้นนำ 1-0 ครึ่งหลัง บุรีรัมย์ มาได้ประตูนำห่าง 2-0 จากการหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงของ โกรัน เยอร์โควิช นาทีที่ 68 ถึงนาทีที่ 77 แฟนบอลในสนามเริ่มมีหวัง เมื่อ บางกอกกล๊าส ได้ประตูตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2 จาก ชาตรี ฉิมทะเล และนาทีสุดท้าย แฟนเจ้าถิ่นได้ดีใจกันทั้งสนาม อาจายี เบ็งกา ยิงมุมแคบผ่านตัวของ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เข้าไป บางกอกกล๊าส ตีเสมอเป็น 2-2
แต่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย เป็น บุรีรัมย์ ที่มาได้ลูกจุดโทษ วาเรลี เฮียก ไปสกัด เอกชัย สำเร ล้มลง ท่ามกลางการประท้วงของนักเตะบางกอกกล๊าส และแฟนบอลที่ไม่พอใจขว้างปาขวดน้ำลงมาในสนาม ก่อนที่เอ็ควัลลา เฮอร์มัน จะยิงเข้าไปให้ บุรีรัมย์ บุกมาชนะ บางกอกกล๊าสแบบสนุก 3-2 หลังจบเกมกองเชียร์เจ้าถิ่นไม่พอใจตะโกนต่อว่าผู้ตัดสิน นิวัฒน์ อินสอาด ทำให้เจ้าหน้าที่สนามต้องลงไปรักษาความปลอดภัยให้กับคณะผู้ตัดสิน
ส่วนอีกคู่ในรอบรองชนะเลิศที่สนามกีฬากลางจังหวัดราชบุรี ราชบุรี มิตรผล ทีมจ่าฝูงในยามาฮ่าลีกวัน พบ ทีโอที เอสซี เกมนี้มีเพียงประตูเดียว และเป็นประตูชัยของ ราชบุรี จากผลงานของ ดั๊กกลาส การ์โดโซ่ นาที 65 หลังจบเกมโค้ชของทีโอทีแสดงอาการไม่พอใจการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน และได้ลงไปในสนาม ทำให้กองเชียร์ราชบุรีโห่ไล่พร้อมขว้างปาขวดน้ำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องเข้ามานำตัวโค้ชของทีโอที และนักฟุตบอลออกจากสนาม เพื่อป้องกันความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น