เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ สอบปากคำ ผู้ปลูกหอมแดง 28 คน ในอำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ อีกครั้งซึ่งก่อนหน้านี้ คณะอนุกรรมการตรวจสอบการบริหารจัดการหอมแดง และ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปช.ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีทุจริตรับซื้อหอมแดง และมีข้อสรุปว่า มีการสวมสิทธิ์และมีการเรียกเก็บค่าหัวคิวจากเกษตรกร โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง
นายภูวิทย์ ยมหา ผู้อำนวยการสืบสวนสอบสวนศูนย์บริหารคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุว่า การลงพื้นที่ของดีเอสไอเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่ม ซึ่งจากการสอบปากคำเกษตรกรพบว่าถูกสวมสิทธิ์ และยังไม่ได้รับเงินตามโครงการแทรกแซงราคา ทั้งรอบแรก และรอบที่ 2 ซึ่งดีเอสไอจะเร่งสอบปากคำเกษตรกรและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อสรุปสำนวนเสนอต่อคณะกรรมการพิจารณารับเป็นคดีพิเศษ
ส่วนที่โกดังเทศบาลตำบลยางชุมน้อยอำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นจุดที่เกษตรกรนำผลผลิตเข้าร่วมโครงการ พบปัญหาทุจริตด้วยการสวมสิทธิ์ และยังเกิดปัญหาหอมแดงที่เก็บในโกดังเน่าเสียกว่า 2 ตัน
ขณะที่วานนี้องค์การคลังสินค้าหรือ อคส.ได้เปิดให้พ่อค้าเข้าร่วมประมูลเป็นวันแรกเพื่อระบายหอมแดง หลังจากที่ผ่านการตรวจเช็คสต็อกจากทางคณะกรรมการระบายหอมแดงระดับจังหวัด โดยกำหนดราคาเริ่มต้นที่กิโลกรัมละ 25 สตางค์ แต่ตลอดทั้งวันไม่มีพ่อค้ารายใดสนใจเข้าร่วมประมูล เนื่องจากพบว่าหอมแดงกว่าร้อยละ 95 มีสภาพเน่าเสีย จนไม่สามารถนำไปส่งโรงงานแปรรูปหรือทำพันธุ์หอมแดงต่อไปได้