สถานการณ์น้ำท่วม
ทหารกว่า 50 นาย ยังคงเร่งสร้างสะพานชั่วคราวบนถนนทางเข้าหมู่บ้านวังชัน ตำบลวังกุ้ง อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี ที่ถูกกระแสน้ำซัดขาดกว่า 30 กิโลเมตรจนทำให้ชาวบ้านถูกตัดขาด ขณะที่น้ำได้ทะลักเข้าท่วมในหลายพื้นที่ โดยคาดว่า จะใช้เวลา 5-6 วันจึงจะแล้วเสร็จ
น.ส.จิตรา พรหมชุติมา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เปิดเผยว่า น้ำที่ท่วมในจังหวัดปราจีนบุรีขณะนี้มีมวลน้ำ 2 ก้อน ก้อนแรกมีปริมาณ 192 ล้านลูกบาศก์เมตร อยู่ในพื้นที่ 120,000 ไร่ บริเวณบ้านเพชรชะเอิม คลองบางไซ บ้านหอย บางไผ่ บางบริบูรณ์ ซึ่งจะไหลลงสู่แม่น้ำปราจีนบุรี โดยสามารถระบายได้วันละ 71 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ส่วนมวลน้ำก้อนที่ 2 อยู่ที่บริเวณชลประทานบางพลวง จำนวน 250 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถระบายน้ำได้ 36 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน
อย่างไรก็ตามการระบายน้ำต่าง ๆ จนถึงด่านสุดท้ายที่บ้านบางกระเจ็ด และ คูมอญ และ บ้านบางกระดาน นั้น ต้องประสบปัญหา เนื่องจากจังหวัดนครนายกมีการระบายน้ำจากคลองระพีพัฒน์เช่นกัน ส่งผลให้น้ำในจังหวัดปราจีนบุรีเอ่อล้น และนิ่งไม่สามารถระบายน้ำลงแม่น้ำบางประกงได้ โดยจังหวัดปราจีนบุรีขณะนี้มีพื้นที่ถูกน้ำท่วมใน 7 อำเภอ คืออำเภอกบินทร์บุรี ศรีมหาโพธิ นาดี บ้านสร้าง ศรีมโหสถ ประจันตคาม และ อ.เมืองปราจีนบุรี
ส่วนที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสัก ล่าสุดได้ลดระดับลงแล้วกว่า 20 เซ็นติเมตร แต่ในพื้นที่ลุ่มเช่นในอำเภอเสนา บางบาล ผักไห่ ยังคงมีน้ำท่วมขัง ประชาชนยังสัญจรไปมายากลำบาก ทำให้โรงพยาบาลเสนา และ โรงพยาบาลใกล้เคียง ต้องส่งแพทย์เคลื่อนที่เข้าไปดูแลโดยเฉพาะคนชรา และ คนพิการ เนื่องจากไม่สามารถเดินทางไปรักษาที่โรงพยาบาลได้
ส่วนที่อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ชาวนาในท่านางงาม ต้องเร่งจ้างรถเกี่ยวมาเกี่ยวข้าว ไปขายฝากไว้ที่โรงสีเพื่อเข้าโครงการรับจำนำของรัฐบาลทันที หลังได้รับคำเตือนว่าจะมีฝนตกหนักอีกวันที่ 4-5 ตุลาคมนี้ โดยจังหวัดพิษณุโลกยังมีน้ำท่วมใน 3 อำเภอคือ อำเภอพรหมพิราม บางระกำ และ อ.เมือง บางจุด
เช่นเดียวกับจังหวัดพิจิตรน้ำท่วมขังมานานกว่า 2 สัปดาห์ ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่บ้านจระเข้ผอม ตำบลรังนก อำเภอสามง่าม ชาวบ้านต้องซื้ออาหารกักตุนไว้มากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากคาดว่า น้ำจะท่วมขังยาวนานหลายเดือน
ขณะที่จังหวัดมหาสารคาม น้ำในแม่น้ำชีที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากมวลน้ำที่ไหลจากชัยภูมิ และผลกระทบที่คาดว่า จะได้รับจากอิทธิพลพายุโซนร้อนเกมีทำให้ชลประทานจังหวัด เตือนให้ประชาชนที่อาศัยริมฝั่งแม่น้ำชีในอำเภอเชียงยืน กันทรวิชัย โกสุมพิสัย และ อ.เมืองมหาสารคาม เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
ส่วนสภาพอากาศที่จังหวัดเลยที่เริ่มมีหมอกในตอนเช้าทำให้อุตุนิยมวิทยาจังหวัดเลย เตือนประชาชนที่สัญจรผ่านในเขตเทศบาลเมืองเลย และถนนเส้นหลักที่เชื่อมไปยังอำเภอภูเรือ เชียงคาน และ อ.วังสะพุง เพิ่มความระมัดระวังเนื่องจากทัศนวิสัยการมองเห็นได้เพียงไม่เกิน 100 เมตรเท่านั้น