สำรวจตลาดมือถือก่อนเปิดประมูลคลื่น 3 จี
ขณะเดียวกันก็ให้จับตาตลาดแท็บเล็ตที่จะขยายตัวเพิ่มมากขึ้นแบบก้าวกระโดด ถึงร้อยละ 50 จากความต้องการในการใช้งานด้านเอกสาร และความบันเทิง เพราะมีหน้าจอที่ใหญ่กว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่
ประชาชนจำนวนมาก เข้าร่วมชมสินค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือ ไทยแลนด์ โมบาย เอ็กโป 2012 หนาแน่นกันตั้งแต่เริ่มงานเมื่อเวลา 10.00 น. ปีนี้ (2555) เป็นปีแรก ที่นายโอภาส เฉิดพันธุ์ จัดงานมหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2012 ประเมินว่า จะมีผู้เข้าชมงานมากกว่าทุกปี โดยเฉพาะแค่วันแรก ก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 20 ซึ่งการจัดงานที่เกี่ยวกับอุปกรณ์สื่อสาร ในครั้งนี้ นับเป็นงานใหญ่ที่เกิดขึ้นหลังจากไทยผ่านพ้นวิกฤตน้ำท่วม และประสบปัญหาภาวะเศรษฐกิจ
นายโอภาสยังกล่าวว่า เป็นปีแรกที่ราคาเครื่องสมาร์ทโฟนพุ่งสูงที่สุดกว่าทุกปีในราคา 22,000 บาท จากในแต่ละปีจะมีราคาเพดานสูงสุดอยู่ที่ 18,000 บาท และอาจเป็นราคาจำหน่ายที่สูงสุดในภูมิภาคเอเชีย แต่ก็ไม่ทำให้ความต้องการของผู้บริโภคลดลง ขณะที่คนเข้าชมงานหลายคนมาที่นี่เพื่อทดสอบสินค้าหลายๆ รุ่น เพื่อให้ได้รุ่นที่ต้องการมากที่สุด
ภาพรวมตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไทยพบว่า ปัจจุบันมีเลขหมายโทรศัพท์ในระบบของกสทช.จำนวน 70 ล้านเลขหมาย แต่ยังมีจำนวนผู้ใช้สมาร์โฟน เพียง 10 ล้านเครื่องเท่านั้น และก็มีแนวโน้มจะเติบโตเพิ่มขึ้นอีก 14 -17 ล้านเครื่อง ในปีหน้า แต่การเติบโตนี้ทางผู้จัดงาน ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการประมูล 3 จี เนื่องจากเป็นความต้องการของผู้บริโภคอยู่แล้ว
ขณะที่โทรศัพท์รุ่นธรรมดาที่ไว้รับสายเรียกเข้า -หรือโทรออกนั้น ก็ยังมีอยู่ในงานแต่ไม่มากนัก แต่ลูกค้าหลายคนก็ยังมาถามหา โดยเฉพาะกลุ่มที่ประจำสำนักงาน หรือ ซื้อให้เด็กใช้
ในการประมูล 3 จี ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 16 ต.ค.นี้ ลูกค้าของค่ายมือถือ ที่เข้าประมูลนั้น มีรวมกันในระบบปัจจุบัน 70 ล้านราย แต่สิ่งสำคัญที่ประชาชาชนส่วนใหญ่คาดหวัง คือ ค่าใช้บริการแพคเก็จโทรศัพท์ และอินเตอร์เน็ตที่ถูกกว่าในปัจจุบัน รวมถึงระบบสัญญาณที่เสถียร ไม่หลุดบ่อย หรือเกิดปัญหาล่ม เหมือนในหลายๆ เช่นที่ผ่านมา